Martin D-45 V.S Martin D-45V - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Acoustic music (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=18) +--- Thread: Martin D-45 V.S Martin D-45V (/showthread.php?tid=3122) |
RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - Kitja - 23-12-2008 (23-12-2008, 20:28)folkenman Wrote: Martin D-45 V.S Martin D-45V เขาเรียกว่า "หูหาเรื่อง....เสียตังค์" ไงครับ พอลองเสร็จแล้วก็จะหันไปหาเพื่อน และก็จะพูดว่า "สุดยอดพี่.....เอาเล้ย" RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - gman - 23-12-2008 เรื่องการจูนเสียงกีตาร์นี่เป็นศิลปะจริงๆครับ ช่างแต่ละคนก็จะมีวิธีทำแตกต่างกันไปที่จะทำให้ได้เสียงที่ต้องการ การ scallop ก็เป็นวิธีนึงที่ช่วยเรื่องเสียงเบสครับ จากบทความของ Dana ผมสงสัยความหมายของ parametric equalizer กับ graphic equalizer ครับว่าต่างกันอย่างไร เค้าเปรียบการ scallop ด้านเดียวที่ด้านล่างของขา X ฝั่งเบสว่าเป็น parametric equalizer ส่วนการ scallop ขา X ด้านล่างทั้งสองเป็นเหมือน graphic equalizer ใครพอจะทราบรบกวนอธิบายด้วยนะครับ ขอบคุณครับ RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - pood - 24-12-2008 (23-12-2008, 22:15)gman Wrote: เรื่องการจูนเสียงกีตาร์นี่เป็นศิลปะจริงๆครับ ช่างแต่ละคนก็จะมีวิธีทำแตกต่างกันไปที่จะทำให้ได้เสียงที่ต้องการ การ scallop ก็เป็นวิธีนึงที่ช่วยเรื่องเสียงเบสครับ Equilizer คือเครื่องมือที่ใช้ปรับสัญญาณที่ย่านความถี่ต่างๆให้ดังขึ้นหรือเบาลง ในการใช้งานแบ่งใด้เป็นสามชนิดคือ Graphic equilizer เป็นชนิดที่นิยมกันมากสุด ถ้าใช้ในรถหรือในบ้านมักเป็นพวก ที่มื 10 ช่อง แต่ละช่องครอบคลุมหนึ่ง octave หรือย่อว่า Q ส่วนย่านความถื่นั้นกำหนดมาจากโรงงานเลยอย่างเช่น 20-40-80-160.....เป็นต้น ถ้าเป็นระดับโปร จะซอยย่านความถี่ให้แคบลงไปอีก 3 เท่าหรือเท่ากับ 1/3 Q และมี 32 ช่องครับ Semiparametric equilizer พวกนี้ปรับเลือความถี่ใด้แต่เลือกค่า Q ไม่ใด้ ปุ่ม notch ของปรีแอมป์กีต้าร์โปร่งก็เป็น EQ ประเภทนี้แต่ใช้เพื่อตัด resonance frequency ที่ทำให้เกิด feedback เท่านั้นครับ Parametric equilizer พวกนี้เลือกใด้ทั้งความถี่และค่า Q การใช้งานส่วนใหญ่ จะร่วมกับตัววัดว่าความถี่ตรงไหนมีปัญหาแต่บางคนก็ใช้หูฟังเอา ผมว่าที่ตา Dana บอกว่าแกจูนแบบ parametric นั้นคงหมายความว่าแกต้องการ แก้ไขเฉพาะความถี่ที่มีปัญหาอย่างเช่นที่ 134 hz จึงใช้ graphic EQ ไม่ใด้เพราะ มันไม่มีความถี่นี้ให้ปรับ เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับเพราะกีต้าร์ของแกบางตัวเสียงดีจริงๆ บางตัวนะครับ ไม่ใช่ทุกตัว RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - call - 24-12-2008 (22-12-2008, 22:29)poPPie Wrote: ฮ่าๆๆ แค่อ่านที่พี่กฤษณเล่ามาก้อ มันส์ ในอารมณ์แล้วครับ ---------------------------------------------- ถ้าตอบผิดเพราะว่ากีตาร์สองตัวมีโทนเสียงใกล้เคียงกันมากจนแยกไม่ออกยังพอให้อภัยได้ แต่ที่ไม่น่าให้อภัยคือ ตอนน้าลองเปรียบเทียบเสียงกีตาร์ HD28V สองตัวเพื่อพิสูจน์ว่าตัวของใครเสียงดีกว่ากัน น้าเป็นคนลองโดยมีผ้าปิดตาเพื่อป้องกันการลำเอียงเข้าข้างกีตาร์ตัวเอง ปรากฏว่าเพื่อนตัวแสบคนที่คอยสลับเปลี่ยนกีตาร์ให้น้าลองนั้น พอเขารับกีตาร์จากน้าแล้ว เขาก็ยื่นกีตาร์ตัวเดิมกลับคืนไปให้น้าโดยไม่ได้เปลี่ยนตัวใหม่ แล้วก็ปล่อยให้น้าเล่นไปสักครู่หนึ่ง แล้วถามน้าว่า "ตัวไหนเสียงดีกว่า" น้าก็ตอบว่า "รู้สึกว่าตัวที่เพิ่งเล่นก่อนหน้านี้เสียงจะดีกว่าตัวนี้" 55555 นับเป็นคำตอบที่ผมไม่อาจให้อภัยได้จริง ๆ ขนาดผมฟังคนอื่นมาเล่าต่ออีกที ยังขำกลิ้งจนน้ำตาเล็ดเลย (อยู่ดีไม่ว่าดี ขอกัดหน่อยเถอะ ว่างเว้นมานาน) RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - Witt - 24-12-2008 ผมเคยได้ยินมาว่า รุ่น D-45 นี้เขาทำtop เป็นแบบ Graduated Top และ spruce top เป็น premium grade ไม่แน่ใจว่าสองส่วนนี้หรือเปล่าที่ทำให้เสียงรุ่นนี้หวานช่ำ นุ่มลึก กว่ารุ่นอื่นๆ ยังไงใครมีข้อมูลช่วยมาตอบก้นด้วยนะครับ ขอบคุณครับ RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - gman - 24-12-2008 ขอบคุณสำหรับคำตอบครับน้า pood เกี่ยวกับ Martin พอดีไปเห็นคำถามเดียวกันในเว็ป AGF; http://www.taylorguitarforum.com/forums/showthread.php?p=1689333 มีการให้ความเห็นว่า D-45 เสียงจะ balanced ดีกว่า ส่วน D-45V ให้เสียงเบสดีกว่าครับ แต่ผมคิดว่าถ้าจะให้แน่นอนเราต้องเล่นเทียบเองเป็นตัวๆไปครับ เพราะแต่ละตัวเสียงก็คงไม่เหมือนกันซะทีเดียวถึงแม้จะเป็นรุ่นเดียวกันก็ตาม RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - poPPie - 24-12-2008 (24-12-2008, 00:28)call Wrote: (อยู่ดีไม่ว่าดี ขอกัดหน่อยเถอะ ว่างเว้นมานาน) รุ่นนี้ ยังไม่หายคันเหงือกคันฟันอีกเหรอ ฮ่าๆๆ จ๋งจ๋าน กระทู้เค้ากำลังมีสาระดี เพราะ ฉนั้นอย่าต่อความยาวสาวความยืด RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - Kitja - 24-12-2008 (24-12-2008, 12:42)poPPie Wrote:(24-12-2008, 00:28)call Wrote: (อยู่ดีไม่ว่าดี ขอกัดหน่อยเถอะ ว่างเว้นมานาน) น้าคอล !!! น้าปี้กำลังต่อว่าน้าคอลว่า ล่มกระทู้ครับ เป็นผมผมไม่ยอมหรอกครับน้าคอล แบบนี้ต้องโทรไป Clear ครับ ส่วนเรื่องเสียงหมือนหรือเปล่า ผมยืนยันครับในฐานะผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครับ ว่าเสียงพอ ๆ กันครับ ต่างกันนิดหน่อย น้าปี้บางที "หูแกไม่ค่อยดี" ครับเลยฟังอาจจะบอกว่าไม่เหมือน RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - call - 26-12-2008 (24-12-2008, 20:02)Kitja Wrote:(24-12-2008, 12:42)poPPie Wrote:(24-12-2008, 00:28)call Wrote: (อยู่ดีไม่ว่าดี ขอกัดหน่อยเถอะ ว่างเว้นมานาน) กีตาร์รุ่นเดียวกันสองตัว ถ้าฟังเสียงแล้วต่างกัน อันนี้ไม่แปลก เพราะถึงยังไงก็เป็นเสียงจากกีตาร์คนละตัว แต่กีตาร์ตัวเดียวกัน สามารถฟังออกว่า เที่ยวแรกเสียงดี เที่ยวที่สองเสียงไม่ดี อันนี้สิน่าตัดหูคน ๆ นั้นมาปิ้งกินแกล้มกับเหล้ามากที่สุด เรื่องเคลียร์ยังไม่ต้องรีบหรอกครับ รอสะสมแต้มไว้ให้ได้แต้มเยอะ ๆ ก่อน เดี๋ยวค่อยเคลียร์ทีเดียวเลย RE: Martin D-45 V.S Martin D-45V - Katayoot - 26-12-2008 (26-12-2008, 13:22)call Wrote: กีตาร์รุ่นเดียวกันสองตัว ถ้าฟังเสียงแล้วต่างกัน อันนี้ไม่แปลก เพราะถึงยังไงก็เป็นเสียงจากกีตาร์คนละตัว แต่กีตาร์ตัวเดียวกัน สามารถฟังออกว่า เที่ยวแรกเสียงดี เที่ยวที่สองเสียงไม่ดี อันนี้สิน่าตัดหูคน ๆ นั้นมาปิ้งกินแกล้มกับเหล้ามากที่สุด เรื่องเคลียร์ยังไม่ต้องรีบหรอกครับ รอสะสมแต้มไว้ให้ได้แต้มเยอะ ๆ ก่อน เดี๋ยวค่อยเคลียร์ทีเดียวเลย ก็วันนั้นผมถามกับน้า poPPie เองเลยครับ แกบอกผมอย่างเศร้า ๆ ว่า.... " ปูนนี้อย่างพี่เนี่ย อย่าพูดถึงเที่ยวสองเล๊ยยย เฮ้อ..อ..." |