POPULAR MUSIC - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2) +--- Thread: POPULAR MUSIC (/showthread.php?tid=1571) |
RE: POPULAR MUSIC - Grid.. - 03-05-2008 ใครอ่ะคับพี่.. อยากรู้ด้วยคนคับ.. RE: POPULAR MUSIC - Therock - 03-05-2008 เพื่อนน้าปู๊ด ใช่คุณเต๋อ เรวัติ รึปล่าวครับ ผมคลับคล้าย คลับคราว่าน้าปู๊ดเคยเล่าให้ฟัง RE: POPULAR MUSIC - kim_colombet - 03-05-2008 I don't like pop music นี่แหนะ ผมว่าเพลง ป๊อบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบ ความยุ่งยาก ไม่ต้องการรายละเอียด ส่วนใหญ่คนฟังเพลงป๊อบ เพราะฟังง่าย เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน จึงจัดว่าเพลงป๊อบ เหมาะสมกับ คนฟังดนตรีธรรมดาๆ คับ ส่วนตัวผมเอง ก็ฟังเพลงป๊อบอยู่ทุกวัน แต่ถ้าจาให้ชอบจิงๆ คงเป็นเพลง ลูกทุ่งคับ อิอิ RE: POPULAR MUSIC - pop_250823 - 03-05-2008 ขอบคุณครับผมรู้สึกดีใจ ที่ทุกคนชอบ ขอบคุณอีกครั้งครับ ^ ^ (ส่วนผมตอนนี้กำลังสนใจบลูครับ บาดลึกอารมณ์จิงๆ แต่ตอนนี้แค่ระดับอนุบาลครับ) RE: POPULAR MUSIC - papachill - 04-05-2008 เข้าถึงได้ง่าย ฟังแล้วติดหู แต่เนี่ย http://chainpapachill.hi5.com ไม่ทราบว่า popมั้ย แต่ผมไม่ได้ขายวิญญาณนะ ขายแต่หน้าตา (เหลือเท่าที่เห็นนะ) อิอิ RE: POPULAR MUSIC - pood - 05-05-2008 Therock Wrote:เพื่อนน้าปู๊ด ใช่คุณเต๋อ เรวัติ รึปล่าวครับ ผมคลับคล้าย คลับคราว่าน้าปู๊ดเคยเล่าให้ฟัง ผมเรียนกับเต๋อจนถึง มศ.3 แต่เคยเจอกันอีกแค่สองสามหนก่อนที่เขาจะเสียชิวิตครับ เพื่อนที่สนิทกันมากชื่อเขตครับเพราะไปแจมที่ร้านเขาและร้านอื่นฯกับพวกศิลปินรุ่นใหญ่ กันประจำ ว้นที่เขาเสียชิวิตยังโทรฯมาชวนผมเลย เรื่องที่เล่าสู่กันฟังส่วนมากผมคงเอามาเล่าต่อในเว้บบอร์ดไม่ใด้ครับ เรื่องศิลปินวัยรุ่นที่ ไม่ยอมก้มหัวให้กับค่ายเพลงใหญ่จนในที่สุดทางค่ายต้องยอมตั้งบริษัทใหม่ให้เธอสังกัด คนเดียวเลยก็น่าจะเดากันใด้นะครับว่าเป็นใคร เรื่องนี้เกิดเมื่อสิบปีมาแล้วถ้าสมัยนี้คงไม่มี ทางหรอก คนที่เล่าเรื่องการต้องแต่งเพลงตามสูตรสำเร็จเป็นรุ่นน้องที่เป็นนักแต่งเพลงของค่ายยักษ์ ครับ ลองฟังเพลงป้อปไทยในระยะหลังดูเองครับว่ามันเหมือนกันทุกเพลงไหม นานทีปีหน ถึงจะมีแนวใหม่ที่ไม่ใด้ลอกแบบต่างชาติมาให้ดูกัน RE: POPULAR MUSIC - hattaya111 - 05-05-2008 นี่คือ ความฝันชิ้นสุดท้าย ของพี่ชายท่านนี้ ก็จบลงกระทันหันครับ ....... เเต่ก็ทำออกมาเป็นอัลบั้มสุดท้ายของพี่เขา http://www.here.co.th/product_preview.do?id=98 No. 91001349 Artist เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์ Album My music, My Thought, My Life, My Soul Label --- Released 2004 Format ซีดี Description อัลบั้ม สุดท้าย ของ เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์ นักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงให้เป็นที่รู้จักอย่างมากมายจากการทำงานกับแกรมมี่ ที่ทำให้ศิลปินต่าง ๆ โด่งดังมามากมาย อาทิ อัสนี-วสันต์, เบริด์ ธงไชย แมคอินไตย์ กับเพลงบูมเมอแรง หรือ เพลงเติมน้ำมัน จากวงไมโคร เป็นต้น สำหรับผลงานเพลงในชุดนี้ เป็นการนำ 4 บทเพลงสุดท้ายที่ เขตต์อรัญ ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาหลังจากลาออกจากการทำงานที่แกรมมี่แล้ว โดยได้นักร้องสาวเสียงใส อัจจิมา ทีฆวาทิน มาเป็นผู้ถ่ายทอด [attachment=8337][attachment=8338] สินค้าจำนวนจำกัด เพียง 1000 แผ่นเท่านั้น ในปกอัลบั้มสวยหรู ขอจงไปสู่สุขคติครับพี่ชาย RE: POPULAR MUSIC - pop_250823 - 05-05-2008 ไช่ครับ!!!สุดยอดจิงๆหาได้ยากครับ ถ้าแกยังอยู่คงมีอะไรดีๆอีกเยอะครับ RE: POPULAR MUSIC - hattaya111 - 05-05-2008 ในทัศนะของผม .....ดนตรี ศิลปะจะบ่งบอก สภาวะ สถาณการณ์ ในแต่ละยุคสมัย ศิลปะที่เป็นที่นิยม ในยุคสมัยนั้นๆ .....ก็จะเป็นตัวบอกวัด ว่าคนในยุคสมัย ในภูมิประเทศนั้นๆ นั้น คิดอ่าน มีนิสัย ความเป็นอยู่เช่นไร ดนตรีที่ซับซ้อน หรือ ที่ต้องอาศัย การใช้วลา ในการเข้าใจ รับการสื่อสาร ในจินตนาการ ที่มีความลึกซึ้งของความถี่เสียง จังหวะจะโคนต่างๆ จะมีความนิยม ที่ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย โดยที่มีเวลา เป็นจำกัดในทุกๆสิ่ง มีผลส่งต่อกระทบมายังความลึกซึ้ง ในการรียนรู้ รับรู้สาร ที่ศิลปินสื่อสารนำเสนอ ไม่มีความหวังใดๆ ในการพัฒนาศิลปะที่ละเอียดอ่อน ในประเทศด้อยพัฒนา การศึกษาต่ำ ในประเทศที่มีสถิติ การอ่านหนังสือ เฉลี่ยต่อคน เพียงไม่กี่บรรทัด สภาพเศรฐกิจย่ำแย่ ปากกัดตีนถีบ อัตราเฉลี่ย สถิติแย่ๆแง่มุมต่างๆเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ในทัศนะของผม คิดว่าสิ่งที่มีอิทธิพล อย่างมากต่อศิลปะ คือ ...การศึกษา การศึกษามีผลส่งผลต่อ การเข้าใจ เข้าถึงการเสพศิลปะ และ ดนตรี เป็นอย่างมาก แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด ศิลปะ คือ.. เรื่องของ ประสพการณ์ การเรียนรู้ซึมซับ เข้าใจ และคลี่คลาย มันคือ การถ่ายทอดองค์ความรู้หนึ่งไปสู่ สังคม ถึงผู้รับสาร ***ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องอาศัยความรู้ และ ประสพการณ์ ที่จะนำสู่ความเข้าใจ*** ทีนี้เรามามองสิ่งที่สังคมกำลังได้รับมาจากยุคสมัย ซึ่งมีผลแน่นอนกับ ศิลปะ และ ดนตรี แง่การสร้างงาน ศิลปะ และ ดนตรีเชิงธุรกิจ ในบางครั้ง การเสี่ยงทำในสิ่งใหม่ หรือ แตกต่าง ในทิศทางกระแสตลาด ก็นับเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ ต่อผลตอบแทนในการประกอบการ ดนตรี ที่ขายได้ ในเนื้อหา รูปแบบภาพพจน์ ที่เคยทำกันมา และ ถูกทำซ้ำซาก อย่างต่อเนื่อง ก็คือ สิ่งที่ทำมาตอบสนอง กลุ่มลูกค้า ซึ่งก็ไม่มีทางเลือกมากเช่นกันที่จะเดินหนี หลบหลีก สรรหาค้นพบความงาม ทางศิลปะ ที่ตัวเค้าต้องการอย่างแท้จริง แง่พฤติกรรมผู้บริโภค ความง่ายในการ ส่งผ่านข้อมูล การหางานดนตรีต่างๆฟังได้ ลบทิ้ง เปลี่ยนแปลงอย่าง่ายดาย ไม่ว่าจะใช้ internet ซื้อเครื่องเล่น mp3 เครื่องไม่กี่ร้อยบาท มาเพื่อที่จะมีเรื่องคุยเรื่องเดียวกัน รับการบ่มเพาะรสนิยมมาทางอ้อมเหมือนกัน จริงอยู่ แง่นึง คือ จะมีข้อมูลต่างๆเข้ามาอย่างมากมาย แต่ ในแง่ของศิลปิน ทำงานแล้วไม่ได้รับผลตอบแทนเท่าที่ควร ก็ส่งผลกระทบ ให้คนสร้างงานต่างๆ มีความเดือดร้อนในความเป็นอยู่ ดังนั้น กลับมาที่แง่การสร้างงาน จึงทำให้ผู้สร้าง ทำยังไงก็ได้ ให้เพลงดัง เพื่อหวังมาขายงาน การแสดงตามที่ต่างๆ กับคนหมู่มาก ที่มีการศึกษา รสนิยม ชีวิตที่ถูกขีดมาให้ได้รับได้รู้เท่านี้ เค้าจึงต้องทำงานออกมาแบบนี้ เคยสังเกตุไม้ครับ.... ว่า ทำไมเวลาดูหนัง ฟังเพลง พวกคุณจึง ต้องไปดูหนังฝรั่ง ฟังเพลงต่างชาติ คำตอบง่ายดาย .....ธุรกิจหนัง ดนตรีโดยมากที่เป็นอยู่ในบ้านเรา เค้าทำงานมา รับสนองคนหมู่มาก ซึ่งการศึกษา ความรู้ รสนิยม อยู่ในที่ๆท่านต้องเข้าใจ ขอใช้คำว่า จำกัดจำเขี่ย น่าเห็นใจ และ น่าหดหู่ในเวลาเดียวกัน ที่ไม่สามารถแยก สุนทรียะ แห่งเสียง แห่งศิลปะ ออกจากธุรกิจการค้าได้ **จะไปเป็นลาวโดดเด่น....ดังความฝัน **หรือ อะไรนั่นแหละ ที่ฟังแล้วขนลุกทุกครั้ง ที่คนตามไปหลงรักทั้งเมือง มีจุดร่วมให้คิดในสิ่งเดียวกัน จริงๆน่าจะร้องว่า **จะไปเป็น สินค้า นายทุน หลอกตังค์กัน.**......**.smsนั้น เชียร์กัน นายทุนรวย** มันก็บอกแล้ว ว่า...... เราจะต้องอยู่กันอย่างไร หายใจแบบไหน บนที่แห่งนี้ ในยุคสมัยทุนนิยม ที่มีนายทุน หรือ ผู้ประกอบการ ต้องการนำเสนอ ทิศทางชี้นำความต้องการ ของการเสพสื่อ ศิลปะต่างๆ รวมทั้งดนตรี เพื่อ ชนหมู่มาก คิด เสพ บริโภค สิ่งต่างๆที่พวกเค้าจะยัดเยียดเข้ามา โดยการยึดครองโดยสื่อ จริงๆแล้ว มันคือสินค้าชนิดนึง อย่าเอา ศิลปะวิจารณ์ มาวิพากษ์ สิ่งที่ไม่ใช่ศิลปะ อาจกล่าวแรงไป .........เราอาจเรียกมันว่า ***สิ่งที่มีคุณค่าทางศิลปะต่ำ**** การที่คนป่วยๆเช่นผม มาใช้เวลาจิ้มพิมพ์ ทีละนิ้ว อย่างงกๆเงิ่นๆ มันก็เป็นแค่ หน้าอะไรหน้านึง ซึ่งมีตัวหนังสือน่ารำคาญ ยั้วเยี้ย ควรละสายตามองผ่าน กดให้มันผ่านไปโดยเร็วที่สุด **จริงๆแล้ว นี่คือศิลปะในการคิด และ แสดงทัศนะคติ** ที่ก็ถูกเมินมองไปเช่นกัน เหมือนกับดนตรีที่มีความละเอียดอ่อน แต่คนหมู่มาก ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมัน ด้วยความเคารพครับ จากใจจริง ว่าจะไม่คิดเห็นอะไรแล้วนะ -ขอโทษหากไม่ถูกใจใคร ขอบคุณที่สละเวลาอ่านครับ รับผิดชอบทุกอักษรโดย หัทยา สงวนสิน RE: POPULAR MUSIC - pop_250823 - 05-05-2008 จิงครับ(แค่เนี๊ย) |