MY GRETSCH STORY - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Guitar gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=3) +---- Forum: Pood's Guitar Gallery (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=20) +---- Thread: MY GRETSCH STORY (/showthread.php?tid=16666) |
MY GRETSCH STORY - pood - 23-07-2013 เมื่อห้าสิบกว่าปีก่อนนั้นกีตาร์ไฟฟ้า Fender น่าจะเป็นกีตาร์ในฝันของเด็กไทยเพราะทั้งวง The Shadows และ The Ventures ใช้ยี่ห้อนี้ทั้งสองวง ส่วนถ้าเป็นกีตาร์โปร่งนั้นก็คงเป็น Gibson หลายรุ่นที่ Elvis ใช้ในหนัง ส่วนกีตาร์ Martin นั้นวัยรุ่นไม่สนใจเพราะหน้าตามันจืดชืดมากครับ กีตาร์ไฟฟ้า Gibson ก็ยังไม่มีวงดังๆใช้เลยซักวง มาวันหนึ่งผมไปดูหนังที่เฉลิมไทย (ตอนนี้โดนรื้อไปแล้ว) เขาฉายคลิปของวงที่กำลังมาแรงคือวงสี่เต่าทอง มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากเพราะเกิดมาผมยังไม่เคยเห็นคนดูสาวๆกรี๊ดกันจนฟังเพลงไม่รู้เรื่อง บังเอฺิญไปเจอคลิปนี้ใน Youtube ลองฟังดูครับ คราวนี้กีตาร์ Gretsch กับ Rickenbacker ก็เลยกลายมาเป็นกีตาร์ในฝันของวัยรุ่นไทย ที่ต้องเป็น "กีตาร์ในฝัน" ก็เพราะมันไม่มีขายในบ้านเราเนื่องจากผลิตไม่ทันขายครับ ส่วน Hofner bass นั้นเบ้เงียบเส็งเอามาขายในราคา 3700 บาท Fast forward มาห้าสิบปีในเมืองไทยก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก Gretsch ทั้งๆที่กีตาร์ยี่ห้อนี้เขาโด่งดังไปทั่วโลก วันนี้ผมก็เลยขอเล่าเรื่องราวของยี่ห้อนี้แบบย่อๆและเอา Gretsch collection บางส่วนของผมมาลงให้ชมกันครับ Gretsch Collection ล่าสุด (06/2014) ผมเริ่มลงต่อในหน้า 2 นะครับ RE: MY GRETSCH STORY - pood - 23-07-2013 GRETSCH ยุคแรก Gretsch นั้นผลิตกลองและแบนโจมา 130 ปีแล้วแต่เพิ่งเริ่มผลิตกีตาร์ archtop แข่งกับ Gibson เมื่อแปดสิบปีมานี่เอง พอมาถึงยุคกีตาร์ไฟฟ้า Gretsch ก็โดน Gibson แซงด้วยรุ่น signature ของ Les Paul Gretsch ก็เลยไปชวน Chet Atkins มาเป็น endorser บ้างและออกรุ่น 6120 Nashville มาเป็นรุ่นแรกของ Chet Atkins ในปี 1954 ความจริงแล้วทั้ง Les Paul และ Chet ก็เป็นศิลปินโด่งดังขนาดมีรายการโทรทัศน์ด้วยกันทั้งคู่แต่ Chet มีอิทธิพลมากกว่ากับศิลปินร้อคยุคบุกเบิกอย่างเช่น Duane Eddy, Eddie Cochran, George Harrison และ The Monkees เป็นต้น กีตาร์ Gretsch เลยกลายเป็นขวัญใจของชาวร้อคไปจนผลิตขายไม่ทันในยุค '60s ต่อมาในปี 1967 Gretsch ก็โดน Baldwin ซื้อไปและคุณภาพก็ตกต่ำลงเรื่อยๆจนขายไม่ออกและต้องเลิกผลิตไปในปี 1981 GRETSCH ยุคสอง Gretsch อาจกลายเป็นกีตาร์ในอดีตไปถ้าไม่เกิดกระแส Rockabilly Revival ขึ้นในยุคนั้นพอดีโดยมี Brian Setzer เป็นฮีโร่ครับ ในยุคนั้นกีตาร์มือสอง Gretsch ก็เริ่มราคาสูงมากจนนาย Fred Gretsch ที่เป็นเหลนของผู้ก่อตั้งคิดจะผลิตขายใหม่ก็เลยไปขอซื้อชื่อคืนมาจาก Baldwin ปัญหามาเกิดตอนที่ไม่มีโรงงานไหนในอเมริกาที่มีความสามารถจะผลิตใด้เพราะกีตาร์ Gretsch