นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Acoustic music (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=18) +--- Thread: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson (/showthread.php?tid=16729) |
นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - Olanla - 06-08-2013 เนื่องด้วยช่วงนี้บ้านฟ้าเงียบมาก น้าๆแต่ละคนคงซุ่มหากีตาร์กันอยู่แน่ๆเลย ส่วนผมก็กำลังรอ Simpson guitar ที่หามาตลอดสองปีมาถึง เลยอยากมาเล่าเกี่ยวกับช่างในดวงใจคนนี้ซักหน่อยครับ ช่างคนนี้มีชื่อว่า Jason Simpson (รูปทั้งหมดต่อไปนี้ไม่ใช้รูปของกีตาร์ผมนะครับ) . ผมเชื่อว่าเกือบทุกคน(ถ้าไม่ทุกคน)ในนี้คงไม่รู้จัก Jason Simpson Jason Simpson เป็นช่างทำกีตาร์รุ่นใหม่จาก Texas, USA ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Master Luthier คนหนึ่งเลยทีเดียว แต่สาเหตุที่เขายังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างก็เพราะเขาเป็นช่างรุ่นใหม่ที่ทำกีตาร์ออกมาเพียงแค่ปีละประมาณ 12 ตัวเท่านั้นเพราะเขาต้องการที่จะตั้งใจทำแต่ละตัวอย่างสุดความสามารถ และกีตาร์ของเค้าน้อยมากที่หลุดมายังตลาดกีตาร์มือสองในอเมริกา เพราะว่ามันยังมีน้อยและมันดีจนไม่ค่อยมีใครคิดจะขาย ใน Ebay นี่ไม่ต้องหาเลย เสียเวลาพิมพ์เปล่าๆ (แต่ผมก็เสียเวลามาตลอดสองปี เลยรู้ว่ามันไม่มี 555) ตอนนี้ Simpson มี 2 ทรงคือ SJ (Small Jumbo) ออกแบบสำหรับ Fingerstyle โดยเฉพาะ และ GA (Grand Auditorium) ที่เหมือนมีกีตาร์หลายๆตัวในตัวเดียวเพราะมันเล่นได้ดีทุกไสตล์ ทุกคนอธิบายกีตาร์ไปในทางเดียวกันว่า “rich and full with deep resonance and sustain”, “very musical”, “like a piano” กับประโยคเด็ดลงท้ายของหลายๆคนว่า “You will not be disappointed with a Simpson guitar” อันนี้คือ review ทรง SJ จาก Margaret Becker ให้กับ GuitarGallery เธอสรุปเป็นสามคำสั้นๆว่า “powerful, balance and beautiful” นี่คือเว็ปไซต์ของเค้าครับ http://www.simpsonguitars.com ในเว็ปไซต์เค้ายังมีวีดีโอพาทำกีตาร์ในหลายๆส่วนอีกด้วย ถ้าใครชอบการทำกีตาร์คงดูสนุกและได้ความรู้ทีเดียว http://www.simpsonguitars.com/intstructional อันนี้เป็นวีดีโอขั้นตอนรวมๆอย่างคร่าวๆ ประวัติคร่าวๆ ความสนใจในกีตาร์ของ Jason Simpson เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนเค้ายังเด็ก เค้าได้ฟังพ่อเล่นเพลงของ Chet Atkins ผ่านกีตาร์ Gretch “Country Gentleman” พ่อเค้าได้สอนเค้าเล่นกีตาร์ตั้งแต่เด็กซึ่งทำให้เค้ารักทั้งการเล่นกีตาร์และตัวกีตาร์เองมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีความรักที่เค้ามีต่อกีตาร์ได้เติบโตขึ้นจนในที่สุดเค้าก็ได้รู้จักกับทางที่จะแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ซึ่งก็คือผ่านทางศิลปะการสร้างกีตาร์นั่นเอง