การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2) +--- Thread: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ (/showthread.php?tid=895) |
RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - Webmaster - 14-01-2008 ใจเย็นคับพี่น้อง...ผมเพียงแค่เห็นข่าวเค้าประกาศออกมา ก็เลยมาบอกต่อน่ะคับ เพราะพวกเราหลายๆคนก็เข้าๆออกๆสถานที่นั้นอยู่ ทั้งไปทำงานหรือไปพักผ่อน ก็จะได้เตรียมๆไว้เท่านั้นคับ จริงๆแล้วประกาศนี้ผมจำได้ว่าเค้าเคยทำกันมาแล้วนะคับ บางร้านก็จะแยกไว้เลย ส่วนไหนสูบได้ ส่วนไหนห้ามสูบ... สำหรับในที่นี้ทุกๆท่านผมก็เห็นปฎิบัติตามกฎระเบียบของสังคมถูกต้องดีอยู่แล้วนะคับ การออกความเห็นเป็นประชาธิปไตยคับ แต่คงไม่ไปชี้ขาดว่าใครผิดใครถูกหรอกคับ RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - LittleNomad - 14-01-2008 อนุสนธิมาจากเรื่องห้ามสูบบุหรี่ฯ รู้สึกผมจะทำให้มิตรสหายเข้าใจอะไรบางอย่างคลาดเคลื่อน - - ต้องขออภัยด้วยครับ ่อันที่จริงมันเริ่มมาจากผมคิดว่า ประเด็นกระทู้นี้ สาระอยู่ที่เรื่องกำลังจะมี กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ ฉบับใหม่ ออกมาบังคับใช้ ซึ่งในทัศนะของผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และมองว่ามันมีทางออกที่ไม่ทำร้ายกันทั้งสองฝ่าย ก็เท่านั้น... เราเลือกเกิดไม่ได้... เลือกชาติสังกัดไม่ได้... แต่ผมเชื่อว่า เรามีสิทธิที่จะเลือกการมีชีวิตแบบไหน โดยไม่ทำร้ายผู้อื่น... ผมติดบุหรี่ และยังไม่คิดแม้แต่จะเลิก แม้ใครต่อใครจะทั้งห่วงทั้งขู่... ผมก็ได้แต่บอกว่า จะตายอย่างทรมาณ ก็ช่างมันเถิด... ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่อยู่ทรมาณเพื่อเป็นภาระของใครหรอก... ผมติดบุหรี่... แต่ผมเกรงอกเกรงใจทุก ๆ คนที่ไม่สูบบุหรี่ จึงไม่เคยสูบบุหรี่ในที่ ๆ ไม่สมควร... เคยแม้กระทั่งกระทืบคนที่สูบบุหรี่ในลิฟ คอนโดฯ ที่ผมอาศัย เพราะห้ามหลายหนแล้วไม่ฟัง ทว่าขณะเดียวกัน ก็รับไม่ได้เช่นกัน ที่จะถูกก่นด่าหรือถูกแสดงกิริยาที่ไม่เคารพสิทธิส่วนตัวของผม... ...ผมประกาศตัวชัดเจนครับ ว่าเป็นอริทางความคิดกับแนวคิดอย่างสุดขั้วของ สสส. (สถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย) และมีคำถามว่า งบประมาณหลายสิบล้านบาทกับไอ้ป้ายรณรงค์แต่ละโครงการณ์ย่อยนะ ทำเพื่ออุดมการณ์กันจริงหรือ? กลับมาเรื่องกระทู้นี้... เมื่อผมเสนอความคิดอ่านออกมาในตอนแรก ก็แค่ทัศนะเสรีชนคนหนึ่งเท่านั้นที่เห็นว่ามันมีทางออกอื่นที่น่าจะมีเหลุมีผลมากกว่า อัตตาคติ... แต่ทำไปทำมา