NimitGuitar webboard
ห่วงใย - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2)
+--- Thread: ห่วงใย (/showthread.php?tid=5967)

Pages: 1 2


ห่วงใย - custom - 26-01-2010

Rolleyes ผมได้รับ mail แล้วรู้สึกว่าน่าจะเอามา post ให้น้าๆ อ่านกัน ผมว่าคนเรากินอาหารอะไรก็ให้ครบหมู่ อย่าท่านแต่อย่างที่ชอบน่ะครับ เดียวจะเป็นแบบนี้
Shy
หวัดดีเพื่อนๆ

เมื่อวานอ่านเรื่องราวการสูบบุหรี่ของพี่เล็กแล้วก็เลยอยากเล่าประสพการณ์ตรงของผมเองให้เพื่อนๆฟัง เพื่อเป็นข้อควรระวังนะครับ... อาจยาวหน่อยนะ

ช่วงประมาณปี 2542 น้ำหนักผมอยู่ที่ราวๆ 73 กก.
ช่วงนั้นสอนกวดเข้ามหาวิทยาลัยช่วงเสาร์-อาทิตย์... ยืนสอนวันละ 8
ชั่วโมง ปวดน่องมาก... เลยมีความคิดว่าจะลดความอ้วนน่าจะช่วยได้...
จึงได้ตื่นตั้งแต่ตี 5... วิ่งออกกำลังกายรอบสนามทุกวันๆละประมาณ 3 กม...ทานอาหารครบทุกมื้อ ไม่อดอาหารนะครับ งดน้ำอัดลม...

ภายใน 8 เดือน
เพื่อนๆเชื่อไหมครับว่า... ผมสามารถลดน้ำหนักได้ 17 กก.
คำนวณเองนะครับว่าเหลือกี่กิโล... มีกล้ามท้องด้วยนะครับ... Sit-up และ ทำกายบริหารหลังวิ่งเสร็จ... ยืนสอนหนังสือ 8 ชั่วโมง/วัน สบายมากไม่ปวดขาเลยครับ... คนที่ไม่ค่อยจะเจอกันหรือนานๆเจอกันที จะตกใจ...เจอเพื่อนต้องตอบคำถามทุกคน... จากผอมมาอ้วน...โอเค ไม่โดนถามมาก...

แต่ถ้าอ้วนมาเป็นผอมเยอะๆเนี่ย... เป็นปัญหามาก... พี่ที่ทำงาน
นั่งติดกัน กลัวผมมาก ซื้อขนมมาฝาก ไม่กล้ากิน บอกว่าอิ่มแล้ว...
แต่ไปแย่งกินของคนอื่น [T_T]...

เลขา ชื่อหมูถึงขั้นเอาไปฝัน โดยเล่าให้ฟังว่า
" หนูฝันเห็นว่าพี่ทรงพลเป็นเอดส์ ตัวผอมแห้งเหลือแต่หนังติดกระดูก...
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พี่.... หนูใจแข็งเข้าไปทักพี่...
หนูสงสารพี่มากๆเลย... " เฮ้อ... เคยคิดจะพิมพ์อธิบาย
ว่าลดความอ้วนอย่างไร โดยไม่อดอาหาร ไม่ต้องกินยา...
เพราะเวลาตอบคำถามเนี่ย คนนึงไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาที...
แถมมีคำถามมาว่าป่วยหรือปล่าว ?...

ปัญหามันมีอยู่ว่า...ตอนผอมเนี่ย... มันมีกล้ามท้อง
ทำให้ทานอาหารได้ไม่เยอะ... จึงเลือกทานอาหารประเภทราดข้าว
จานเดียวอิ่ม... ประกอบกับเป็นคนง่ายๆ มักจะสั่งอาหารแบบสิ้นคิด...
คือกระเพราไก่ไข่ดาว ข้าวหมูกระเทียม ไข่เจียวหมูสับ อะไรเทือกนี้...
การทานอาหารซ้ำๆ... อาหารไม่ค่อยมีผักและไม่ได้ทานผลไม้...
คือว่าช่วงนั้นไม่เคยห่วงเลยว่าเราทานอาหารครบหมู่หรือไม่...
เพราะยังเด็กและแข็งแรง ออกกำลังกายทุกวัน...