เค้าฝันมาตลอดที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเค้าในการทำอะไรที่ไม่เหมือนใคร ตอนเค้าอายุ 20 ปีเค้าได้อ่านบทความในนิตยสารบทความหนึ่งซึ่งได้เปลี่ยนชีวิตเค้าไปตลอดกาล ในวันนั้นเค้าได้ค้นพบเกี่ยวกับ custom acoustic guitar และจากนั้นเองที่หนทางแห่งความฝันของเค้าได้เริ่มขึ้น การทำกีตาร์คือศิลปะในฝันของเค้าเพราะว่ากีตาร์นั้นสามารถกระตุ้นสัมผัสของมนุษย์ได้หลายๆสัมผัส ทั้งการมองเห็น รู้สึก ได้ยิน รวมไปถึงการดม มันเป็นงานศิลปะที่มีพลังที่จะจุดประกายให้ทั้งหัวใจ ความคิด ร่างกาย และจิตวิญญาณ เค้าเริ่มโดยการศึกษาด้วยตัวเองผ่านการศึกษาผลงานของ Ervin Somogyi และ William Cumpiano ประสบการ์ที่สั่งสมมาหลายๆปีรวมถึงการช่วยเหลือจากช่างฝีมือเยี่ยมคนอื่นๆเช่น Kevin Ryan ได้หล่อหลอมให้เค้าเป็นช่างทำกีตาร์ในแบบที่เค้าเป็นทุกวันนี้ จากการสร้างกีตาร์ตัวแรกในปี 1996 จนถึงทุกวันนี้เป้าหมายของเค้าคือการที่จะสร้างกีตาร์ที่ดีที่สุดที่เค้าสามารถสร้างได้โดยตั้งมาตรฐานของตัวเองไว้เทียบเท่ากับของเหล่าช่างที่เก่งที่สุดในโลก เค้าเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบและไล่ตามศักยภาพที่สูงทั้งในด้านเสียง คุณภาพงาน สรีระ และความสวยงาม เค้าสร้างกีตาร์แค่ประมาณปีละ 12-14 ตัวเพราะต้องการที่จะตั้งใจทำแต่ละตัวให้ออกมาดีที่สุด ในขณะที่เค้าเคารพใน Tradtion แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะทำตามแต่ Tradition อย่างเดียว เค้าจะหยุดอยู่กับ Tradition ก็ต่อเมื่อได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านั้นแล้ว ซึ่งนี่ก็คือเหตผลที่ทำให้เราเห็นความเป็นสมัยใหม่มากมายในกีตาร์ของเค้า ผมจะขอแปลในส่วน About My Guitar ในเว็บเค้าแบบคร่าวๆนะครับว่าเค้าคิดกับกีตาร์เค้ายังไงและเค้าใช้เทคนิคอะไรบ้าง (ถ้าผมแปลผิดยังไงก็บอกได้นะครับ) About my guitar เค้าเปรียบกีตาร์ของเค้าเหมือนกับ sports cars (เช่นเฟอรารี่) ซึ่งมีความแม่นยำ ศักยภาพสูง พลัง ความงดงาม และความทันสมัย เค้าให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อสร้างกีตาร์ที่มีศักยภาพสูง เป็นคนชอบไล่ตามไอเดียใหม่ๆเพื่อนพัฒนางานของเค้าไปเรื่อยๆเพื่อที่จะสนองความต้องการของผู้เล่นที่เก่งขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน เค้าสร้างกีตาร์สำหรับคนที่ชอบเล่นกีตาร์อย่างจริงจังและต้องการมากกว่าสิ่งที่โรงงานสามารถทำให้ได้ Climate Control สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างกีตาร์คือการควบคุมสภาพแวดล้อม กีตาร์ก็เหมือนฟองน้ำที่พองเวลาอากาศชื้นและหดเวลาอากาศแห้ง ดังนั้นเค้าจึงทำกีตาร์ในห้องที่มีความชื้น 45% ซึ่งเป็นตรงกลางพอดี เวลากีตาร์ไปเจอที่ๆมีความชื้นมากหรือน้อยกว่าก็จะได้เสียหายน้อยที่สุด Material