NimitGuitar webboard
คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2)
+--- Thread: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ (/showthread.php?tid=718)

Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8 9


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - Webmaster - 19-02-2008




RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - bobonuii19 - 23-02-2008

Webmaster Wrote:

น้าเว็บ เรื่องนี้ สมัยตอนป้านุ้ยเพิ่งเริ่มจำความเองอะค่ะ ยังไงช่วนสนับสนุนน้าเว็บหน่อย สำหรับความชอบตอนเด็ก ๆ Cool

Tigermask
Yuke!Tigermask
Credits:www.animelyrics.com

shiroi MATTO no JANGURU ni
kyou mo arashi ga fukiareru
RUURU muyou no akutou ni
seigi no PANCHI o buchikamase
yuke yuke TAIGAA (TAIGAA)
TAIGAAMASUKU

sanbon ROOPU no JANGURU ni
hoeru yajuu no muhoumono
shima no GAUN o hirugaeshi
yatsura no kiba o otteyare
yuke yuke TAIGAA (TAIGAA)
TAIGAAMASUKU

kusa mo ki mo nai JANGURU ni
shi o yobu wana ga matte iru
FEA PUREE de kirinukete
otoko no konjou misete yare
yuke yuke TAIGAA (TAIGAA)
TAIGAAMASUKU


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - Webmaster - 23-02-2008

ขอบคุณป้านุ้ยสำหรับเนื้อเพลงคับ


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - dejemerry - 24-02-2008

ซีรี่ส์ญี่ปุ่นก็ชอบดูค่ะ แต่นับเรื่องได้เลย ชอบทาคูยะค่ะ เพราะว่าเข้าถึงทุกบทบาท
ส่วนหนังญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยได้ดูเลยค่ะ พอๆกับหนังเกาหลีค่ะ ชอบดูซี่รี่ส์มากกว่ามันยาว และเนื้อหาสาระมากกว่า คอญี่ปุ่นไม่ต้องเสียใจนะคะ เดี๋ยวป้าจะเข้ามาเยี่ยมชมบ่อย ๆ คิวต่อไปว่าจะดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นบ้าง เห็นเพื่อนบอกว่ามีหลายเรื่องน่าสนใจ
แต่อย่าลืมนะคะ คอเกาหลี เชิญทางโน๊นนนนค่ะ คิกๆๆๆTongue


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - pop_250823 - 25-02-2008

ชอบโอชิน


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - dejemerry - 25-02-2008

pop_250823 Wrote:ชอบโอชิน



คอเดียวกันเลยค่ะน้าpopcular..Big Grin


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - bobonuii19 - 25-02-2008

pop_250823 Wrote:ชอบโอชิน

สนุกเน้อ แม่ของป้านุ้ยดูท้างวัน ท้างคืนเลย แม่บอกว่า นึกถึงวันเวลาเก่า ๆ


Oshin เป็นผลงานการเขียนเรื่องและบทละครโทรทัศน์ของฮาชิดะ ซุงาโกะ (ชื่อจริงอิวาซากิ ซุงาโกะ) ว่ากันว่า เธอสร้างตัวละครโอชินขึ้นมาโดยอิงจากประวัติชีวิตมารดาของคาซุโอะ วาดะ (นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง เจ้าของกิจการค้าปลีกและซูเปอร์มาเก็ต ที่มีสาขาแพร่หลายในญี่ปุ่นและเอเซีย ในนามของ ?กลุ่มเยาฮัน?) และอีกส่วนหนึ่ง (ซึ่งยึดถือเป็นหลักในการลำดับเค้าโครงเรื่อง) มาจากการรวบรวมจดหมายนิรนามของผู้หญิงจำนวนมากในยุคเมอิจิ ซึ่งเขียนบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีตอันทุกข์รันทดที่ยากจะบรรยาย ก่อนจบชีวิตตนเอง

เรื่อง Oshin ครอบคลุมกินเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี 1906 ซึ่งโอชินมีอายุหกขวบ และจบลงในปี 1983

ฮาชิดะ ซุงาโกะ เริ่มต้นเรื่องที่เหตุการณ์ในปัจจุบัน บรรดาสมาชิกตระกูลทาโนคุระกำลังจะเปิดห้างสรรพสินค้าสาขาที่ 17 แต่แล้วโอชินซึ่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัว กลับหลบหนีหายไปโดยไม่บอกกล่าว ถัดจากนั้นหลายชายบุญธรรมก็อาศัยไหวพริบ ออกติดตามจนพบตัวคุณย่า ทั้งสองจึงเดินทางตระเวนไปตามเมืองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผูกพันกับชีวิตของหญิงชรา พร้อม ๆ กับคำบอกเล่าถึงทุกข์สุขต่าง ๆ ย้อนหลัง