จนกระทั่งวันนึง ผมไปนอนบ้านพ่อตาที่ราชบุรีช่วงปี 43... คืนนั้น
พอทานข้าว อาบน้ำเสร็จ... ก็เข้านอนตามปกติ... ประมาณ 4 ทุ่ม...
ตกดึกประมาณเที่ยงคืน-ตี 1... รู้สึกว่าตัวเองนอนไม่สบายเลย...
นอนไม่หลับ... นอนหงายก็เจ็บหลัง... นอนตะแคงซ้ายก็เจ็บแขนซ้าย...นอนตะแคงขวาก็เจ็บแขนขวา... ไม่ได้เอะใจอะไร... จนกระทั่งประมาณ ตี 3... เป็นช่วงนอนหงาย... มันมีอาการคล้ายคนมาทับร่างไว้... ขยับตัวไม่ได้...สมองสั่งการอยู่ให้ขยับ... แต่ขยับตัวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย...
ในใจคิดว่า... นี่หรือคือผีอำ... ผีทับร่างเราไว้...
เจอเข้าแล้วกับตัวเอง... กลัวมาก เลยสวดคาถาชินบัญชรตลอด...
แต่ไม่ได้ผล... จึงอยากลองขยับแขน... ก็ขยับไม่ได้... มือก็ขยับไม่ได้...
จึงลองกำมือขยับนิ้วดู...ก็ได้แค่ปลายนิ้ว.... น่าจะประมาณแค่ 2-3 มม.
ที่ขยับได้... ณ เวลานั้น... คิดว่าผมคงเปนอัมพาตแน่ๆเลย...
แย่แน่ๆเลย... แต่โชคดีที่ยังขยับปากได้... ตะโกนเรียกแฟนให้ช่วย...
แฟนก็ตกใจมาก เรียกทุกคนในบ้านหมด ทั้ง พ่อตา แม่ยาย และน้องชายแฟน...

ทุกคนพยายามประคองตัวผมขึ้น แต่...สภาพร่างกายผมมันเหมือนศพ
ที่สภาพยังไม่แข็งตัว... กล้ามเนื้อไม่ทำงาน... จับให้นั่ง ก็เจ็บก้น...
เอาแขนวางบนพื้น ก็เจ็บบริเวณที่แขนสัมผัสกับพื้น...พูดง่ายๆว่า
บริเวณใดก็ตามที่สัมผัสพื้นจะเจ็บหมด เพราะมีแรงกดทับ action =
reaction... น้องกับแฟนก็พยายามจะเอาแขนพาดบ่า... ก็ไม่ได้ผล...
ไหลร่วงมากองที่พื้น เพราะ กล้ามเนื้อแขน ไม่ทำงาน...
ยืนไม่ต้องพูดถึง... จึงจำเป็นต้อง ยกลอยโดยใช้คน 4 คน
จากชั้นสองลงมาชั้นล่าง... เรียกตุ๊กๆ มา...

จังหวะ ยกเข้าผมรถตุ๊กๆ
ก็ทุลักทุเลมาก... เพราะ ผมไหลไปกองที่พื้นอีก... ในใจผมคิดว่า
ผมคงไม่รอดแน่ๆ... กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลเมืองราช จ.ราชบุรี
( บ้านพ่อตาอยู่ในตลาดราชบุรี) ก็ทรมานสุดๆ รับรู้ถึงแรงกระแทกที่รถวิ่ง
หรือตกหลุม.. เอาผมลงรถตุ๊กๆ ใส่รถเข็น โรงพยาบาล ก็ทุลักทุเลมาก
ผมคิดว่า วันนี้ผมคงตายแน่ๆเลย... เมื่อพบหมอ แฟนก็บอกอาการ
และทดสอบการทำงานของกล้ามเนื้อ หมอบอกว่าไม่เคยเจอเคสนี้เลย
จึงเจาะเลือดผมไปตรวจ พบว่า โปตัสเซี่ยมที่มีในร่างหายผมเกือบจะเป็น 0 อาการนี้จะอยู่ในสภาพเหมือนกับพวกคนอีสานที่ชอบนอนหลับแล้วคนไหลตาย
เพราะขาดโปตัสเซี่ยม...

คุณหมอรีบเปิดตำรา Text Book
เล่มยักษ์ยังกะคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่เพิ่งไปอบรมมา พลิกไปมา อ่านเรื่อง
โปตัสเซี่ยม... จึงได้สั่งพยาบาลเอาน้ำที่มีโปตัสเซียมผสม
ฉีดเข้าเส้นเลือด ใสๆ คล้ายน้ำเกลือ... ให้ทีละหยด จนหมดไปขวดแรก...
ก็รู้สึกขยับแขนขาได้บ้าง... พอให้ขวดที่สอง แค่ประมาณครึ่งขวด
ก็มีความรู้สึกว่า ขยับร่างกายได้ตามปกติเลยครับ...
หมอลองให้ผมลุกขึ้นจากเตียง ก็ลุกได้... ให้ลองยืน ก็ยืนได้...
ให้นั่งยองๆ ก็ได้... ให้บีบมือคุณหมอ ก็บีบจนท่านเจ็บ ก็ทำได้...

ผมดีใจมาก ที่รอดชีวิตมาจากคุณหมอท่านนี้... ถ้าไม่เจอท่าน
ภายในไม่กี่ชั่วโมง ผมคงไม่มีโอกาสมาพิมพ์ เล่าให้เพื่อนๆฟัง...
จึงถามหมอว่า เกิดจากอะไร... หมอบอกว่าแสดงว่าผมไม่ได้ทาน
กล้วยเลย เพราะ โปตัสเซียม มีอยู่ในกล้วยเยอะ เช่นกล้วยหักมุก
กล้วยน้ำว้า แต่อย่าให้โดนความร้อนจากการย่าง ปิ้ง โปตัสเซี่ยมจะหายไป...

ที่เล่ามาจึงอยากแชร์ประสพการณ์ตรง ทำให้ตัวเอง มาทานอาหารสุขภาพ
ให้ครบหมู่...

- กล้วย มีโปตัสเซี่ยมเยอะ
- ฝรั่ง มีวิตามินซีสูง
- ในไข่แดงมีเลซิติน ซึ่งเป็นตัวทำละลาย ทำให้เลือดกับไขมันละลายเข้าด้วยกันไม่แยกชั้น แต่ไข่ต้องไม่สัมผัสความร้อนและอากาศ
พร้อมๆกัน ไม่งั้น เลซิตินจะสลายไป
- ไข่ต้ม ไข่พะโล้ นี่โอเคเลย ไข่ดาวพอไหว แต่ต้องไม่จิกไข่แดงนะ
- ไข่เจียว เนี่ย เลซิตินหายหมด

ปัจจุบัน ตั้งแต่มกราคม ปีที่แล้วมา หมอไม่เคยได้กินเงินผมเลยครับ
ไม่ป่วยเลย... สามปีที่ผ่านมา เจ็บคอครั้งเดียว...

ที่เล่ามาเนี่ย ก็แค่อยากให้เพื่อนๆ ดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่ครบหมู่
อย่ากินอาหารซ้ำๆ อย่าลืมทาน ผักและผลไม้ทุกวัน จะได้อยู่บนโลกใยนี้นานๆ

ขอบคุณที่อ่านจนจบ... มันยาวจริงๆ...


RE: ห่วงใย - Maow - 26-01-2010

ขอบคุณมากครับที่มาเล่าประสพการณ์จริงให้ฟัง เรื่องสุขภาพเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ
พระพุทธเจ้าตรัสได้ถูกต้องตามหลักของธรรมชาติจริงๆ "อะโรคะยา ปะระมาราภา" ความไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
คิดถึงคนที่มีเงินแต่ป่วย ทำงานไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ สู้ให้พอมีกินมีใช้ไม่ลำบากตามพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่บอกว่าต้องดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงก็จะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นประเทศก็ดีขึ้นด้วยครับ

เรื่องไอออนที่มีในกระแสเลือดเป็นอะไรที่มีความสำคัญมากเลยจริงๆครับ เพราะเพียงในระดับมิลลิกรัมก็มีผลต่อความมีชีวิตของคนได้ ทุกอย่างมันมีข้อดีของมันและมีข้อเสียของมันเอง ร่างกายของเราเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดที่ธรรมชาติให้มา เมื่อมีอะไรมากเกินมันก็จะขับออกมา เช่นพวกไอออนถ้ามีมากเกินไปก็ทำให้เซลล์ในร่างกายของเราผิดปกติได้เหมือนกัน

