NimitGuitar webboard
ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - Printable Version

+- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb)
+-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: Electric music (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=17)
+--- Thread: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan (/showthread.php?tid=2677)

Pages: 1 2


ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - MayDay - 15-10-2008

ผมเคย save บทความที่เกี่ยวกับ Fender จากเวป guitarthai เอาไว้ แต่จำชื่อคนเขียนไม่ได้แล้ว Tongue
คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังมองหากีตาร์ Fender อยู่นะครับ Big Grin

Quote:
ความแตกต่างระหว่าง Fender U.S.A., Mexico, Japan และอื่นๆ อีกมากมาย
จากประสบการณ์ที่ได้ลองสัมผัสมาด้วยตัวเอง ล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างกัน ต่อให้กีต้าร์ผลิตมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน เสียงยังไม่เหมือนกันเลย
จากนี้ไป ผมขออนุญาติใช้ตัวย่อเพื่อความสะดวกในการพิมพ์
1. Fender U.S.A. คือ Fu
2. Fender Mexico คือ Fm
3. Fender Japan คือ Fj


มาเริ่มกันที่ Fu ก่อนเลยคับ

1. ไม้ที่ใช้ผลิตบอดี้ของ Fu เท่าที่ทราบมา มี 3 ชนิด คือ Mahogany(เฉพาะบางรุ่น), Ash(ในหลายๆ รุ่น), Alder(เกือบทุกรุ่น)
ความแตกต่างในเรื่องของเสียงที่ได้ของไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้คือ
1.1 Mahogany body - ให้มวลเสียงกลางเยอะ เสียงพุ่งทุกย่านเสียง(ทุ้ม/กลาง/แหลม) ชัดเจน ไม่นุ่มนวล เสียงดิบ กระด้าง
อันนี้ผมว่าไม่เหมาะกับความเป็นเฟนเดอร์ แต่เท่าที่ดู ทางเฟนเดอร์ออกแบบบอดี้ชนิดมาจับคู่กับปิ๊คอัพฮัมแบบสบู่ อาจจะพอหักล้างความพุ่ง และดิบของเสียงลงไปได้บ้าง
1.2 Ash body - ให้มวลเสียงพุ่งและชัดกว่าอัลเดอร์นิดหน่อย แฟนๆ เฟนเดอร์หลายคน เบื่อเสียงไม้อัลเดอร์ หลงไปชอบหลายคน สุดท้ายกลับมาตายรังที่อัลเดอร์เหมือนเดิม
เสียงที่ได้จากไม้ชนิดนี้ โซโล่ดี เล่นคอร์ด อาจจะดูโฉ่งฉ่างไปนิด ไม่นุ่มนวล เนื้อเสียงย่านกลางดีกว่าอัลเดอร์นิดหน่อย แต่มวลเสียงย่านกลางต่ำและเสียงต่ำสู้ไม้อัลเดอร์ไม่ได้
1.3 Alder body - (popular) ไม้ชนิดนี้ ถือว่าเป็นที่นิยมที่สุด ไม่ว่าจะเฟนเดอร์หรือว่ากีต้าร์แบรนด์อื่น ถ้าใช้ไม้ชนิดนี้ เสียงที่ได้ ทำท่าจะดูดีไปซ๊ะทุกตัว
ผมจะลองยกตัวอย่างให้ดูคร่าวๆ ทุกท่านรู้จัก Ibanez Jem มั๊ยคับ ทำไมรุ่นที่ท๊อปที่สุด(Steve Vai เลือกใช้) จึงเลือกใช้บอดี้ไม้อัลเดอร์ รุ่นถัดจากนั้นมากลายเป็น Basswood ทั้งหมด
น้ำเสียงที่ได้จากบอดี้ Alder นี้ ออกแนวสุภาพก็ได้ โหดก็ได้แต่คงไม่หนักมาก(อันนี้แล้วแต่คาแล๊คเตอร์ของปิ๊คอัพที่เลือกใช้ และสำเนียงในการเล่นกีต้าร์)
ให้ปลายเสียงแหลมที่กังวาล พอจะมีเสียงกลางที่ให้ความรู้สึกว่าเสียงไม่จม และให้เสียงเบสที่นุ่มลึกไม่แข็งกระด้าง
สไตล์ของเสียง เล่นหวานๆ ได้พริ้วมากกว่า เล่นคอร์ดได้ไพเราะกว่า อาจเพราะไม้ Alder ไม่เน้นความถี่เสียงย่านใดมากจนเกินไป

