OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: Classified (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=7) +--- Forum: ซื้อ-ขาย / Buy-Sell (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=8) +--- Thread: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ (/showthread.php?tid=13347) |
OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - pood - 30-05-2012 โปรดทราบ (เนื่องจากยังมีคนโทรฯเข้ามาวันละหลายครั้ง) "กีต้าร์ในกระทู้นี้ขายหมดแล้วนะครับ ขอบคุณที่สนใจครับ" ขอเปิดบ้านกลางปีเป็นครั้งแรกครับ ครั้งนี้มีขายแค่สิบกว่าตัวเองครับ เนื่องจากกีต้าร์ที่นำมาขายคราวนี้ไม่ใช่กีต้าร์ที่หาใด้ทั่วไปหรือถ้าหาไม่ยากก็ราคาไม่ใช่ราคาที่ผมขาย ผมจะขอลงรูปและรายละเอียดไปเรื่อยๆก่อนนะครับโดยยังไม่ลงราคาขายโดยมีเหตุผลดังนี้ 1. กีต้าร์ล้อตนี้มีหลายตัวที่เป็นระดับ high end ซึ่งผมเห้นมีคนเอามาขายกันเยอะมากในช่วงนี้ ผมก็เลยกัดฟันปล่อยบ้าง ถ้าดันทะลึ่งลงราคาไปเลยว่าผมปล่อยเท่าไหร่เดี่ยวมีคนแอบเคืองครับ 2. ตามปกติคนที่ซื้อกีต้าร์ตอนผมเปิดบ้านจะเสียเปรียบคนที่ย่องมาซื้อเงียบๆตอนขายต่อเพราะคนอื่นเขารู้ว่าซื้อมากี่บาท คราวนี้ถ้าไวพอก็ไม่เสียเปรียบครับ ผมจะลงราคาขายเมื่อลงกีต้าร์หมดก่อนครับ ใครที่สนใจจะซื้อก็ PM, Email หรือโทรศัพท์มาถามราคาใด้ครับ (คนที่เคยอยากใด้ตอนผมไม่อยากขายก็ถามราคาใหม่ใด้ครับ) ผมจะเปิดคอนโดให้มาลองเสียงกันในวันอาทิตย์และวันจันทร์ที่ 3,4 มิถุนายนครับ ลูกค้าเก่าไม่ต้องวางเงินจองครับ แผนที่คอนโดครับ 5/113 Centurion Park อารีย์ซอย 5 ถ้ายังไม่สะดวกมาลองจะจองไว้ก่่อนก็ใด้ครับแต่คราวนี้ขอไม่กำหนดระยะเวลาการจองสามเดือนนะครับเพราะคราวที่แล้วมีน้าท่านหนึ่งจองไว้สองตัวแล้วไม่ใด้มาเอา ผมก็ไม่ใด้อยากริบเงินจองและกีต้าร์ทั้งสองตัวนั้นผมก็ยังไม่กล้าขายคนอื่นด้วย หมายเลขบัญชีครับ นาย กฤษณ สุจริตกุล ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากเกร็ด บัญชีออมทรัพย์ 142-2-38205-2 แจ้งโอนทาง SMS ฟรี เบอร์โทรฯ 081-821-7999 RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - veedemort - 30-05-2012 ตอกบัตร ... ตรึ๊ดๆ RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - pood - 30-05-2012 1. Martin Porter Wagoner "Wagon Master" Custom Signature Edition (New Old Stock) Martin รุ่นนี้ตอนออกมาใหม่ๆเมื่อปลายปี 2007 ผมว่าหน้าตามันแปลกดีแต่ไม่ใด้สนใจที่จะซื้อหรอก มาวันหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้วน้า Rham ก็ยกตัวนี้มาอวดที่บ้านผมและบอกว่าเป็นกีต้าร์มือหนึ่งที่เพิ่ง bid ใด้มาในราคาแสนสองหมื่นบาท ผมลองอยู่สองนาทีก็ขอซื้อต่อทันทีเลยครับเพราะเสียงของมันผมชอบมากกว่า D-42 และ D-45 อีก ต้องขอขอบคูณน้า Rham ที่กรุณาปล่อยและขออนุญาติขายนะครับเพราะมันนอนอยู่ในกล่องมาสามปีแล้วโดยที่ผมหยิบมาเล่นน้อยมาก ตอนนี้กลิ่น rosewood