OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9

OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: Classified (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=7)
+--- Forum: ซื้อ-ขาย / Buy-Sell (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=8)
+--- Thread: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 (/showthread.php?tid=19646)

Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - pood - 19-12-2015

1981 K. Yairi DY-18

กีตาร์รุ่นนี้เสียงดีมากครับ เป็นรุ่น all solid inspired by Martin D-18 และผลิตมาตั้งแต่ยุค '70s จนถึงปัจจุบัน

ตัวนี้ไม้สวยมากครับ

Headstock ใช้ brazilian rosewood, Fingerboard เป็น ebony

สาย 6 fret 12 สูง 2.5 mm.

กล่อง Takabe รุ่นแพง (made in Japan)

มีตำหนิจุดเดียวเป็นรอยขนแมวตรงลูกศรชี้

เสียงครับ

SOLD

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - pood - 19-12-2015

กีตาร์ที่ลงใหม่สองตัวมีคนจองแล้วนะครับ เดี๋ยวผมจะลงเพิ่มอีกคืนนี้ครับ

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - pood - 19-12-2015

2014 Larrivee P-03 Mahogany Parlor Guitar

ตัวนี้ต้องขอยืมคำพูดที่เราใด้อ่านกันบ่อยๆจากน้าท่านหนึ่งมาใช้ว่า "สวยงาม น่าเล่น น่าสะสมมากๆ ครับ ขออนุญาตเชียร์เป็นพิเศษครับ"

Larrivee นั้นเขามีชื่อเสียงในการผลิตกีตาร์ทรง Parlor มานานแล้ว กีตาร์ทรงนี้ใช้ไม้แผ่นเล็กกว่าทรงอื่น Larrivee ที่มีโรงเลื่อยของตัวเองและเป็นผู้ขายไม้ให้กับผู้ผลิตเกือบทุกรายในอเมริกาก็เลยมีไม้สวยๆแผ่นเล็กเกินไปที่จะขายแต่ที่เอามาทำ parlor guitar ใด้เหลืออยู่มากมายที่แทบจะไม่มีต้นทุนเพราะไม่ต้องไปซื้อใคร

Jean Larrivee ก็เลยค้นคว้าและออกแบบ all solid parlor guitar ที่เสียงดีและดังไม่แพ้ใครมาขายตั้งแต่ Series 1 ราคาไม่กี่ร้อยเหรียญยัน Series 9 ราคาหลายพันเหรียญ พอผลิตใด้สามสี่ปีก็ต้องเลิกผลิต series อื่นๆหมดเหลือไว้แต่รุ่นแพงคือ Series 9 ที่เลิกผลิตก็เพราะยิ่งขายดียิ่งกำไรหด แม้ค่าวัสดุจะถูกมากแต่ค่าแรงมันก็แพงพอๆกับกีตาร์ตัวใหญ่

ประวัติศาสตร์ใด้เปลี่ยนแปลงเมื่อสามปีที่แล้วเมื่อ Larrivee Parlor Guitar ใด้ปรากฏตัวใน Music Video เพลงแรกของโลกที่ถ่ายทำในอวกาศ เพลงนี้ร้องและเล่นกีตาร์โดยนักบินอวกาศ Colonel Chris Hatfield และถ่ายทำกันเองทั้งหมดบนสถานีอวกาศนานาชาติ (international space station) กีตาร์ที่ใช้คือ Larrivee P-01 รุ่นถูกสุดที่เลิกผลิตไปนานแล้วครับ

คลิปนี้ภาพสวยมาก เพลง Space Oddity (David Bowie 1969)

คราวนี้ Larrivee ก็เลยต้องกลับมาผลิต parlor guitar รุ่นไม่แพงอีกครั้ง รุ่น P-03 นี่เขาลือกันว่าเสียงดีกว่ารุ่นแพงเพราะใช้ satin finish บางๆไม่เคลือบด้วย polyurethane หนาๆเหมือนรุ่นแพง (ผมเคยมีรุ่น P-09FM ที่สวยมากแต่เสียงทึบ) ตัวนี้ผมซื้อมือหนึ่งเพราะไม่มีใครยอมขายมือสองราคาไม่แพงเลยซักคน

ราคาและสเป็ค

ตัวนี้เป็นกีตาร์ใหม่ครับ

กล่องสวยมาก

SOLD

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - จ่าหนอน - 19-12-2015

เรียนถามน้ากฤษณ ครับ
ไม้หน้า solid sika spruce ที่มีลายต่างกัน
1.ลายเส้นละเอียดๆๆ (ถี่ๆ)
2.เหมือนข้อ 1. แต่มี เส้นตัดขวาง (silk cross เขียนถูกรึเปล่า แฮ่ๆ)
3.ลายเส้น ห่างๆ

1-3 มีผลต่อเสียง ไหมครับ ถ้าbracing และส่วนอื่นเหมือน กันหมด
สงสัยอยู่ ครับ Big Grin

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - dokdiao - 19-12-2015

ผมมาไม่ทันตามเคย (T_T)

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - pood - 19-12-2015

ตัวต่อไปผมขอเอาใจคอกีตาร์ jazz หลายท่านที่จอง ES-175 ไม่ทันนะครับ ตัวนี้เป็นกีตาร์ที่ครอบครองมานานแล้วครับ

2002 D'Aquisto DQJZ Jazz Line

Jimmy D'Aquisto คือศิษย์เอกและผู้ช่วยของ John D'Angelico ซึ่งเป็นคนสร้างกีตาร์ archtop ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคหลังสงคราม เมื่อ John เสียชีวิตลงในปี 1964 เขาก็ใด้เริ่มปรับปรุงโครงสร้างและรูปลักษณ์ของ D'Angelico ให้ทันสมัยขึ้นจนใด้ครองอันดับหนึ่งของ Archtop builders แต่เขาใด้เสียชิวิตในปี 1995 ตอนอายุแค่ 59 ปี

กีตาร์ original D'Aquisto มียอดผลิตทั้งหมดเพียง 370 ตัว ราคาซื้อขายล่าสุดประมาณ 2-9 ล้านบาทครับ

Jimmy D'Aquisto มีความไฝ่ฝันอยู่ลึกๆว่าอยากให้กีตาร์ของเขามีจำนวนผลิตมากพอและราคาต่ำพอสำหรับมือกีตาร์อาชีพที่ซื้อกีตาร์บูติกตัวละเป็นหมื่นๆเหรียญไม่ไหว ความฝันของเขากลายเป็นความจริงเมื่อ Fender ติดต่อมาให้เขาเป็นคนออกแบบและควบคุมการผลิตกีตาร์ archtop ให้ในปี 1984 เพื่อสู้กับ Gibson และ Guild

ปัญหามีอยู่ว่าโรงงาน Fender USA ทำกีตาร์ archtop ไม่เป็น ดังนั้นกีตาร์ Fender D'Aquisto จึงเป็นผลงานของ Fender Japan ที่ขายในญี่ปุ่นอยู่สี่ปีก่อนจะส่งมาขายในอเมริกาในปี 1989 ถึง 1994 และขายใด้เกิน 1,000 ตัวซึ่งนับว่าเป็นกีตาร์ archtop ที่ขายดีที่สุดของ Fender ตั้งแต่ก่อตั้งมาสี่สิบปี

ในปี 1994 Fender เลยบอกให้ Fender Japan เลิกผลิตเพราะจะเอา D'Aquisto มาให้ Fender Custom Shop ผลิตเองในอเมริกา คราวนี้ Jimmy ก็เลยต้องไปสอนช่างอเมริกันให้ทำกีตาร์ archtop จนล้มป่วยและเสียชีวิตลงแถวหน้าโรงงาน Fender Corona ในปี 1995 (ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ)

Fender D'Aquisto Custom Shop ต้องเลิกผลิตในปี 2002 เมื่อทายาทของเขาขายทั้ง blue print และลิขสิทธิ์ให้กับ Aria Custom Shop ในปีนั้นและก็ยังผลิตต่อมาจนถึงทุกวันนี้ในราคาที่ไม่ง้อลูกค้า รุ่น Jazz Line นี้ Jimmy ออกแบบให้เป็นกีตาร์ไฟฟ้าตั้งแต่แรกครับ

สเป็ตและราคาในอเมริกา

ตัวนี้เป็นล้อตแรกที่ส่งไปทดสอบตลาด ยังไม่มี serial number ปัมป์บน fretboard ลาย Flame จัดกว่าตัวอื่นที่ผมเคยมีเยอะผมเลยเก็บไว้ตัวนี้ตัวเดียวครับ

คลิปนี้อัดสี่ปีกว่าแล้ว (ยอดวิวเป็นหมื่น) แอมป์กีตาร์โปร่ง VOX AGA150

คลิปนี้เพิ่งอัดอาทิตย์นี้เลยชัดกว่า แอมป์ Fender Deluxe Vintage Modified ครับ

SOLD

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - Naris - 19-12-2015

(19-12-2015, 01:27)dokdiao Wrote: รอดูกีต้าร์โปร่งตัวอีกตัว ของน้ากฤษณ์ อย่างใจจดใจจ่อ ครับ

อย่าลังเล

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - ยอดเยี่ยม - 20-12-2015

Rolleyes

โกหก น่าตายจริงๆ Cool

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - pood - 20-12-2015

(19-12-2015, 21:01)จ่าหนอน Wrote: เรียนถามน้ากฤษณ ครับ
ไม้หน้า solid sika spruce ที่มีลายต่างกัน
1.ลายเส้นละเอียดๆๆ (ถี่ๆ)
2.เหมือนข้อ 1. แต่มี เส้นตัดขวาง (silk cross เขียนถูกรึเปล่า แฮ่ๆ)
3.ลายเส้น ห่างๆ

1-3 มีผลต่อเสียง ไหมครับ ถ้าbracing และส่วนอื่นเหมือน กันหมด
สงสัยอยู่ ครับ

หน้าตาคงไม่มีผลกับเสียงหรอกครับ ถามผมว่าสาวสองคนนี้ใครเสียงดีกว่ากันยังตอบง่ายกว่า

(19-12-2015, 23:55)Naris Wrote:
(19-12-2015, 01:27)dokdiao Wrote: รอดูกีต้าร์โปร่งตัวอีกตัว ของน้ากฤษณ์ อย่างใจจดใจจ่อ ครับ

อย่าลังเล

ลงหมดแล้วนะครับแต่อาจมี surprise ในงานก็เป็นใด้

RE: OPEN HOUSE IX เปิดบ้านปีที่ 9 - dokdiao - 20-12-2015

(19-12-2015, 23:55)Naris Wrote:
(19-12-2015, 01:27)dokdiao Wrote: รอดูกีต้าร์โปร่งตัวอีกตัว ของน้ากฤษณ์ อย่างใจจดใจจ่อ ครับ

อย่าลังเล

ยอมครับ เห็น ลุงยาริ พร้อม คำว่า จอง แทบลมจับ เพิ่งเข้าเว็บมาชม หลังเลิกงานพอดี