อีกเรื่องที่อยากเตือนและฝากกับเพื่อนสมาชิกก็คือเรื่องการทานอาหารให้ตรงเวลาครับ แม้แต่รถเมื่อน้ำมันหมดเรายังต้องตะเกียกตะกายไปเติมน้ำมัน คนเราก็เหมือนกันต้องเติมพลังงานให้ร่างกายอยู่อย่างสม่ำเสมอให้ตรงเวลาครับ บางท่านเอาง่ายว่าคือไม่ทานอาหารเช้า แค่กาแฟแล้วก็ออกไปทำงานเนื่องจากความสะดวกหรือความเร่งรีบ แต่เป็นผลที่ทำให้เกิดผลเสียระยะยาวครับ สิ่งนี้เกิดกับผมเมื่อประมาณเดือนที่แล้วครับ ปวดท้องแบบจุกมากอาเจียรมีเลือดปนออกมาเล็กน้อย ตอนนั้นกลัวมากครับ คิดอย่างเดียวว่าขอให้หาย กีต้าร์ไม่ต้องพูดถึงไม่มีอารมณ์แม้แต่จะไปจับหรือปรายตามอง พอไปหาคุณหมอ ก็จับตรวจวัดความดันทั้งลุกทั้งนั่งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการไหลออกของเลือดภายในร่างกาย ความดันก็ปกติ คุณหมอก็เลยให้ยามาทานแล้วนัดไปส่องกระเพาะอาหาร จำได้ถึงความรู้สึกตอนถูกคนเอาสายขนาดเท่านิ้วกลางสอดเข้าไปทางปาก เป็นความรู้สึกที่พะอึดพะอมมากๆเลย (เกิดมาเครื่องในตัวเองก็ไม่เคยเห็น แต่นี้มาให้คนอื่นเห็นซะนี่) พอสอดสายเข้าไปหมอก็บอกสวย สวยมาก (คิดในใจสวยยังงัย คนถูกสอดจะอวกอยู่แล้ว) แต่พอเข้าไปอีกนิดถึงกระเพาะก็ปรากฏว่ามีจุดแผลเล็กๆที่เหมือนกับเป็นรอยคล้ายผงกาแฟบด หมอก็เลยเรียกคุณแม่ กับภรรยาให้มาดูที่จอแล้วบอกว่านี่งัยที่ทำให้เกิดการซึมออกมาของเลือดในตอนนั้น แต่ตอนนี้มันเริ่มสมานตัวดีแล้วเนื่องจากก่อนหน้าที่จะทำการตรวจได้กินยาไปแล้ว หลังจากนั้นหมอก็บอกว่าไหนๆ ก็ส่องแล้วขอส่องให้ทั่วๆ เลยก็แล้วกันจะได้มั่นใจ ตอนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่ามันเหมือนมีอะไรไปกวนอยู่ในท้องของเรา จะว่าจั๊กจี้ก็จั๊กจี้ จะว่ากระอักกระอ่วนก็ได้เหมือนกัน ผมส่งเสียงอวกอยู่ประมาณสี่ห้าครั้ง จนหมอบอกว่าเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่างปกติดี แต่ต้องกินยาอีกสองอาทิตย์ แล้วทานอาหารให้ตรงเวลานะ ตั้งแต่วันนั้นมา ข้าวเช้า ไม่ว่าหิวไม่หิว ก็ยัดๆ ลงไปก่อนครับ ตอนเที่ยงจากที่เคยทำงานจนเลยเวลาหรือไม่ทานเลย ก็ทิ้งงานเอาไว้ก่อนแล้วไปทานข้าวก่อนครับ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอาการนี้ก็ไม่มีอีกเลย พอมานั่งนึกอีกทีเลยบอกตัวเองว่าเราต้องดูแลร่างกายของเราให้ดี เพราะคนที่อยู่รอบข้างเราเขาก็เป็นห่วงเช่นกัน และเราก็ยังมีคนที่ต้องดูแลด้วยเช่นกัน

ดังนั้นดูแลป้องกัน ดีกว่าแก้ไขในตอนท้ายใช่ไหมครับ...


