Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: Classified (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=7) +--- Forum: ซื้อ-ขาย / Buy-Sell (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=8) +--- Thread: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 (/showthread.php?tid=20596) Pages:
1
2
|
RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 23-12-2022 2006 Morris Hand Made Premium S-101 ผมไปเจอกีตาร์ยี่ห้อนี้ครั้งแรกตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ประทับใจกับเสียงของมันมากเลยสอย S-101 มาหนึ่งตัว ลองฟังเสียง S-101 ตัวแรกของผมครับ https://youtu.be/UFIzl4JjDgs S-101 เป็นนวตกรรมใหม่ที่ออกแบบใหม่หมด ใช้ bracing double-X (ไม้หน้า) และ X (ไม้หลัง) เพื่อเพิ่ม sustain และ projection ______________________________________________ ตอนนี้เป็นที่นิยมของมือกีตาร์ fingerstyle มาก (ส่วนใหญ่เป็นศิลปินญี่ปุ่น) _____________________________________________ ตัวนี้สภาพดีมากแต่เสียงไม่แตกต่างกับตัวอื่นๆที่มีเลยขายทิ้งดีกว่า ____________________________________________ เสียงครับ (กีตาร์รุ่นนี้เสียงโดดเด่นแบบไม่เกรงใจนักร้องจึงเหมาะกับการเล่น fingerstyle แบบคลิปข้างบนมากกว่า) https://youtu.be/hWI8_UE_tLA รุ่นนี้ราคามือหนึ่ง 73,600 บาท ผมขายแค่ xx บาทครับ RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 23-12-2022 2006 Ovation USA Legend 1777LX นี่คือรุ่นสุดท้ายของ Ovation USA ในตำนาน _____________________________________________ ตัวนี้สภาพสวยครับ เสียง https://youtu.be/WfnYSaGpa7s ราคา 34,000 บาท Ovation 1994 Collector's Edition ขายแล้วครับ RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 23-12-2022 2018 S. brothers 100% Carbon Fiber Model SB-2, Made in United Kingdom. ตัวนี้ใด้ลองเสียงและหิ้วมาจากอังกฤษ เป็นกีตาร์ที่หล่อขึ้นรูปคอ บอดี้และหัวเป็นชิ้นเดียวกันโดยใช้ carbon fiber ล้วนๆ มีชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ carbon fiber เพียง tuning machines, fret wire, nut และ saddle ผมว่าเสียงเป็นธรรมชาติมากกว่ากีตาร์ carbon fiber อเมริกันอย่าง Rainsong และ Composite Acoustic เยอะก็เลยหิ้วกลับมาหนึ่งตัว S brothers เป็น workshop เล็กๆในเมือง Derbyshire ที่เพิ่งเริ่มผลิตกีตาร์ขายและยังไม่มีการส่งออกครับ _________________________________________ ตัวที่ผมซื้อเป็นรุ่น SB-2 ทรง dreadnought ราคาขายตอนนี้อยู่ที่ 2,200 ปอนด์ (ผมซื้อใด้ถูกกว่าเยอะและเคลม VAT คืนใด้เกือบ 20% ที่สนามบิน) ________________________________________________ กล่องของตัวนี้เป็น fiberglass case น้ำหนักเบาโหลดใต้ท้องเครื่องใด้สบาย _____________________________________________ สภาพใหม่เอี่ยมเพราะไม่เคยเอาออกจากบ้านเลย ___________________________________ ติดตั้งปิคอัพ Double X-1 Blend รุ่นนี้ใข้แบตกระดุม CR2032 หมดปัญหาเรื่องแบตเยิ้ม แบตบวมครับ ______________________________________ ลองเปรียบเทียบเสียงกับกีตาร์ Rainsong USA ทรงเดียวกันครับจะใด้หายสงสัยว่าทำไมผมถึงซื้อมาทั้งๆที่ไม่รู้จักยี่ห้อนี้มาก่อนเลย Rainsong DR1000 https://youtu.be/Hprv6MYR4M0 S brothers DR-2 https://youtu.be/mLSj-DrLtbs กีตาร์ตัวนี้ไม่ควรซื้อไปสะสมนะครับเพราะเก็บใว้อีกสิบปีเสียงมันก็ไม่ดีไปกว่านี้ ผมก็ซื้อมาแบบ impulse buy เพราะเสียงมันดีจริงๆ ขายให้คนที่เอาไปใชงานราคา xxxxx บาท RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 24-12-2022 2016 Takamine PTU841C TBS (จองแล้ว Siambook) ปัจจุบันกีตาร์ Takamine มีขายอยู่ 9 ทรงตั้งแต่ทรง 000 ถึงทรง 800 slope shoulder dreadnought ซึ่งเป็นทรงใหม่ที่วางขายในญี่ปุ่นเมื่อปี 2016 และเพิ่งส่งออกในปี 2021 ด้วยรุ่น LTD2021 Blue Rose ตามปกติกีตาร์ Takamine เขาออกแบบให้ย่านเบสค่อนข้างบางเพราะเวลาอัดเสียงนั้นเบสเพิ่มง่ายแต่ลดยาก ความแตกต่างที่เห็นใด้ชัดสำหรับทรงทรง 800 ก็คือการออกแบบใหม่ให้ย่านเบสลึกขึ้นแต่ไม่บวมเวลาเข้าห้องอัด สเป็คและราคา ______________________________________ ตัวนี้สภาพสวยเพราะซื้อมาเก็บนอนกล่องตั้งแต่ปี 2016 ไม่เคยเอาไปออกงานแม้แต่ครั้งเดียว ____________________________________________ เสียง https://youtu.be/sGiH2nOVko8 รุ่นนี้คงเป็นรุ่นยอดนิยมเพราะมีพ่อค้าไทยซื้อมาขายกันหลายตัวมาก ผมขาย 29,000 บาท RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 24-12-2022 2012 Taylor 512CE N Nylon String Hybrid รุ่นนี้ไม่มีขายในประเทศไทย ราคาและสเป็คตามนี้ครับ ______________________________________ ตัวนี้สภาพดีมาก ไม่มีริ่วรอย ________________________________________________ กีตาร์ตัวนี้นอนกล่องมาหลายปี ตอนเอาออกมาเปลี่ยนสายและถ่ายรูปก็เพิ่งเห็นว่ามีจุดผิวพองอยู่ตรงบริเวณติดกับคอซึ่งเป็น defect ที่เจอบ่อยในกีตาร์ยี่ห้อนี้ ผมเลยเรียกช่างคนที่ซ่อมอาการนี้มาแล้วร่วมๆร้อยตัวมารับกีตาร์ไปซ่อมตามวิธีที่โรงงานเขาใช้คือการฉีดกาวเหลวชนิดพิเศษไปไล่ฟองอากาศระหว่างขั้นโพลีเมอร์ใสกับเนื้อไม้เพื่อกันไม่ให้เกิดการลามขึ้นอีกในอนาคต กีตาร์ตัวนี้จะมาลองใด้หลังวันเสาร์หน้าครับ __________________________________________________ เสียง https://youtu.be/qPVWs0doyys ราคา 58,000 บาทครับ _________________________________________ UPDATE 26/12/2022: ซ่อมผิวเคลือบพองเรียบร้อยครับ RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 25-12-2022 1977 Yamaha L-8 All Solid. L Series คือกีตาร์รุ่นใหญ่ของ Yamaha ที่ผลิตระหว่างปี 1975-1985 แต่ไม่ใด้ส่งออกเหมือนรุ่น FG ในยุคปลาย '70s นั้นค่าเงินญี่ปุ่นผันผวนมากแต่ Yamaha ขึ้นราคาไม่ใด้เพราะดันไปตั้งชื่อรุ่นตามราคาขาย (L-8 = 80,000 เยน) ก็เลยต้องใช้วิธีลดสเป็คอย่างเช่น L-8 ลดจาก all solid เป็น solid top/back ในปี 1980 เป็นต้น หน้าตาจะต่างกันเล็กน้อย แต่เสียงต่างกันเยอะ L-8 1st. Gen. https://youtu.be/f-BNnS4ZU1Y L-8 2nd. Gen. https://youtu.be/5ASNhfmtm0Y ________________________________________ ตัวนี้ปี 1977 สภาพดีแต่ลูกบิดมีสนิมผิว (ขัดออกใด้แต่ทองหลุด) ราคา 24,000 บาท สองตัวสุดท้าย The FG และ The FS มีเรื่องราวเยอะหน่อย เดี๋ยวค่อยเล่าครับ RE: Open House XVI เปิดบ้านครั้งที่ 16 - pood - 30-12-2022 ํYamaha FG150 และ FG180 ป้ายแดงในตำนาน Yamaha FG คือกีตาร์โปร่งที่ทำให้กีตาร์ Yamaha ขายดีที่สุดในโลกตั้งแค่ยุค 1970s จนถึงปัจจุบันและรุ่นยอดนิยมคือ FG180 ก็มีศิลปินระดับโลกใช้กันเยอะในยุคนั้นด้วย https://youtu.be/5SeY99CtYPU ____________________________________________ ความจริงแล้ว Yamaha แจ้งเกิดใด้ก็เพราะนาย Country Joe McDonald ดันเอา Yamaha FG150 ที่ยืมเขามาขึ้นไปเล่นบนเวทีมหกรรม Woodstock ต่อหน้าผู้ชมห้าแสนคนในปี 1969 และเพลงนี้ก็มีการเอาไปใส่ในภาพยนตร์ "Woodstock (1970)" ที่ใด้รับรางวัลออสก้าและออกฉายทั่วโลก ผมไปดูหนังเรื่องนี้แถววังบูรพาก็ยังที่งกับเสียงของเจ้ายามาฮ่าตัวเล็กๆตัวนี้ครับ เสียงเปล่าเอาไมค์จ่อออก PA ขัดเจนแบบน่าทึ่ง https://youtu.be/eRl6-bHlz-4 ________________________________________________________ เรื่องตลกก็คือรุ่นที่ขายดีสุดกลายเป็นรุ่น FG180 เพราะมันเป็นทรง D ที่คนอเมริกันชอบแต่รุ่น FG150 ที่ Joe ใช้ที่เป็นทรงเล็กนั้นขายใด้น้อยกว่าเยอะทั้งๆที่เสียงพุ่งกว่า พอมาถึงยุค '90s FG180 ป้ายแดงสภาพสะสมนั้นก็เริ่มหายาก ที่ซื้อขายกันกันให้เกลื่อนนั้นก็เป็นกีตาร์สภาพค่อนข้างเน่าที่มีเยอะมากเพราะมันเป็นกีตาร์ราคาถูกที่คนส่วนใหญ่ซื้อมือหนึ่งไปใช้งาน Yamaha Japan ก็เลยทดสอบตลาดโดยการออกรุ่นครบรอบ 30 ปีมาแค่ 500 ตัวในปี 1995 (ความจริงน่าจะเป็นรุ่นครบรอบ 29 ปี) ปรากฎว่าขายแป๊ปเดียวหมดในราคา 85,000 เยนครับ ผมเก็บรุ่นนี้มาใด้ 2 ตัว รุ่นนี้เป็น laminate ทั้งตัวเหมือนต้นฉบับแต่เสียงดังกว่าแบบชัดเจน https://youtu.be/9bFDQ9YJzbM สำหรับตลาดอเมริกาและยุโรปนั้น Yamaha Taiwan ทำรุ่น FG-30LTD ออกมาขายจนถึงปี 1997 ในสเป็ตเดียวกัน ________________________________________________ "The FG" เสียงในอุดมคติของวิศวกร Yamaha Japan ในปี 2000 ฝ่ายการตลาดของ Yamaha Japan ก็ตั้งคำถามกับฝ่ายวิศวกรรมว่าถ้าจะออกแบบ FG180 ป้ายแดงใหม่โดยไม่มีการจำกัดงบ ฝ่ายช่างจะทำใด้ดีแค่ไหนในราคาเท่าไหร่ คำตอบของฝ่ายช่างก็คือโจทย์มันง่ายเกินไปเลยขอทำสองรุ่นเลยคือ "The FG" สำหรับเสียงในอุดมคติของรุ่น FG180 และ "The FS" สำหรับรุ่น FG150 ทั้งสองรุ่นวางตลาดเมื่อปี 2002 รุ่นละ 200 ตัวโดย The FG มีการ reissue ใหม่หลายหนแต่ The FS ไม่เคยผลิตอีกเลยทำให้เป็นรุ่นที่หามือสองยากสุดๆ ราคาตั้งของทั้งสองรุ่นคือ 250,000 เยน ทั้งสองรุ่นใช้ไม้ solid sitka spruce และ solid honduran mahogany เกรดดีมากครับ THE FG..จองแล้ว ระบบไฟฟ้า Fishman Ellipse VT ตรงก้นมีริ้วรอยเล็กน้อย _____________________________________________________________ THE FS..จองแล้ว ระบบไฟฟ้า Fishman Acoustic Matrix Natural 1 เสียง The FG https://youtu.be/F3W5Y2z1i0I เสียง The FS https://youtu.be/z1fjJ9CBGl0 ทั้งสองรุ่นเป็นกีตาร์สะสมครับ ราคาตัวละ 42,000 บาท ถ้าซื้อเก็บทั้งคู่มีส่วนลดเพราะไม่อยากขายแยก |