2. ไม้ที่ใช้ผลิตบอดี้ของ Fm เท่าที่ทราบมา มี 3 ชนิดเช่นกัน คือ Ash, Alder, Poplar
2.1 Ash body - มีอยู่ในรุ่นสูงๆ ของ Mexico คุณสมบัติของเสียงเหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น
2.2 Alder body - มีอยู่ในรุ่นของศิลปิน จำไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นของศิลปินคนใด Robert Crey หรือป่าวหว่า? ลองหาข้อมูลกันดูเอาเองน๊ะคับ ส่วนเรื่องเสียง ก็เหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น
2.3 Poplar body - เพื่อลดต้นทุนการผลิตของผู้ผลิต ทางเฟนเดอร์จึงหันมาใช้บอดี้ที่ทำมาจากไม้ป๊อปล่าร์ ซึ่งมีราคาถูกกว่า แต่ก็ยังคงให้น้ำเสียงที่ใกล้เคียงอัลเดอร์ ต่างกันก็แค่ตรงความนุ่มนวลของเนื้อเสียงที่ได้
และมวลเสียงในย่านเสียงเบสที่ดูจะน้อยจนทำให้บางคนรู้สึกว่าเสียงบางไปหน่อย จนทำให้เกือบนึกไปอีกว่า นี่มันไม้ Basswood รึป่าวเนี่ย

3. ไม้ที่ใช้ผลิตบอดี้ของ Fj เท่าที่ทราบมา มี 2 ชนิด คือ Alder และ Basswood
3.1 Alder body - จะอยู่ในรุ่นของรีอิชชู่ ต่างๆ ข้อสังเกตุของกีต้าร์ตระกูลนี้คือ ปิ๊คอัพจะไม่เหมือนรุ่น Standard(หมุดเรียบเท่ากันหมด) หมุดของกีต้าร์ตระกูลนี้ จะสูงต่ำไม่เท่ากัน โดยมากจะเป็นปิ๊คอัพคัสต้อมช๊อป(จะอธิบายในหัวข้อต่อไป)
ส่วนเรื่องน้ำเสียงที่ได้ เสียงใกล้เคียงกับ Fu อย่างมาก ต่างกันก็แค่ตรงเนื้อเสียงย่านเสียงต่ำดูจะน้อยกว่า Fu นิดหน่อย อาจเป็นเพราะ บอดี้ Alder ของ Fj มีขนาดบางกว่า Fu ก็เป็นได้(อ้างอิงจากกีต้าร์ Fj 62 ของผม)
3.2 Basswood body - จะมีอยู่ในรุ่น Standard ทั่วไป ลักษณะเสียง Flat มาก อาจจะมากจนรู้สึกว่าเสียงบางไปเลย น้ำเสียงดูไม่มีพลัง หากบอดี้ชนิดนี้ต้องมาจับคู่กับปิ๊คอัพซิงเกิ้ลคอย์ แม้จะเปลี่ยนไปใช้เป็นมินิฮัม น้ำเสียงก็ยังคงเป็นรอง Alder body อยู่

ความแตกต่างในเรื่องทัชชิ่งของ Fu / Fm / Fj
จากที่ได้ลองมาด้วยตนเอง Fu มีทัชชิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคอขาวหรือคอดำ เป็นความชอบส่วนตัว เพราะของผมค่อนข้างใหญ่(มือ)555
หน้าฟิงเกอร์บอร์ดของ Fu มีขนาดกว้างกว่า Fj นิดหน่อย
Fret ของ Fu ส่วนมากเป็น Medium Jumbo Fret ต่างกับ Fj ซึ่งโดยมากจะมีขนาดเฟรตที่เล็กกว่า
ส่วนทัชชิ่งของ Fm โดยรวมใกล้เคียง Fu มาก จนไม่จำเป็นต้องอธิบายต่อ