โอชินเกิดในครอบครัวชาวนาเช่าที่ดินทำกิน มีรายได้แทบเข้าขั้นติดลบ มิหนำซ้ำยังมีหลายปากท้องต้องเลี้ยงดู-กระทั่งต้องหุงข้าวปนหัวไช้เท้าทุกมื้อ-ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนได้อิ่มโดยทั่วถึง

เมื่ออายุ 7 ขวบ เธอต้องพลัดพรากจากบ้าน ถูกขายให้ไปทำงานเลี้ยงเด็กในร้านค้าไม้เป็นเวลาหนึ่งปี (แลกกับข้าวสารหนึ่งกระสอบ) ผ่านการตรากตรำกรำงานหนักเกือบครบตามสัญญา ก็มีเหตุให้หนูน้อยตัดสินใจหลบหนีกลับบ้านตามลำพัง เนื่องจากโกรธและน้อยใจที่โดนกล่าวหาว่าขโมยเงิน

โอชินเกือบพบจุดจบเมื่อล้มฟุบหมดสติท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ แต่ก็มีชายหนุ่มหนีทหารชื่อชุนซากุที่หลบซ่อนตัวอยู่ในละแวกนั้นช่วยชีวิตไว้

เมื่อกลับคืนสู่บ้านเกิดและครอบครัวได้ไม่นาน ความอดอยากก็ส่งผลให้โอชินต้องประสบชะตากรรมเดิม ๆ ต้องออกไปทำงานกับครอบครัวร้านค้าข้าวสารในตำบลซาคาตะ แต่ครั้งนี้สถานการณ์พลิกผันเป็นบวก เมื่อคุณนายคุนิผู้มีเมตตาและเที่ยงธรรม คอยให้ความอุปการะช่วยเหลือ จนกระทั่งผ่านพ้นวัยเด็กอย่างมีความสุข

ย่างเข้าสู่วัยรุ่น โอชินอำลาจากครอบครัวนายจ้าง เพราะเกิดปัญหาหัวใจ (โอชินกับคาโยะหลานสาวของคุณนาย ซึ่งสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง ต่างตกหลุมรักชายหนุ่มชื่อโคตะ) เธอหวนกลับคืนสู่บ้านเกิด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเผชิญโชคผจญภัยในโตเกียว ได้พบรักแต่งงานกับลูกเศรษฐีชื่อริวโซ ท่ามกลางการคัดค้านไม่เห็นด้วยจากแม่ของฝ่ายชาย

หลังแต่งงาน โอชินต้องเอาชนะใจสมาชิกครอบครัวของสามี พร้อม ๆ กับกอบกู้ธุรกิจร้านขายผ้า ซึ่งกำลังประสบภาวะย่ำแย่ จนกระทั่งเหตุวิกฤติทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เธอคลอดลูกเป็นชาย กิจการที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นตัดเย็บเสื้อผ้าเด็กกำลังก้าวหน้า ตระเตรียมเปิดโรงงานขนาดใหญ่ แต่แล้วทุกอย่างก็พังพินาศในชั่วพริบตา เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของโตเกียว เมื่อเดือนกันยายน ปี 1923 (มีผู้เสียชีวิตราว ๆ สามแสนคน อีกประมาณสองล้านสูญเสียบ้านกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย)

โอชินต้องโยกย้ายไปอยู่กับครอบครัวของสามี เผชิญความขัดแย้งระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ และลงเอยด้วยการที่ลูกสาวเพิ่งคลอดเสียชีวิต

โอชินหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่เปิดร้านอาหาร จากนั้นก็โยกย้ายมาเป็นแม่ค้าขายปลาที่เมืองอิเสะ พลัดพรากกับสามีนานหลายปี กว่าจะมีโอกาสหวนคืนกลับมาเป็นครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาดังเดิม

ทว่าผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ทำให้ลูกชายที่ถูกเกณฑ์เป็นทหารเสียชีวิต สามีฆ่าตัวตาย ธุรกิจที่กำลังเติบโตพังทลายไปต่อหน้าต่อตา

โอชินเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวยาวนาน จากช่วงวัยกลางคนย่างสู่วัยชรา ผลักดันจนร้านขายปลาเล็ก ๆ กลายเป็นซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ และค่อย ๆ ขยับขยายสาขาออกไปอีกหลายแห่ง พร้อม กับความเติบโตของบรรดาสมาชิกครอบครัว

เรื่องจบลงเมื่อตระกูลทาโนคุระในปี 1983 กำลังเผชิญกับหายนะครั้งสำคัญที่อาจส่งผลถึงขั้นล้มละลาย แต่ก็ทำให้ทุกคนได้รับบทเรียนถึงคุณค่าของความเป็นครอบครัว การยืนหยัดเคียงข้างในยามทุกข์ และจิตใจมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ Oshin เป็นละครโทรทัศน์ที่ ?จับใจ? ผู้คน

อันดับแรกคือ ชั้นเชิงทางด้านการเขียนบท กำหนดวางบุคลิก ซึ่งทำให้ผู้ชมผูกพันเอาใจช่วยตัวละคร จากนั้นก็สร้างเหตุการณ์ผันผวนยอกย้อน ?ดีสลับร้าย? ต่างๆ อยู่เป็นระยะ ๆ จนทำให้ละครชุดนี้ ดูสนุกเข้มข้นชวนติดตาม และสามารถสะกดตรึงไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ถัดมาคือ ละครชุด Oshin นำพาคนดูเข้าสู่การผจญภัยที่ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาสาหัสในชีวิต และประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ด้วยการปลุกปลอบสร้างกำลังใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเรื่องทุกข์อุปสรรคทั้งหลายของตนเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กน้อย เมื่อเทียบกับชะตาโดยรวมของตัวละคร

ฝีมือการเขียนบทของฮาชิดะ ซุงาโกะแยบยลตรงนี้เอง กล่าวคือ แท้จริงแล้วชีวิตของโอชินไม่ได้เลวร้ายย่ำแย่ไปเสียทั้งหมด มีด้านบวกด้านลบทุกข์สุขปะปนอยู่ใกล้เคียงกัน และแทรกสลับไปมาอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่โดยกลวิธีการนำเสนอ มักเลือกเน้นรายละเอียดในช่วงยากลำบากของตัวละครอย่างถี่ถ้วน และบอกเล่าช่วงที่มีความสุขให้รวบรัดตัดข้ามผ่านไปโดยเร็ว

น้ำหนักอารมณ์ของเรื่องของ Oshin จึงโน้มเอียงมาทางโศกสะเทือนอารมณ์อย่างเด่นชัด (และใช้ช่วงที่ตัวละครมีความสุขเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา)

ความน่าสนใจอีกประการได้แก่ การเล่าเรื่องที่กินเวลายาวนาน ส่งผลให้ Oshin สะท้อนรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีคุณค่าเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง เศรษฐกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณ๊ ตลอดจนสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน (Oshin แสดงให้เห็นจุดเปลี่ยนของญี่ปุ่น จากประเทศที่ยากไร้ขาดแคลน บทบาทของทหารที่ขึ้นมามีอำนาจครอบงำสังคม กระทั่งเป็นชนวนให้เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย และจีน ปิดท้ายด้วยสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งกลายเป็นผู้แพ้ ถูกอเมริกายึดครอง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูครั้งใหญ่ จนเติบโตก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ)

อย่างไรก็ตาม แง่มุมที่ลึกซึ้งกินใจมากสุดใน Oshin คือ แก่นเรื่องที่แสดงผ่านบุคลิกของโอชิน ซึ่งประกอบไปด้วยจิตใจมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ไม่เกรงกลัวความล้มเหลว (โอชินเชื่อว่า ไม่ว่าจะเสียหายพังพินาศเพียงไร ทุกสิ่งสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ) การก้าวเติบโตไปข้างหน้า ๆ อย่างช้า ๆ แต่มั่นคง การแสวงหาความสุขจากความสงบ สมถะ และสันโดษในชีวิต

ที่สำคัญคือ ตลอดทั้งเรื่อง Oshin ได้สรุปตอกย้ำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งว่า ความสุขในชีวิตเป็นสิ่งที่เราจะต้องเสาะหาให้พบ ในท่ามกลางความทุกข์ยาก อันเป็นเหตุการณ์ส่วนใหญ่แกนหลัก

มีฉากเรียกน้ำตาใน Oshin อยู่มากมาย แต่มันไม่ได้เกิดจากบริเวณเรื่องเศร้าสลดหดหู่หม่นหมอง ตรงกันข้าม เกือบทุกครั้งที่ผู้ชมเสียน้ำตา ส่วนใหญ่มักจะมาจากฉากหยิบยื่นแสดงน้ำใจทำความดีต่อกันระหว่างตัวละคร




RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - bobonuii19 - 25-02-2008

วันนี้ป้านุ้ยขอนำเสนอ ละครญี่ปุ่นเรื่อง Nodame Cantabile มาฝาก คงเหมาะกับ ป้า ๆ น้า ๆ บ้านดนตรี เป็นอย่างมาก สนุกม๊าก ๆ เลยค่ะ ปร้านุ้ยหละทึ่ง