เค้าใช้เฉพาะวัสดุที่ดีที่สุดจากการเฟ้นหามาอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นไม้หน้า/ข้าง/หลัง braces tuners kerfing หรือแม้แต่ bridge pins จะไม่มีการยั้งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เด็ดขาด เพราะคุณภาพของวัสดุเป็นรากฐานของกีตาร์ที่ยอดเยี่ยม และนอกจากนั้น ไม้ทุกอันที่เค้าใช้ได้ผ่านการทำให้แห้งมาอย่างดีและถูกเก็บใน workshop ของเค้าเพื่อรักษาสภาพที่ดีที่สุด Elevated Fretboard จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำ elevated fretboard ก็เพื่อที่จะรักษาความตรงและมั่นคงของเฟรตบอร์ดตลอดอายุกีตาร์ เมื่อเวลาผ่านไป คอกีตาร์ทุกตัวจะโค้งและท้องจะนูนขึ้นเนื่องจากแรงดึงของสาย ซึ่งอาจทำให้ action สูงขึ้นเกินกว่าที่จะฝน saddle ได้อีก ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องทำ neck reset อย่างเดียว สำหรับกีตาร์แบบเก่า คอจะถูกติดกาวเข้ากับตัวกีตาร์ซึ่งทำให้เกิดปัญหาอย่างน้อย 2 อย่างคือ 1)จะถอดคอออกมาทำ neck reset ยากมาก และอาจทำให้กีตาร์เสียหาย 2)การทำ neck reset แล้วติดกลับเข้าไปใหม่อาจทำให้เกิด “fall-off” ซึ่งก็คือการที่มุมของ fretboard ส่วนที่อยู่บน body แตกต่างจากส่วนที่อยู่บนคอ ซึ่งข้อดีของเฟรตบอร์ดลอยคือไม่มีการใช้กาวติดคอเข้ากับกีตาร์ตั้งแต่เฟรตที่ 14 เป็นต้นไป ทำให้คอของกีตาร์ตรงได้นาน (ถ้าเป็นแบบเก่า เวลาคองอ fingerboard ส่วนที่อยู่บนตัวกีตาร์ก็จะไม่งอไปตามคอ เพราะมันถูกยึดติดกับ top อยู่ แต่ถ้าเป็นแบบลอย เวลาโดนดึงนานๆ fretboard มันก็ไม่งอเพราะมันเผื่อช่องว่างระหว่างมันกับtopไว้สำหรับการถูกดึงแล้ว) และถ้าต้องการทำ neck reset ก็สามารถถอดคอได้ในเวลาไม่กี่นาทีเพื่อนำมาฝน heel และก็ติดกลับเข้าไปได้อย่างง่ายดาย (ขอเสริมว่า Elevated Fretboard ถูกใช้กับหลายยี่ห้อมาก เช่น Mcpherson เป็นต้น เค้าให้อีกเหตผลนึงไว้ว่าจะทำให้ไม้หน้าสั่นได้เต็มที่โดยไม่มี fingerboard มาขวางการสั่นมัน) Ethereal Bracing System ไม้หน้าถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับเสียงของกีตาร์ ซึ่งมีตัวแปรอยู่หลายอย่างเช่นน้ำหนัก ความแข็ง การเข้าคู่ และตำแหน่งbracing เค้าได้สร้างรูปแบบ bracing ที่ “light and responsive yet strong and stable” ไม้ทำ bracing จะถูกเจาะรูที่ได้ออกแบบมาอย่างดีเพื่อลดมวลไม้แต่ความแข็งแรงยังคงเดิม และตำแหน่ง bracing ก็ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ “maximize 3 main vibrational modes” ของกีตาร์ เพื่อให้เกิดเสียงที่ “balanced, focused, sweet and powerful sound that boasts plenty of headroom” Asymmetrical Fan Bracing เค้ารูปแบบ bracing นี้ใช้กับไม้หลังเพื่อที่จะก่อให้เกิด overtone ที่ไพเราะที่สามารถเสริมความถี่ย่านกลางและสูงจากไม้ bracing