กระทู้นี้ดูเหมือนจะกลายเป็นกระทู้ต่อต้านคนสูบบุหรี่ ผมเลยรู้สึกว่าตัวเองกำลังมาอยู่ผิดที่ผิดทาง ก็เท่านั้นครับ... อย่างไรก็ตาม ผมซาบซึ้งน้ำใจมิตรสหายหลาย ๆ คนครับ... และจะหาเวลาให้ได้สำหรับไปนั่งเคลียร์กับน้าป๋อ ทั้งคืน! ตอนนี้ ขออนุญาตไปสูบบุหรี่สักมวนสองมวนก่อนนะครับ... RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - boobyblue - 14-01-2008 ขออนุญาตจุดไม้ขีดไฟให้พี่รอนก่อน แล้วค่อยเอาไฟมาจ่อที่ปลายมวนของผม............ ว่าแต่ว่าคุยเรื่องไรกัน? ผมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่มันก็เรื่องของผม!! ผมไม่จำเป็นต้องพ่นควันใส่หน้าใคร เพราะผมกำลังเอาถุงพลาสติสครอบหัวแล้วพ่นควันใส่กระโหลกตัวเองอย่างเมามึน!! โอย...........เมาบุหรี่!! RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - povation - 15-01-2008 หากใครผลิตบุหรี่ที่สูบแล้วไม่มีควันออกมา ปัญหาเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นมั๊งครับ สำหรับท่านที่เคยสมาคมกับผม คงรู้ดีว่าผมมิได้รังเกียจคนสูบบุหรี่ แต่ผมชอบมองความเป็นจริงหรือสัจธรรมบางอย่างมากกว่า...นั่นคือเรื่องของ *คน* เดาได้อยู่แล้วว่าน้าอ้วนคงจะหาเวลาว่างนัดเคลียร์กับผมทั้งคืน!อยู่ดี เพราะเรามีหลายเรื่องคาใจกัน ส่วนที่ไหนคือสถานที่นัดเคลียร์ ก็คงต้องแวดล้อมด้วยควันบุหรี่นั่นแหละครับ! ผมรออยู่นะครับ มีภาษากฎหมายกล่าวไว้ว่า * ความยินยอมไม่ก่อให้เป็นละเมิด * RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - LittleNomad - 15-01-2008 เรื่องบุหรี่ไม่มีควัน ความจริงเมื่อราวยี่สิบปีก่อน เคยมีผู้ผลิตออกมา แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่มีควัน มันจะเลยไม่ได้รับความนิยม... พักดับบุหรี่ มาว่ากันเรื่องอื่นดีกว่า... จนถึงวันที่ 23 นี้ ผมว่างตลอด (ยกเว้นวันพุธที่มาถึง กับเย็นย่ำวันอา่ทิตย์ที่ 20) น้าป๋อ ว่างวันไหนละครับ ผมจะได้ไปเคลียร์เรื่องคาใจ (แต่สายสะพายหนังเส้นเก่าที่ติดหนี้น้า ยังหาไม่เจอ)... สำหรับสถานที่ไม่เกี่ยงครับ และเพื่อสุขภาพของสหาย ผมขอเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่...แต่ขออนุญาตปลีกตัวออกนอกเขตเป็นระยะ ๆ บ้า่งก็แล้วกันครับ... RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - povation - 15-01-2008 สายสะพายกีตาร์ไม่คาใจแล้วครับ...ขอบคุณครับที่กรุณา ผมว่างวันศุกร์นี้ แล้วผมจะโทรแจ้งให้ทราบว่าเย็นย่ำค่ำเวลากี่โมงนะครับ พวกที่ขอเป็นสักขีพยาน..แต่ติดวีซ่าชั่วคราว..ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ผมมิได้รังเกียจเพียงแต่รังแก!