มีชิ้นส่วนโลหะมากกว่ากีตาร์ยี่ห้ออื่นหลายเท่าตัวและการเคลือบสีก็เป็นการอบแบบที่ใช้กับกลองซะอีก ในที่สุดก็ไปเจอโรงงานที่ "เอาอยู่" เพียงเจ้าเดียวคือโรงงาน Terada ในญี่ปุ่นครับ Gretsch ก็เลยผลิตทุกรุ่นนอกจากรุ่น custom shop ที่ผลิตในอเมริกามาจนถึงทุกวันนีั ทางครอบครัว Gretsch ใด้มอบหมายให้ Fender เป็นผู้ดูแลในด้านการตลาดและการผลิตทั้งหมดมาตั้งแต่ปี 2003 ครับ COLOUR MY WORLD ในยุคบุกเบิกของกีตาร์ไฟฟ้านั่้นกีตาร์ทุกยี่ห้อก็ใช้สีพื้นๆหรือ sunburst เหมือนกับที่เคยใช้อยู่กับกีตาร์โปร่งแต่ Gretsch นั้นเคยชินกับการใช้สีแบบหรูหราและสะดุดตาอยู่แล้วเพราะเขาผลิตกลองเป็นอาชีพครับ นอกจากนั้นการชุบชิ้นส่วนโลหะเขาก็ชุบหนามากจนไม่มีการลอกหรือจาง (กีตาร์ในรูปบางตัวอายุเกินยี่สิบปีแล้ว) จะเห็นใด้ว่า Gretsch มีชิ้นส่วนโลหะมากมายจริงๆ ขนาดขั้วปรับความสูงแม่เหล็กในรุ่น humbucker ยังมีมาให้ 12 ขั้ว Gretsch ก็เลยเป็นผู้นำในการผลิตกีตาร์สีสวยๆมาตั้งแต่ปี 1954 แล้วครับ รูปข้างล่างนี่เป็นคอลเล็กชั่น "Colour My World" หกตัวของผมครับ RE: MY GRETSCH STORY - dear709 - 23-07-2013 ยี่ห้อนี้รู้จักแต่ white falcon ครับ (สีเหมือนกลองข้างบนเลยครับ) ส่วนชุด color my world นี้ ตัวสีน้ำเงินสวยจริงๆครับ ปล. ตา Brian Setzer แกสุดยอดในแนวทางนี้จริงๆนะครับ ช๊อบชอบครับ RE: MY GRETSCH STORY - yod69 - 24-07-2013 รอ.... [quote='yod69' pid='191827' dateline='1374608191'] รอ....6022ce RE: MY GRETSCH STORY - วันละเป๊ก - 24-07-2013 สวยน่าสะสมจริงๆครับ RE: MY GRETSCH STORY - pood - 25-07-2013 G6196-1955, COUNTRY CLUB 1955 REISSUE รุ่นนี้เป็นกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Gretsch ที่ออกมาในปี 1951 โดยใช้ชื่อว่า Electromatic และเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น 6196 Country Club ที่พ่นสี Cadillac green ในปี 1955 กีตาร์รุ่นนี้ออกวางตลาดในยุคที่ดนตรีแจ้ซยังเป็นที่นิยมอยู่ดังนั้นมันจึงเป็น Gretsch hollow body electric รุ่นเดียวที่ไม้หน้าเป็น solid carved spruce ครับ Gretsch ใช้ single coil pickup รุ่น Dynasonic ที่ผลิตโดย DeArmond จนถึงปี 1957 ครับ กีตาร์รุ่นนี้เสียงมีเอกลักษณ์มากเพราะเป็นการเอากีตาร์ archtop มาผสมกับ dynasonic pickup ที่มีสมญานามว่า "King of Twang". RE: MY GRETSCH STORY - pood - 25-07-2013 G6120 NASHVILLE G6120 เป็นรุ่นที่ Gretsch ออกแบบให้ Chet Atkins ในปี 1955 แต่ Chet ไม่ชอบ Dynasonic pickup ที่เป็น single coil ก็เลยไปให้ Ray Butts ออกแบบ Humbucking pickup คือรุ่น Filtertron ให้ Gretsch เปลี่ยนมาใช้ Filtertron ในปี 1958 เป็นต้นมาครับ สเป็ค Nashville มีขนาดเล็กกว่าและตัวบางกว่ารุ่น Country Club เพื่อิลด feedback ครับ สไคล์เสียงและเรื่องราวครับ G6122-1958 Country Classic I กีตาร์รุ่นที่สองที่ Gretsch ทำให้ Chet Atkins นั้นคือรุ่น Country Gentleman ในปี 1958 ครับ ความจริงแล้ว Chet Atkins ต้องการให้ Gretsch