ยังหอมฟุ้งเหมือนเดิมครับ ราคามือหนึ่งครับ (เพิ่งก้อปจากเว้บ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีขายอยู) สเป็คครับ โครงสร้างเป็น forward shifted เหมือนรุ่น Vintage ไม้หน้าเป็น engelmann spruce กล่องเป็นรุ่นแพงสุดของ Martin ครับ Abalone ทุกชิ้นที่ใช้ในรุ่นนี้เขาบอกว่าเป็น "Highly Colorful" สีแสบสันกว่าหอยในรุ่น standard เยอะครับ ไม้หลังและข้างเป็น indian rosewood ตัวนี้ผลิตปลายปี 2008 เป็นตัวที่ 54 ตอนนั้น Porter ตายไปแล้ว (แต่ยังเซ็นชื่อใด้เฉยเลย) ใน UMGF เขาบอกว่ารุ่นนี้มียอดผลิตทั้งสิ้น 72 ตัวเท่านั้น http://theunofficialmartinguitarforum.yuku.com/topic/110725/D41-Porter-Wagoner เอกสารยังอยู่ครบนอกจาก warranty registration ซึ่งเขาไม่ให้ถ้าเป็นกีต้าร์ที่ซื้อใน eBay ที่เขาไม่รับประกันตลอดชีพ สนใจก็ติดต่อมาครับ RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - acidjazz - 30-05-2012 ลุ้นๆๆๆ เข้ามา Refresh ทุก 10 นาที RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - pood - 30-05-2012 ผมจะโพสต์ตามราคาขายโดยไม่แยกประเภทกีต้าร์นะครับ 3...Fender Custom Shop 1960 Stratocaster NOS, Gold Hardware รุ่นนี้ราคาเมืองไทยถ้าเป็นอุปกรณ์ชุบทอง 135,000 บาทลด 10% ครับ สีไข่ไก่หรือที่เขาเรียกว่า Olympic White สี custom color ของ Fender สมัยนั้นก็ใช้สีตามสีของรถยนตร์อเมริกันที่ดังๆแหละครับ ดังนั้นก็เลยมีชื่อแปลกๆที่ตั้งตามชื่อสีของรถยนตร์อย่างเช่น Fiesta Red, Shoreline Gold หรือ Olympic White เป็นต้น สี Olympic White นี่เป็นสีรถ Cadillac ปี '58-'62 Case ของรุ่น 1960 เป็นหนังสีน้ำตาล ไม่ใช่ tweed เหมือนรุ่นปีเก่าอื่นๆครับ กีต้าร์ตัวนี้อุปกรณ์สีทองดูเด่นมากเพราะตัดกับพื้นสีขาวเหมือนรุ่น Mary Kaye Tribute ที่ออกมาปีเดียวกัน ตัวนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของมันนอนอยู่ในกล่อง พวกอุปกรณ์สีทองเลยยังเหลืองอร่ามเพราะไม่เคยโดนขี้มือคนเล่นครับ Pickup ทั้งสามตัวเป็นรุ่น Custom '60 ที่มากับรุ่นนี้เท่านั้น เสียงหนานุ่มมากและไม่จี่ด้วย มีที่เขี่ยบุหรี่แถมมาเหมือน original finger board เป็น rosewood Fret markers เป็น clay dots Case candies มีมาเพียบ ตัวนี้ใส่ 5-way pickup switch อยู่และมี 3-way switch ซึ่งเป็นสเป็คของปี '60 ให้มาในกล่องด้วยครับ สภาพอั้มครับ เสียงดีมากด้วยแต่ผมมีรุ่นนี้สองตัว (เสียงเหมือนกันเด๊ะ) ตัวนี้ถ้าลงราคามีหวังโดนแน่นอน 4...Guild F-47MC DTAR Antique Burst ตัวนี้สภาพ 100% เพราะเป็นกีต้าร์ค้างสต้อคไม่ใช่มือสองครับ รุ่นนี้มีสามสีคือ Natural, Iced Tea Burst และ Antique Burst ซึ่งราคาแพงกว่าสีอื่น $100 เพราะทำ burst ทั้งตัวไม่ใด้ทำเฉพาะไม้หน้า รุ่นนี้เป็นรุ่นแพงสุดรุ่นหนึ่งของ Guild USA แต่เพิ่งเลิกผลิตไป ตอนนี้ยังมีขายอยู่ครับ คอกว้าง 1 11/16" scale 25.5" ไม้หน้าเป็น adirondack spruce ครับ ไม้ข้าง