แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: พูดคุยสนทนาทั่วไป (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=2) +--- Thread: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? (/showthread.php?tid=250) Pages:
1
2
|
แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - boobyblue - 27-09-2007 ๐แรงใดดลหันคว้า.......................กีต้าร์ อะคุสติค แต่เก่าก็ไฟฟ้า............................เริ่มต้น วัยรุ่นทั่วแดนหล้า........................มักอยาก โซโล่ ส่วนโปร่งใช้ฝึกค้น.......................ซ๋อมสู้ไต่เตรียมฯ ๐ชวนเชิญเพื่อนเฉลยข้อ................ไขขาน บอกกล่าวเล่าตำนาน....................สู่พ้อง เป็นมาอย่างไรการ.......................ลุ่มหลง อะคุสติค เหตุแห่งการเกี่ยวข้อง....................พี่น้องชุมนุมฯ ชวนย้อนความหลังเล่าตำนานอะคุสติค แรงใดแดดาลให้ใหลหลงกีต้าร์อะคุสติดถึงเพียงนี้ ถึงขนาดมาชุมนุมสุมหัวจนเกิดสมาคมขนาดย่อมนี้ได้ มาถ่ายทอดแรงบันดาลใจนั้นออกมาสู่กัน..........คงดี? RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - โฟล์คน้อย - 27-09-2007 ..กระบี่แรกที่จับ.. กระบี่ไม้.. ร่ายฝึกร่ายรำจนริกล้า จึงเริ่มลิ้มลอง.. มิเว้นไฟฟ้า คลาสสิค.. หากแต่มิคล่องมิข้ามผ่าน.. มัวแต่ลุ่มหลงอยู่ในเวิ้งภาพ.. ความสง่า.. ค่านิยม.. จนวัยวันล่วงผ่าน.. จึงเริ่มค้นหา.. หนทางหนึ่งที่ชักพา.. ให้อาจหลุดพ้น.. คือ กระบี่.. กระบี่ไม้เล่มแรก.. ที่เคยลิ้มลอง.. รสชาดเสียงสั่นสายของไม้.. ยังตรึงหู.. จึงเริ่มออกท่องยุทธ จึงพบเหล่าเพื่อนพ้อง.. เสียงของกระบี่ไม้.. จึ่งเริ่มเด่นชัดในใจ.. ชัดขึ้น และชัดขิ้น.. และมิคิดหวนกลับหากระบี่อื่นอีก.. หากมิใช่กระบี่ไม้.. ...................... แก่นแท้ของกระบี่.. มิต่างแก่นแท้ของคน.. หากเข้าใจตัวตน.. มิต่างเข้าใจกระบี่.. กิ่งไม้ในมือจอมยุทธ.. คือ ดาบ.. กระบี่ไม้ในมือ.. คือ ตัวตน.. ........................ น้าบู.. ถนอมสุขภาพด้วย.. โฟล์คน้อยต้องจรลีแล้ว.. นับถือ นับถือ.. RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - karn - 27-09-2007 เหวยน้าบูมาแนว กวีศรี จะขอตอบสักที กีต้าร์ ข้อยเริ่มเล่นอคูสติก เลยนา พอวัยรุ่นมุ่งไฟฟ้า โซโล่ ลำพอง เล่นๆไปไม่มีใคร เอาด้วย หกเจ็ดหน่วยเหลืออยู่ เพียงสอง คือตัวข้าและเจ้าสาว หมายปอง ก็เลยต้องเล่นโฟล์ค ตกต้อง ตามกัน พอทำงานไม่มีเพื่อน ชวนเล่น เลยจำเป็นตะเวนฟัง ร้านเหล้า ได้พบเจ้าฝูงน้า ตัวข้า ดีใจ เลยกลับมาเล่นใหม่ รื้อฟื้น ความจำ RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - Notting - 27-09-2007 มาเป็นบทกวีกันหมดเลย ชอบคำว่ากระบี่...ของพี่โฟล์คน้อยจัง แต่สำหรับผมมีแต่คำว่า........"รัก".........ครับ RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - boobyblue - 29-09-2007 วงดนตรีมีชื่อที่ผมได้ดูการแสดงสดเป็นครั้งแรกในชีวิตคือ..