ปิ๊คอัพซิงเกิ้ลคอยล์ Fu / Fm / Fj
เท่าที่จำได้ ปิ๊คอัพของ Fu มีดังนี้
1. American Standard
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ หมุดรับเสียงเท่ากันหมด สายไฟสีฟ้าขาว ตำแหน่งกลางอย่างเดียวเท่านั้นที่มีสีแดงขาว
เสียงหวานที่สุดในบรรดาปิ๊คอัพเฟนเดอร์ทั้งมวล เล่นเพลงได้หลากหลายแนวมาก หากต้องการความมันส์ขึ้นอีกนิด กรุณาเปลี่ยนปิ๊คอัพตำแหน่งบริจด์เป็นมินิฮัม(แล้วแต่จะเลือก ส่วนตัวชอบ ฮอทเรียล)รับรองได้ว่า ปิ๊คอัพชุดนี้เล่นเพลงได้ครอบจักรวาล
ปิ๊คอัพชุดนี้อยู่ในกีต้าร์ American Standard ปัจจุบัน เลิกผลิตไปแล้ว
2. Customshop Texas Special
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ หมุดรับเสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน สังเกตุง่ายๆ หมุดตำแหน่งสาย 3 และ 4 เท่ากัน สายไฟตัวปิ๊คอัพเป็นสายผ้าลงแว๊กซ์สีขาวดำ ยกเว้นตำแน่งกลางเท่านั้น ที่สายผ้าสีขาวจะออกเหลืองๆ
เสียงกลางโดดเด่น เสียงพุ่ง เหมาะกับแนวบลูส์มาก เสียงโซโล่อ้วนกลม
ปิ๊คอัพชุดนี้อยู่ในกีต้าร์ 2 รุ่น คือ โรสเฮ้าส์ และโลนสตาร์
3. Customshop 62' / 69' / 54'
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ ดูจากภายนอกเหมือน Customshop Texas Special ทุกประการ ต่างกันตรงที่หมายเลขด้านหลังปิ๊คอัพ และค่าความต้านทานของปิ๊คอัพจะน้อยกว่า ส่วนสายไฟก็เป็นสายผ้าขาวดำลงแว๊กซ์เหมือนกัน
เสียงคงความเป็นเอกลักษณ์ ในยุคนั้นๆ ลองหาฟังเพลงในยุคนั้นๆ ได้เลยคับ ทแวง โบราณ ไม่เหมาะกับแนวเพลงปัจจุบันแม้แต่น้อย
4. Lacesenser gold / silver / blue / red
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ดูง่าย เพราะปลอมยาก ฝาครอบด้านบนเรียบ สีขาว ไม่เห็นหมุดรับเสียง สายไฟมี 3 เส้น ส้ม/เขียว/ขาว ถ้ามองจากด้านบนปิ๊คอัพ จะมีตำแหน่งบุ๋มลงไปที่มุมนิดนึงเพื่อไว้ติดสติ๊กเกอร์ Lecesenser
เสียงฟังดูเหมือนจะใสดี แต่ปลายเสียงกุดไปหน่อย ไม่พริ้วเหมือน American Standard เวลาใส่เสียงแตก เสียงไม่โดดเด่น เพียงแค่รู่สึกว่า เออ... ไม่จี่หว่ะ เสียงโซโล่ เกือบจะจม ไม่กลมอ้วน
ปิ๊คอัพชนิดนี้ สีทอง ดูจะใกล้เคียง หรือว่ายังคงคาแล๊คเตอร์ความเป็นเฟนเดอร์ได้ดีที่สุด
ปิ๊คอัพชนิดนี้ อยู่ในกีต้าร์ Fender Stat Plus
5. Noiseless
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ เป็นคอยส์ 2 ชั้น ก็ดูง่ายอีกเช่นกัน หมุดรับเสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน แต่รอบๆ บนยอดหมุดทุกหมุดจะโดนปาดขอบไว้ ฝาครอบมีตัวหนังสือ Noiseless สายไฟ สีขาวเหลืองและเหลืองดำ