ไม้หลังเป็น flamed maple ซึ่งเสียงกลมกลืนกับ adirondack spruce มาก น่าแปลกใจว่าทำไมไม่ค่อยมีใครทำกีต้าร์สเป็คนี้ออกมาขายกัน DTAR Lock & Load มีปุมปรับ volume tone ใต้ sound hole เสียงเปล่า เสียงผ่านแอมป์ล้วนๆครับ RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - shood - 30-05-2012 หัวใจจะวาย RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - doyz - 30-05-2012 Taylor ซุ่มเสียงไพเราะมากเลยครับ RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - pood - 30-05-2012 5...2000 Rainsong WS-1000 Original Model ผมทึ่งกับกีต้าร์ยี่ห้อนี้มานานเกินสิบปีแล้วครับตั้งแต่ใด้ลองตัวจริงเสียงจริงของมันที่อเมริกา พอมารู้เบื้องหลังก็ยิ่งนับถือคนทำเข้าไปใหญ่ WS-1000 เป็นกีต้าร์ที่ผสมสานทรง Grand Auditorium กับความลึกของทรง D เข้าด้วยกัน มันออกวางตลาดในปี 2000 และใด้รับความนิยมเป็นอย่างมากจน Rainsong ที่มีโรงงานเล็กๆอยู่ที่ Hawaii และมีกำลังผลิตแค่วันละ 4 ตัวต้องเลิกผลืตรุ่นอื่นหมดแต่ก็ยังผลิตไม่ทันขายอยู่ดี ในปี 2001 Rainsong เลยตัดสินใจอพยพมาอยู่ที่รัฐ Washington เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มกำลังผลิตเป็นสองเท่า ทุกวันนี้ก็ยังมียอดผลิตแค่ปีละหนึ่งพันตัวครับ ราคาของรุ่นนี้ครับ ตอนนี้ Original WS-1000 ที่ผลิตในฮาวายก็เลยกลายเป็นรุ่นสะสมไปเพราะรุ่นปี 2001 ถึงปัจจุบันนั้นใด้มีการลดต้นทุนเยอะมากเพื่อลดราคาขายครับ อย่างเช่นเปลี่ยนกล่องจากรุ่นแพงสุดของ TKL มาเป็น molded case รุ่นประหยัดของ SKB เปลี่ยน fret board inlasy จาก abalone มาเป็น pearl และเปลี่ยน logo จาก abalone ที่เป็น inlay บน finger board มาเป็นลูกลอกแปะที่หัว ระบบปรีแอมป์ก็เปลี่ยนจาก Fishman Prefix Blender มาเป็น LR Baggs Element ในตอนแรกและ Fishman Prefix Plus T ในปัจจุบัน กีต้าร์น้ำหนักเบามากแต่ case หนักมากครับ มีพวงกุญแจแถมมาด้วย Serial number Case candies ครบครับ รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่นี่เสียงเปล่าเหมือนกันครับเพราะไม่มีการเปลี่ยนวัสดุหรือโครงสร้าง กีต้ารยี่ห้อนี้เสียงดังมาก ตอนอัดตัวนี้ผมต้องลด master gain ลงมา 6 dB เสียงเปล่าครับ เสียงจาก pickup ล้วนๆครับ ตัวนี้สภาพเหมือนใหม่ครับและถ้าคุณไมเอามันไปฟาดหัวใครอีกห้าสิบปีมันก็ยังเหมือนใหม่อยู่ดี 6...1993 Taylor 712 ผมเคยมีอคติกับกีต้าร์ยี่ห้อนี้อย่างแรงในสมัยก่อนเพราะผมคิดว่าเสียงของมันน่าประทับใจตอนที่ไปลองครั้งแรกเกือบทุกรุ่นทุกตัวแต่พอมาอยู่ด้วยกันนานๆแล้วก็เริ่มเลี่ยนเสียงทุกครั้งเลยครับ ผมเคยมีเกือบทุกทรงและไม้หลากชนิดตั้งแต่ mahogany ยัน brazilian rosewood แต่ก็ขายทิ้งไปทุกตัวจนหมดบ้านมาหลายปีแล้ว ที่โกรธมากสุดคือ Pre ES รุ่นแรกที่เสียทุกตัวจนผมสาปส่งว่าจะไม่คบยี่ห้อนี้อีกแล้ว ผมลืมนึกไปว่า Taylor ทุกตัวที่ผมเคยมีนั้นผลิตระหว่างปี 2000-2005 ซึ่งเป็นยุคบูมของ Taylor