เล็กน้อย RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - LittleNomad - 15-01-2008 povation Wrote:สายสะพายกีตาร์ไม่คาใจแล้วครับ...ขอบคุณครับที่กรุณา ...รอด้วยความยินดียิ่งครับ... สักขีพยาน...รีบขอวีซ่าถาวร -ด่วน! เที่ยวนี้ถือโอกาสขอแบบ M เลย เผื่อไว้ใช้เข้าออกได้หลายหน... RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - Maow - 15-01-2008 ใจเย็นๆ กันนะครับน้าๆที่รักของกระผม อย่าน้อยใจเลยนะครับ พวกเรารักกันดีอยู่แล้ว ไม่อยากให้เกิดการเสียกรุงเป็นครั้งที่สอง ผมเฝ้าอ่านกระทู้นี้ทุกวัน และรู้สึกว่ามันจะล่อแหลมเมื่อความคิดเห็นมีความแตกต่าง ด้วยความเคารพต่อความคิดของเพือนสมาชิกทั้งหลายนะครับ ผมคิดว่าสมาชิกแต่ละท่านก็มีมุมมอง และความรู้สึกนึกคิดของแต่ละท่าน ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่เปราะบางมากจริงๆ ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่าดูดหรือไม่ดูดบุหรี่ดีกว่า แต่น่าจะเป็นความพอใจส่วนตัว เพราะผมคิดว่าน่าที่จะมีเหตุผลของเขาเอง และนั่นก็คือความพอใจ ผมว่าถ้าได้คุยกัน "ทั้งคืน" ก็คงเข้าใจกันและผมเชื่อว่าแนบแน่นมากขึ้น "แน่นอน" เพราะสมาชิกบ้านเราที่นี่เป็นผู้ที่มีวุฒิทางความคิดสูงมากครับ มีหน้าที่การงาน มีกิจการที่ดี มีวุฒิทางการศึกษาที่ดีมาก ลองคิดดูซิครับว่าเวปบอร์ดที่ไหนที่คุยกัน นัดกัน กินข้าวด้วยกัน ทำกิจกรรมโน้นนี่ด้วยกัน อย่างสนุกสนาน เป็นพี่เป็นน้องกัน บางทีไม่ได้เจอหน้าคุยชวนกันไปกินข้าวเปิดบ้านเล่นกีต้าร์อย่างสนุกสนาน โทรศัพท์กันก็เหมือนรู้จักกันเป็นสิบปี ผมจึงไม่อยากให้เรื่องเพียงแค่เจ้ามวนบุหรี่มาบั่นทอนความสนิทสนมกลมเกลียวของเพื่อนสมาชิกครับ ผมหวนนึกไปถึงประเทศอังกฤษ ถ้าหากว่ามีการเสนอความคิดในสภาว่าให้เลิกการเคี้ยวหมากฝรั่ง ผมว่าประเทศอังกฤษมันคงแตกแน่นอนครับ เพราะเกือบทุกคนก็เคี้ยวกันทั้งนั้น และไม่ใช่แค่เคี้ยวอย่างเดียว ตอนคายทิ้งก็ไม่ได้ทิ้งลงในถังขยะด้วย ดังนั้นเราจะเห็นตามถนนหนทางในย่านช๊อบปิ้งเซ็นเตอร์หรือตามที่ต่างๆ แม้แต่ในมหาวิทยาลัย จะมีแต่หมากฝรั่งที่บี้แบนติดอยู่บนถนนเต็มไปหมด ซึ่งผมว่ามันมีจำนวนมากกว่ารอยน้ำหมากที่คนบ้วนทิ้งที่ตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นเจดีย์ชเวดากองที่ประเทศพม่าอีก..... ด้วยความเคารพในสิทธิเสรีภาพของเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - povation - 15-01-2008 ส่วนตัวผมและน้าอ้วนไม่มีทางเคืองกันง่ายๆหรอกครับ น้าอ้วนเป็นพี่ที่น่ารัก ใจดี ใจง่าย(รวมทั้งเรื่องกีตาร์) ทำตัวสบายๆ ผมไม่ยอมเสียนักดนตรีเสาหลักของบ้านสีฟ้าท่านนี้ไปหรอกครับน้าหม่าว..