ทำเป็น semi-hollow เพื่อลด feedback แต่ Gretsch คงห่วงเรื่องน้ำหนักก็เลยใส่แค่ parallel tone bars ตรงกลางและทำ F-hole ปลอมโดยการทาสีเอาครับ ในปี 1962 Gretsch ก็ออกรุ่น Country Gentleman II ที่่เป็น double cutaway ตัวบางเหมือน Gibson ES-335 มาแทนครับรุ่นนี้คือรุ่นที่ George Harrison ซื้อไปใช้ในปี 1963 สเป็คของ Country Gentleman I เมื่อ Chet Atkins ย้ายไปอยู่กับ Gibson หลัง Gretsch ปิดโรงงานก็ใด้ออกรุ่น Country Gentleman มาอีก ดังนั้นเมื่อ Gretsch กลับมาผลิตใหม่ก็เลยต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Country Classic และเปลี่ยนสเป็คมาเจาะ F-hole จริงครับ เสียงและประวัติครับ G6119 TENNESSEE ROSE รุ่นนี้เป็นรุ่นเล็กกว่า G6122 ที่ออกมาพร้อมกันในปี 1958 ครับ ในยุคนั้นใช้ชื่อว่ารุ่น Tennessean แต่ตอนหลัง Gibson ก็ออกรุ่น Chet Atkins Tennessean มา Gretsch ก็เลยต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Tennessee Rose ครับ RE: MY GRETSCH STORY - pood - 26-07-2013 กีตาร์ electric hollow body ที่ถือว่าเป็นรุ่นอมตะของ Gretsch ยังมีอีกสองรุ่นคือรุ่น Anniversary (G6118) และ White Falcon (G6136) ครับ นอกจาก hollow body แล้ว Gretsch ก็ยังมีทั้งกีตาร์ acoustic archtop Synchromatic Series อีกหลายรุ่นแต่ที่สีแปลกๆผมมีอยู่ตัวเดียวคือรุ่น Synchromatic Junior (G3967) ที่เป็นสีทองทั้งตัวครับ SPECIFICATIONS: Top: Arched spruce top. Back & Side: maple. Neck: maple. Fingerboard: rosewood. Body width: 15" Body Depth: 3.0" Scale Length: 24.9" Pickup: Kent Armstrong Floating Pickup. Production Period: 2000-2002 only. รุ่นนี้เคยอัดเสียงตัวเก่าใว้ครับ RE: MY GRETSCH STORY - pood - 26-07-2013 G6012P Rancher Sweet Sixteen Gretsch โปร่งรุ่นนี้ไม่ใช่รุ่นที่เอาของเก่ามาสร้างใหม่แต่เป็นการเอารุ่น Rancher ที่มีขนาดใหญ่ 17" มาลดขนาดเหลือแค่ 16" เพื่อให้เสียงบาลานซ์มากขึ้นเวลาเล่นแบบ finger style สเป็คก็เป็น solid spruce top, maple back and side, standard X-bracing ครับ รุ่นนี้ผลิตออกมาแปดสีแต่ผลิตอยู่เพียงสามปีจาก 2000-2002 เท่านั้น ตอนนี้หายากกว่า Rancher ตัวใหญ่ครับ รุ่นนี้ไม่มีภาคไฟฟ้าจากโรงงานแต่ตัวนี้ผมใส่ LR Baggs M1A ใว้ครับ คลิปเสียงจริงยังไม่ใด้อัด มีแต่คลิปที่อัดเล่นๆครับ RE: MY GRETSCH STORY - napman - 26-07-2013 (26-07-2013, 15:59)pood Wrote: Dear Pood, As you may know, I always love to follow your posts that always filled up with entertaining and informative articles. For this clip I haven't seen it before. But WOW, Hattaya plays guitar and you sing! You put me in the mood my friend Thanks for sharing this clip with us here, Gretsch almost meaningless, you put ANY guitar in Hattaya's hand he'll make MUSIC out of it and then you step in and sing it!!..............Can't get any better than this |