คาราบาว เมื่ออายุ13 แรงบันดาลใจเกิดขึ้นหลังชมการแสดงจบ ผมอยากเล่นกีต้าร์โปร่งอย่างนักร้องนำ แต่อยากมีฝีมืออย่างมือโซโล่ ผมจำได้แค่นั้น.... แต่เขายังไม่ใช่ต้นแบบของผม ในช่วงนั้นผมมีวงไฟฟ้า ผมอายุ13เป็นมือโซโล่! ความคิดในวัยนั้น กีต้าร์ไฟฟ้าคือของจริง กีต้าร์โปร่งนั่น-เด็กฝึกหัด ผมคิดของผมอย่างนั้นจริงๆ จนเวลาผ่านไปอีก2ปี ผมมีโอกาสได้ดูการแสดงสดของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ เป็นการแสดงเล็กๆในสนามหญ้าโรงเรียน พงษ์เทพ กับกีต้าร์โปร่งตัวเดียว! ผมพบว่าเขาเปี่ยมไปด้วยพลัง และแรงดึงดูด เขาสะกดผมอยู่ ทั้งๆทีมีแค่กีต้าร์โปร่งตัวเดียว นี่นับว่าเป็นการจุดประกาย และลบความคิดสบประมาทกีต้าร์โปร่งมาแต่บัดนั้น ผมทิ้งกีต้าร์ไฟฟ้า หันมาหลงใหลกีต้าร์โปร่ง จนถึงทุกวันนี้ แต่ประทานโทษ!ฝีมือผมก็ยังไม่ไปถึงไหน เพราะมัวไปหมกมุ่นเรื่องอื่นมากเกินไปหน่อย และไม่ค่อยขนขวายขยายขอบเขตการฟังไปมากมาย เพลงฝรั่งก็ฟังน้อยมาก เพลงไทยก็น้อยอีกเหมือนกัน ทักษะฝีมือจึงมีจำกัด หันมาสนใจด้านเนื้อหาแทน และปัจจุบัน ผมก็เบื่อเพลง ในรอบ10ปีมานี้ผมฟังเพลงน้อยเหลือเกิน แรงบันดาลใจแห่งอะคุสติคของผมจึงมาจากสกุลเพื่อชีวิตอย่างช่วยไม่ได้ ก็ผมเติบโตมาในยุคนั้น เพลงเพื่อชีวิตกำลังเบ่งบานเฟื่องฟู บรรยากาศขณะนั้น สังคมการเมืองเป็นอย่งไร อยู่ห่างไกลจากความสนใจผมเหลือเกิน จะเอาอะไรนักหนากับเด็กเพิ่งริโตวัย13-14ขวบ! ด้วยเหตุเพราะสถานการณ์บ้านเมืองทำให้เพลงเพื่อชีวิตผลิบาน หรือสังคมกำลังระดมปัญญาผลักดันตนเองเข้าสู่ระบบโลกของทุนก็ไม่ทราบ เพลงเพื่อชีวิตจึงเข้มข้นเข้มแข็งในช่วงนั้น จึงพ้นวิสัยการควบคุมของผม จึงถูกครอบงำด้วยพื้นเพลงเหล่านั้น จนปัจจุบันผมก็ยังติดแนวคิดเกี่ยวแก่เพลงว่าควรประกอบด้วยสาระ จึงจะเป็นเพลงที่ดีในความคิดของผม สาระในที่นี้มิได้หมายถึงแค่สังคมการเมืองอะไรอย่างนั้น ผมรวมถึงความรัก ความหวัง ความฝัน ความคิด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตล้วนเป็นสาระ เราควรพูดถึงมันด้วยวิธีที่เข้มข้น รอบด้าน มิใช่พูดแต่ด้านความรักอยู่เรื่องเดียว และเพลงยุคนั้นก็รอบด้านพอควรเท่าที่เป็นไปได้ ผมไม่รู้สังคมวันนั้นยอบแย่สาหัสเท่าวันนี้หรือไม่? แต่ผมรู้สึกว่าสังคมวันนี้ยอบแย่สาหัสสิ้นดี!! ทว่าเพลงในกระแสหลักของเรากลับมิได้สนใจเนื้อหาแบบนั้นอีกแล้ว........... ทำไม? แต่โลกก็ได้ดำเนินมาไกลแล้ว ดนตรีเราก็พัฒนาเข้าขั้นอยากจะเป็นอย่างฝรั่งก็เป็นได้เต็มที่แล้ว แต่ทว่าน่าเสียดายที่......................................... และถ้า....................................... RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - poPPie - 30-09-2007 ผมไม่แน่ใจ แต่เหมือนเคยได้ยินว่า เพลงเพื่อชีวิต อยู่เป็นอันดับ 1 ของความนิยมของคนไทย ใช่มั๊ยครับ ! RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - boobyblue - 30-09-2007 ใช่เมื่อกาลก่อน แต่ปัจจุบันเชยและล้าสมัย พูดจริงๆผมไม่ชอบคำว่า"เพลงเพื่อชีวิต" เพลงก็คือเพลง เพลงควรจะพูดคุยกับเราได้ทุกเรื่อง แต่นี่เพลงส่วนใหญ่มักจะชวนให้อยู่ในอารมณ์รักอยู่ร่ำไป นี่ผมหมายถึงเพลงกระแสหลักของบ้านเรานะครับ ส่วนเพลงฝรั่งผมเห็นเขามิได้พูดแต่รักๆๆนี่นา เขายังพูดถึงชีวิตทั่วๆไปเลย แต่ทำไม่ไม่พูดอย่างเขาบ้าง ถึงสงสัย? พอใครจะพูดอะไรนอกเหนือความรักก็กลายเป็นว่า เป็นเพื่อชีวิตเสียหมด....ไม่เข้าใจ? ใครตอบได้บ้าง........... RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - pop_250823 - 03-10-2007 เริ่มต้นที่ยืนดูน้าคนนึงที่เล่นที่ข้าวสารในช่วงที่วงแตก และนักดนตรีในเวปไม่สามารถร่วมงานกันได้คนแล้วคนเล่าเราก็ไม่มีประสบการณ์ แต่หลังจากที่รู้จักแก แกเป็นเหมือนแสงสว่างด้านดนตรีให้กันเด็กหัดเล่นแบบผมเลยครับ สอนทุกอย่างตังค์ไม่เอาสักบาทเลี้ยงข้าวอีกด้วย แกเก่งที่สำคัญถ่ายทอดได้ด้วย(บางคนเก่งแต่ถ่ายทอดไม่ได้ก็มี)สอนทุกที่ บนรถมอไซด์ตั้งขาตั้งคู่เรียน ฟุตบาต ข้างทาง หลังร้าน 9ล9ตอนนี้ผมนับถือแกเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนนึงครับ มาได้ทุกวันนี้เพราะแกจริงๆ สักวันคงได้ตอบแทนแกบ้าง นี่คือแรงบัลดาลใจในการเล่นของผมเลยครับ RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - .::.pOoH.::. - 04-10-2007 เหตุเกิดจากไม้มันหลอน..ครับ RE: แรงแดดาลแห่งอะคุสติค? - Tai Labour - 04-10-2007 เริ่มต้นยุคเดียวกัน คล้ายๆกันครับ น้าบลู...แต่ผมหนักกว่า งูๆ ปลาๆ เต็มหัวเลย โปร่ง - ไฟฟ้า - ไฟฟ้าๆ โปร่งๆ - กรึ๊บ โซโล่ - โซโล่ - ร้องๆ โซโล่ๆ - งึมงัม ฮัมๆ ตอนนี้เลิกค้นหา เลยเป็นข้อหลังๆ หมดเลย 55555 ส่วนที่ว่า..."พอใครจะพูดอะไรนอกเหนือความรักก็กลายเป็นว่า เป็นเพื่อชีวิตเสียหมด"....ไม่เข้าใจ? ใครตอบได้บ้าง........... ผมว่า..มันอยู่ที่อารมณ์และวิธีพูดวิธีสื่อนะ มันเป็นงานศิลปะ ฝรั่งน่ะชอบปลดปล่อยอารมณ์ ถ้าเก็บกดจะคลั่ง จะสื่ออะไรคนรับก็รับง่าย อย่างที่อยากให้รับ ส่วนคนไทย อดทน อดกลั้นดีกว่า ต้องเก็บอาการครับ...ตอนมันส์ๆ จะดันสายโซโล่ ยังไม่กล้าแลบลิ้น ทำหน้าบิดเบี้ยวเล้ยยยย (ขอร้องอย่าไปดูพี่กฤษณ์ร้อง-เล่นตอนมันส์ๆ นะ) ฝรั่งแหกปาก คนไทยว่าบ้า คนไทยร้อง ฝรั่งบอกบ่น คนไทย(แกล้ง)โหยหวน ฝรั่งซึ้ง ฝรั่ง(แกล้ง)บ่น คนไทยกรี๊ดดด.............(งงวุ้ย) เพื่อชีวิตฝรั่ง คนไทยซึ้ง เพื่อชีวิตไทย ฝรั่งง่วง...........(ชีวิตใครชีวิตมัน) แต่ช้าก่อน!!!!! ร็อค ยังทำออกมาหวานหยดย้อยได้ บลูส์ ยังทำออกมาสนุกได้ ทำไมน้าบลู จะเรด จะแบล็ค เอ้ย!...จะทำไม่ได้ ทำ ทำ ทำ เลย...ทำมัน ที่อยากทำ ทำได้ไม่ได้ช่างมัน ขอให้ได้มันส์ที่ทำ เพราะชีวิตคือชีวิต ไม่ว่าจะมันส์ จะหงอย จะสุข จะทุกข์ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เป็นอยู่อย่างนี้.....จนดับสูญ เอ๊ะ!...นี่ผมบวชเลยดีกว่ามั๊งเนี่ย แหะ ๆ |