นี้จะคล้ายกับไม้ของพัดที่คลี่ออกโดยด้านสายเสียงสูงเป็นหัวพัดและด้านสายเสียงต่ำเป็นปลายพัด Graphite Reinforced Neck เพื่อที่จะให้คอแข็งแรงและตรงนานที่สุด เค้าประกบแท่งกราไฟท์ไว้ทั้งสองด้านของ trust rod ซึ่งช่วยให้คอแข็งแรงขึ้นมากและยังช่วยถ่ายโอนพลังงานสายไปยังบริจเพื่อไปยังไม้หน้าอีกทีแทนที่จะถูกดูดซึมไปกับคอ และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนาน คอที่เสริมแท่งกราไฟท์จะงอยากกว่าอยากกว่าคอที่ไม่มีการเสริมมาก Armrest Bovel ถ้าคุณเล่นกีตาร์เป็นเวลานาน คุณจะสังเกตได้ถึงความไม่สบายหรืออาการชาจากการที่แขนขวาวางอยู่บนมุมของกีตาร์ Armrest นี้มีไว้เพื่อช่วยในเรื่องนั้น โดยที่เค้าได้ผสมผสานรูปแบบ Armrest ของ Grit Laskin และ Kevin Ryan ซึ่งเป็นช่างสองคนแรกที่เริ่มทำ กับความคิดของเค้าเองจนออกมาเป็น Armrest ที่ให้ความสบายและสวยงาม ปิดท้ายด้วยรูปแบบรัวๆ http://www.simpsonguitars.com/portfolio/custom/gallery/photo-gallery#!prettyPhoto RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - วันละเป๊ก - 06-08-2013 ขอให้ได้สมใจครับ น่าสนใจมากๆ RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - povation - 06-08-2013 ดีจัง หากีตาร์ยี่ห้ออื่นๆมาลองเสพกัน RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - Maow - 06-08-2013 ว้าว เห็นแล้วชอบเลย RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - pong555 - 06-08-2013 ว้าว... กีต้าร์สวยมากๆ เห็นแล้วชอบเลย ไม่ทราบว่ามีน้าๆ ท่านใดในนี้เป็นเจ้าของแล้วบ้างครับ อยากขอลองเสียงหน่อย อิอิ.. RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - parker1713 - 06-08-2013 มีเพื่อนชอบของแปลก บ้ากีตาร์นอกกระแสแล้ว เพิ่งรู้จักนะยี่ห้อเนี้ย สวยน่าเล่นมากๆครับ RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - Olanla - 06-08-2013 (06-08-2013, 07:23)วันละเป๊ก Wrote: ขอให้ได้สมใจครับ น่าสนใจมากๆใกล้แล้วครับพี่ อีกสามวันรู้กัน (06-08-2013, 07:51)povation Wrote: ดีจัง หากีตาร์ยี่ห้ออื่นๆมาลองเสพกันจะเสพให้เมาหัวทิ่มเลิกเล่นกีตาร์ไม่ได้ไปตลอดชีวิตเลยคอยดูสิครับ (06-08-2013, 07:57)Maow Wrote: ว้าว เห็นแล้วชอบเลยความรู้สึกผมตอนเห็นรูปครั้งแรกใน Dreamguitars เลยครับ (06-08-2013, 09:17)pong555 Wrote: ว้าว...อยากรู้เหมือนกันครับ แต่ทายว่ายังไม่น่าจะมี ถ้ามีโปรดแสดงตัวด่วนครับผมมมม (06-08-2013, 09:49)parker1713 Wrote: มีเพื่อนชอบของแปลก บ้ากีตาร์นอกกระแสแล้ว เพิ่งรู้จักนะยี่ห้อเนี้ย สวยน่าเล่นมากๆครับห้ามใจก็แล้ว ไขว้แขวจนเกือบได้เหลาเด่นก็แล้ว แต่สุดท้ายอดไม่ไหวจริงๆครับ RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - gman - 06-08-2013 เคยแวะชมเว็บเค้าครับ ดูเหมือนว่ากำลังเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ที่โน่นมีช่างเก่งๆให้เลือกเยอะครับ ไม่ทราบว่าทำไมถึงมาลงเอยกับช่างท่านนี้ครับ เคยลองแล้วติดใจเสียงหรือว่าเป็นรักแรกพบ RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - napman - 06-08-2013 Dear Pup, Very nice article that you posted here Reminded me of Pood's aritcles that I always love to read and follow. I wouldn't be surprise at all that within few years this Nimit site will have another PHD member I don't know much about guitars so I obviously didn't know J Simpson and never heard about him at all! But I could see some similarities of E Samogyi guitar and J Olson guitar in JS guitars. So you said only few more days for this JS guitar! I'm sure we all are looking forward to see/hear yours whenever you get it And just one question; What is " ศักยภาพ"? I've heard this word quite often lately while I was in Thailand but I just can't comprehend about it!! RE: นำมาเล่าสู่กันฟัง กับ Simpson Guitar, Handmade by Jason Simpson - SARUN - 06-08-2013 (06-08-2013, 11:10)napman Wrote: And just one question; What is " ศักยภาพ"? I've heard this word quite often lately while I was in Thailand but I just can't comprehend about it!! แวบแรก นึกถึงก้อนหิน1ก้อนวางอยู่ริมเหว ในวิชาฟิสิกส์เลย ที่พลังศักย์หมายถึง พลังงานที่มีสะสมอยู่ในตัวมัน ระดับพลังงานจะสูงแค่ไหน ก็ต้องขึ้นกับตำแหน่งที่มันอยู่ รอการขับ ผลัก หรือ ดึง เท่านั้น ศักยภาพ..คำนี้เป็นคำที่ใช้กันเกร่อ (เกร่อ=ใช้กันแพร่หลายและพร่ำเพรื่อ ) ในการพูดถึงระดับความสามารถ หรือสมรรถนะ ของคนหรือสิ่งของ ในการการบรรยายทั่วไป ถ้าเป็นภาษาพูดตามบ้านเรือนหรือชุมชนทั่วไป คงจะหมายถึง ความ"เจ๋ง" ถ้าแปลตรงๆตัวหรือใช้ให้ถูกต้องในภาษาเขียน มันก็จะหมายถึง ความสามารถหรือสมรรถนะสูงสุด หากเทียบกับภาษาอังกฤษ น่าจะเทียบเคียงคำว่า potential ทีนี้..จากบทความที่อ่านจบไป ก็คงจะมองภาพได้ว่า กีต้าร์จากshop นี้เน้นการออกแบบ เพื่อการพัฒนา"ขีดความสามารถ" หรือ "สมรรถนะ" เพื่อให้ไปแตะระดับที่เรียกว่า เป็นกีต้าร์ที่มีประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด หรือศักยภาพของกีต้าร์ นั่นเอง เท่าที่อ่านๆๆๆ ก็น่าจะเห็นภาพว่า กีต้าร์brand นี้ น่าจะมีศักยภาพในด้านเสียงover tone ศักยภาพในด้านความแข็งแรงทนทานของคอ และศักยภาพในความสบายของการเล่นในเวลานานๆ แต่ศักยภาพจะยังไม่เกิดเป็นรูปธรรม ถ้าขาดแรงผลักดันที่เหมาะสม(คนเล่นกีต้าร์) เช่นกัน (แต่คนขาย คงจะบอกว่า ศักยภาพไม่เกิด ถ้าคุณไม่ซื้อมัน!! ) ตอนนี้ ผมนึกถึง รถเฟอร์รารี่ที่วิ่งๆกันเกร่อ ในบ้านเรา ว่าจะมีซักกี่คัน ที่จะได้วิ่งตามศักยภาพที่เฟอร์รารี่ ทำได้ ?? |