Nodame Cantabile เป็นละครที่พัฒนามาจากการ์ตูนของ Tomoko Ninomiya เป็นเรื่องราวของนักเรียนดนตรีสองคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่ต้องมาอยู่หอพักห้องติดกัน ขณะที่พระเอกเป็นพวกเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิสม์ เนี้ยบ และคิดๆๆๆๆๆๆ ทุกๆ เรื่องเป็นจริงเป็นจังตลอดเวลา แต่นางเอกโนดาเมะของเรากลับเป็นคนสันหลังยาวสุดโคตร บ้าของกิน ไม่เคยคิดอะไรเลยนอกจากความฝันของตัวเองที่อยากเป็นครูสอนโรงเรียนอนุบาล แต่ที่พระเอกและนางเอกมีเหมือนกันคือพรสวรรค์ทางด้านดนตรีที่เปี่ยมล้น

เรื่องราวของจิอากิ ชินอิจิ (ทามากิ ฮิโรชิ) นักดนตรีหนุ่มพรสวรรค์ เขาเกิดในครอบครัวนักดนตรี มีพ่อเป็นนักเปียโนชื่อดังทำให้ได้คลุกคลีกับดนตรีตั้งแต่ยังเล็ก และได้มีโอกาสไปรับการสอนจากกับคอนดักเตอร์ระดับโลกอย่างเซบาสเตียน วิเอร่า ที่เวียนนา เมื่อครั้งอายุ10 ขวบ ทำให้ชินอิจิมีความฝันอยากจะเป็นคอนดักเตอร์บ้าง และเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งเพราะเค้าต้องกลับญี่ปุ่นเพราะคุณแม่ของเค้าได้หย่ากับพ่อ แต่ระหว่างเดินทางกลับญี่ปุ่นทำให้จิอากิประสบอุบัติเหตุเครื่องบินที่นั่งร่อนลงจอดฉุกเฉิน ทำให้เขาไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ และยังเคยจมน้ำอีกก็เลยพาลขึ้นเรือไม่ได้ไปด้วย ทำให้จิอากิไม่สามารถเดินทางออกไปนอกญี่ปุ่นได้เลยทั้งที่เค้ามีความพร้อมทุกอย่างที่จะก้าวต่อไปในเวทีโลก และในระหว่างที่เขากำลังสับสนกับชีวิตและอนาคตอยู่นั้น สวรรค์ (ช่วงแรกคงเรียกว่านรก) ก็บันดาลให้เขาได้มาพบกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอชื่อโนดะ เมงุมิ (เธอน่ารัก ชอบขโมยข้าวกล่อง สกปรกมากกกกกกกก แต่มีพรสวรรค์ทางเปียโน (แต่มั่วสุดฤทธิ์ เพราะเธอไม่อ่านโตจะใช้ฟังแล้วเอามาดีด) เธอดันมาอยู่อพาร์ทเม้นต์ห้องข้างๆจิอากินั่นเอง ตั้งแต่ได้พบกับเธอ โนดาเมะก็กลายเป็น"ภาระ" อันหนักอึ้งของจิอากิ ทั้งเรื่องดนตรีที่ต้องคอยสอน (ดันได้อาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกัน) , อาหารการกินที่ต้องคอยทำให้กิน (เพราะไม่งั้นเธอจะตามตื้ออย่างแรง) ขนาดห้องยังต้องคอยไปเก็บกวาดให้ (เพราะไม่เช่นนั้น เหล่าหนอนและแมลงอาจจะลามไปห้องจิอากิก็เป็นได้ แต่ภาระชิ้นใหญ่นี่กลับทำให้จิอากิได้พบโลกในมุมมองใหม่ที่เขาไม่เคยพบมาก่อนและทำให้ความหมายของการมีชีวิตอยู่ของจิอากิเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม ขอเชิญมาร่วมลุ้นเส้นทางสู่การเป็นคอนดักเตอร์ระดับโลกกับผู้ชายที่เล่นดนตรีเก่งสุดๆ (คนอะไรไม่รู้ เล่นเครื่องดนตรีเก่งมันซะทุกชนิด) แต่ขึ้นเครื่องบินกับนั่งเรือไม่ได้ (แล้วจะโกอินเตอร์ยังไงเนี่ย) ในซีรีย์สุดฮาแห่งปี Nodame Cantabile


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - kjb_kevin82 - 25-02-2008

พี่ๆนี้ตลกดีจัง


RE: คอญี่ปุ่น...เชิญทางนี้ - bobonuii19 - 26-02-2008

kjb_kevin82 Wrote:พี่ๆนี้ตลกดีจัง

อะไรตลกค่ะ แต่ป้าว่า ตลกแล้วจะแก่ช้าเน้อน้าว่าไหมTongue ไม่เคยคุยกันเลย น้าเป็นใครมาจากไหนเนี่ย ยินดีที่ได้รู้จักค่ะCool