RE: ห่วงใย - dejemerry - 26-01-2010

ขอบคุณน้า Custom และน้าหม่าว มาก ๆนะคะ ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีกมากมายเลยค่ะ
ปกติก็ทานผักและผลไม้ และทุก ๆ อย่าง ไม่น่าขาดและคงเกินไปด้วย อิอิ แต่ทำไงจะให้
ทานน้อย ๆ นี่นะซิ มันยากมาก


RE: ห่วงใย - Maow - 26-01-2010

(26-01-2010, 09:24)dejemerry Wrote: ขอบคุณน้า Custom และน้าหม่าว มาก ๆนะคะ ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีกมากมายเลยค่ะ
ปกติก็ทานผักและผลไม้ และทุก ๆ อย่าง ไม่น่าขาดและคงเกินไปด้วย อิอิ แต่ทำไงจะให้
ทานน้อย ๆ นี่นะซิ มันยากมาก

แก้ง่ายนิดเดียวครับ คือให้น้าป๋อและป้าแดงเอาเงินไปซื้อกีต้าร์ให้หมด หลังจากนั้นสมใจแน่ครับ ผอมกันทั้งบ้าน....


RE: ห่วงใย - dejemerry - 26-01-2010

(26-01-2010, 09:33)Maow Wrote:
(26-01-2010, 09:24)dejemerry Wrote: ขอบคุณน้า Custom และน้าหม่าว มาก ๆนะคะ ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีกมากมายเลยค่ะ
ปกติก็ทานผักและผลไม้ และทุก ๆ อย่าง ไม่น่าขาดและคงเกินไปด้วย อิอิ แต่ทำไงจะให้
ทานน้อย ๆ นี่นะซิ มันยากมาก

แก้ง่ายนิดเดียวครับ คือให้น้าป๋อและป้าแดงเอาเงินไปซื้อกีต้าร์ให้หมด หลังจากนั้นสมใจแน่ครับ ผอมกันทั้งบ้าน....

โห เรื่องกิน เรื่องเล็กค่ะน้าหม่าว


แต่เรื่องไม่ได้กินนี่นะซิ เรื่องใหญ่จริง ๆ
เพราะฉะนั้น ต้องกินก่อน เหลือแล้วค่อยซื้อกีต้าร์ทีหลังเนอะ Big Grin


RE: ห่วงใย - pizuuh - 26-01-2010

ขอบคุณมากครับ ได้สาระมากมายทีเดียวครับผม


RE: ห่วงใย - povation - 27-01-2010

(26-01-2010, 09:33)Maow Wrote:
(26-01-2010, 09:24)dejemerry Wrote: ขอบคุณน้า Custom และน้าหม่าว มาก ๆนะคะ ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีกมากมายเลยค่ะ
ปกติก็ทานผักและผลไม้ และทุก ๆ อย่าง ไม่น่าขาดและคงเกินไปด้วย อิอิ แต่ทำไงจะให้
ทานน้อย ๆ นี่นะซิ มันยากมาก

แก้ง่ายนิดเดียวครับ คือให้น้าป๋อและป้าแดงเอาเงินไปซื้อกีต้าร์ให้หมด หลังจากนั้นสมใจแน่ครับ ผอมกันทั้งบ้าน....

ผมคงแทะ Bracing แทนอาหาร 3 มื้อ


RE: ห่วงใย - sukanyastory - 27-01-2010

ขอบคุณน้า Custom และ น้า Maow มากเลยค่ะ...ได้ประโยชน์มากค่ะ


RE: ห่วงใย - lekleklek - 27-01-2010

อ่านแล้วเนี่ย นึกถึงตัวเองเลยครับ ทานอาหารซ้ำๆ ไปที่เดิมๆ อิอิ... อนาคตเจริญรอยตามคุณ Custom แน่ๆครับ กล้วยไม่ได้แตะเลย T_T ทั้งๆที่หน้าบ้านขายผลไม้แท้ๆ


RE: ห่วงใย - เดอะตู่ - 27-01-2010

(27-01-2010, 11:46)lekleklek Wrote: อ่านแล้วเนี่ย นึกถึงตัวเองเลยครับ ทานอาหารซ้ำๆ ไปที่เดิมๆ อิอิ... อนาคตเจริญรอยตามคุณ Custom แน่ๆครับ กล้วยไม่ได้แตะเลย T_T ทั้งๆที่หน้าบ้านขายผลไม้แท้ๆ

งั้นไปหา เชอร์รี่.กินกันดีก่า