สบายใจได้ แต่ความเห็นของผมเรื่องกระทู้นี้อาจจะรุนแรงไปมากสำหรับการสูบบุหรี่...แต่นั้นคือความจริง ต้องขออภัยต่อบ้านสีฟ้า ที่ดูเหมือนว่าบรรยากาศจะอึมครึม...ราวเหมือนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา? และยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วยกับมาตราการ Stupid เช่นว่านั้น... RE: การให้สถานบันเทิงทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ - pood - 15-01-2008 เราไม่ใด้ทะเลาะกันหรอกครับน้าหม่าว การแลกเปลี่ยนมุมมองนี่ทำให้ทุกคนฉลาดขึ้นนะ เมือมีการออกกฏหมายที่มีผลกระทบกับคนทั่วไปออกมา เราก็ต้องยอมรับแม้เขาไม่ใด้ขอความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ ในทุกฯด้านก่อนจะออก ทุกวันนี้คนไทยก็สูบบุหรี่น้อยกว่าคนญี่ปุ่น เกาหลีและจีนอยู่แล้ว เราจะห้ามสูบบุหรี่ในสถานบันเทิงมัน ก็เรื่องของเราครับ ถ้าสถานบันเทิงไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวก็ช่างมัน ที่อเมริกาเองก็เคยมีการเสนอกฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน ถ้ามองเผินฯก็เหมือนกับการริดรอนสิทธิส่วนบุคคลแต่ความจริงไม่ใช่ครับ เขาออกกฏหมายมาตามการล้อบบี้ของผู้ผลิตเฟอร์นีเจอร์ที่จะใด้ไม่ต้องทำพวกที่นอนหมอนม่านด้วยวัสดุไม่ติดไฟ(inflamable) เพื่อลดต้นทุน คุณจะสูบก็ไม่มีใครมาจับหรอกแต่ถ้าคุณทำบุหรี่หล่นใส่เบาะแล้วไฟลุกพรื่บขึ้นมาคุณก็ฟ้องเขาไม่ใด้ไง เรื่องบุหรี่ทำลายสุขภาพของคนสูบและคนรอบข้างนี่ก็จริงครับ แต่จริงแค่ใหนเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมอื่นฯที่ทำลายสุขภาพเหมือนกัน ลองมาดูอายุเฉลี่ยของประชากรแต่ละประเทศกันครับ 1. Japan-82.6 years 2. Hong Kong-82.2 years 65. Vietnam-74.2 years 111. Thailand-70.6 years คนญี่ปุ่นกับฮ่องกงเขาสูบบุหรี่มากกว่าคนไทยเยอะครับแต่ทำไมเขาอายุยืนเป็นอันดับหนึ่งและสองของโลกใด้แต่พี่ไทยเรา อยู่อันดับที่ร้อยสิบเอ็ด แพ้เวียตนามที่อยู่อันดับที่หกสิบห้าสามปีกว่า คนไทยอายุสั้นเพราะสุราและมลพิษในอากาศครับ ผมเคยมีพนักงานส่งเอกสารคนหนึ่งที่ขยันมาก พอเลิกงานแล้วก็ไปเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ต่อ เขาเสียชิวิตด้วยโรคมะเร็งในปอดตอนอายุ 23 ปีทั้งทั้งที่ไม่เคยสูบบุหรี่แต่ต้องดมควันพิษในกรุงเทพฯตลอดวัน ถ้าจะต้องการให้คนไทยมีอายุยืนขึ้นด้วยการห้ามสูบบุหรี่ในสถานบันเทิงโดยไม่คิดถึงผลกระทบเชิงลบนี่ผมสงสัยจังว่าเขาใช้อวัยวะส่วนใหนคิดครับ |