ที่มียอดขายปีละแปดหมื่นตัวและเป็นกีต้าร์อเมริกันที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง มาวันหนึ่งมีเพื่อนเอารุ่น 514 ที่ผลิตปี 94 หรือ 95 มาให้ผมลอง ผมแทบช้อคกับเสียงของมันเพราะถึงมันจะไม่สะดุดหูในหนึ่งนาทีแรกแต่ยิ่งฟังก็ยิ่งชอบเพราะมันมีรายละเอียดเสียงครบครัน ต่อมาก็ใด้มีโอกาสไปลองรุ่น high end ใหม่ๆที่บ้่านน้าวันละเป๊กอีก คราวนี้เลยเริ่มเสาะหาทั้งรุ่น vintage และรุ่นใหม่ล่าสุดเลยครับ ที่ลงขายทั้งตัวนี้และ BTO ก็เพราะอยากเอาสตางค์ไปสมทบทุนเพื่อเสาะหาตัวใหม่ๆต่อไปเท่านั้นแหละครับ มาดูกีต้าร์ตัวนี้กันครับ Taylor ตอนนั้นยังมียอดผลิตแค่ปีละห้่าพันตัว ตา Bob แกเลยทำกล่องเอง ตอนหลังพอยอดขายมากขึ้นก็เลิกและไปจ้างให้เมืองจีนผลิตให้ครับ ตอนนั้น series 7 ใช้ไม้หน้าเป็น engelmann spruce เหมือน series 9 เพิ่งมาเปลี่ยนเป็น cedar top ในปี 1998 ครับ 1993 เป็นปีแรกที่เอา abalone มาใช้ใน series นี้ ตอนนั้นยังไม่ใด้ใช้ NT joint คอยังเป็นไม้ชิ้นเดียวครับ ไม้หลังและไม้ข้าง bookmatched ใด้สวยมาก เสียงดีมากสำหรับ finger style ครับ สภาพน่าจะสวยที่สุดที่ผมเคยเห็นสำหรับกัต้าร์อายุเกือบยี่สิบ ไม่มีรอยให้ถ่ายรูปมาอวดเลย RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - pood - 31-05-2012 ตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายของคืนนี้ครับ 7...Gibson L-00 1936 Reissue (1999) Gibson L-00 เป็นรุ่นที่น่าสับสนที่สุดของยี่ห้อนี้เพราะมีสเป็คหลากหลายมากแม้หน้าตาจะคล้ายกัน ผมก็เคยซื้อรุ่นนี้มาหลายตัวแล้วแต่เก็บตัวนี้ไว้ตัวเดียวแถมยังติด active Ibeam ให้มันด้วยเพราะคิดว่าจะเก็บแต่ตอนนี้ Gibson ล้นบ้านแล้วเลยต้องปล่อยๆซะบ้าง ตัวนี้กล่องสวยเพราะมีกากเพ็ชรประดับมาด้วย ไม้หน้า sitka spruce Mahogany side and back รุ่น 1936 Reissue นี่ด้านข้างหนามากครับ (5") คนส่วนมากถ้าพูดถึง L-00 ก็จะคิดว่าเสียงของมันจะใสๆ sustain สั้นเหมาะสำหรับการเล่น Blues แม้แต่ Gibson เองก็ชอบเอาชื่อ L-00 ไปใช้กับกีต้าร์ Blues อย่างเช่นสองรุ่นนี้ L-00 Blues King รุ่นนี้ราคาถูก ไม่มีกล่องให้ ลองฟังเสียงดูครับ Gibson L-00 Keb Mo "Bluesmaster" รุ่นนี้ราคาเกินแสน ไม้หน้าเป็น adirondack spruce ครับ คลิปข้างบนคือเสียงของ L-00 ที่ Gibson เอามาใส่สำเนียง Blues แต่ original 1936 L-00 นั้นไม่ใช่กีต้าร์ที่มีสำเนียง Blues แม้แต่น้อย (ในยุคนั้นถ้าจะเล่น Blues ก็ต้องใช้ L-1) มาลองฟังเสียงกีต้าร์ตัวนี้กับเพลงหวานๆกันครับ เสียงออกแอมป์ยังไม่ใด้อัดครับเพราะเพิ่งตัดสินใจปล่อยวันนี้เอง ขอพักครึ่งสำหรับวันนี้ครับ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ กีต้าร์ที่ลงไปทั้งหมดราคาห้าหมื่น up ทุกตัวครับ ส่วนที่เหลือนั้นราคาต่ำกว่าห้าหมื่นทุกตัวครับ RE: OPEN HOUSE 5.5 เปิดบ้านกลางปีครับ - piggyprince - 31-05-2012 รูปสวยซะขนาดนี้ คิวคงยาวเหยียดแน่ๆครับพี่กฤษณ์ แวะมาเชียร์ครับ ^ ^ รอชมที่เหลือ |