ปิ๊คอัพชุดนี้ เสียงไม่จี่ แนวเสียงยังคงความเป็นเฟนเดอร์ ละม้ายคล้าย American Standard แต่ปลายเสียงจะกุดๆ หน่อย ไม่พริ้วเท่า American Standard แต่พริ้วมากกว่า Lacesenser
ปิ๊คอัพชุดนี้ อดีตติดมากับ Fender Deluxe แต่ปัจจุบันอยู่ใน Fender Deluxe Super Stat รุ่นล่าสุดที่มีปุ่มรวมเสียง N กับ B
6. Hot Noiseless
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ เป็นคอยส์ 2 ชั้น ดูจากภายนอก เหมือน Noiseless ทุกอย่าง ต่างตรงที่หมุดรับเสียงสูงเท่ากันหมด
ปิ๊คอัพชุดนี้ ดูจะเป็นเวอร์ชั่น 2 ของ Noiseless มันถูกออกแบบมาให้เสียงกลมกว่าเดิม มีมวลเสียงที่ใหญ่ขึ้น พริ้วขึ้น เสียงกรอบน้อยลงเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นแรก เสียงไม่จี่เช่นกัน
ปิ๊คอัพชุดนี้อยู่ในกีต้าร์ศิลปิน เช่น Jeff Beck, Eric Clapton
7. Samarium Cobolt Noiseless(SCN)
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ ดูจากภายนอกเหมือน Noiseless มาก เอ... หรือเหมือนกันเลยหว่า แต่ต่างกันตรงที่ มีพิมพ์ว่า SCN บนฝาครอบแทน ส่วนสายไฟ มี 3 เส้น แดง/เขียว/เหลือง หรือน้ำเงิน/เขียว/เหลือง หรือลองหาข้อมูลดูเอาน๊ะคับ
ปิ๊คอัพชุดนี้ เสียงดีมาก ถูกออกแบบมาให้เป็นมินิฮัมที่ให้เสียงซิงเกิ้ลคอยส์ได้สมบูรณ์มากที่สุด ยามที่คุณใช้เป็นซิงเกิ้ลคอยส์ เสียงผสมก็ทแวงได้บาดอารมณ์ แต่พอใช้เป็นมินิฮัม เอ... นี่กรูกำลังเล่น PRS อยู่หรือนี่
8. American Series
ถูกออกแบบมาทดแทน American Standard ที่เลิกผลิตไป
ลักษณะของปิ๊คอัพชนิดนี้ หมุดรับเสียง สูงต่ำไม่เท่ากัน ดูเหมือนพยายามจงใจนำเอาแนวทางการผลิตของ Customshop Texas Special มาใช้ ถ้าจำไม่ผิด หมุดรับเสียงของสาย 5 จะสูงโด่กว่าชาวบ้าน
ปิ๊คอัพชุดนี้มากับกีต้าร์ American Series
น้ำเสียงก็โอเค พอรับได้ เมื่อเทียบกับ American Standard แต่ยังไงก็หวานไม่เท่าของเดิมเค้า
9. American Texas Special
ถูกออกแบบมาทดแทน Customshop Texas Special
ผมจะบอกยังไงดี เอาเป็นว่า Texas Special รุ่นเก่า(ก่อนปี 99) และรุ่นใหม่(หลังปี 99) ไม่เหมือนกัน
ความแตกต่าง ถ้าดูจากภายนอก หมุดรับเสียงของสาย 3 และ 4 รุ่นเก่า จะเท่ากัน รุ่นใหม่จะไม่เท่ากัน แน่นอนว่ารุ่นเก่าให้อรรถรสความเป็นบลูส์มากกว่า Attack เสียงมีมากกว่า เสียงชัดเจนกว่า รุ่นใหม่เสียงมันลอยๆ
10. Hiway
หน้าตาเหมือน Customshop Texas Special เป๊ะ ปิ๊คอัพรุ่นนี้ถูกนำมาย้อมแมวใส่กีต้าร์ Fu ค่อนข้างมาก เพราะว่าหน้าตาภายนอกเหมือนกันอย่างกับแกะ
อีกทั้ง กีต้าร์รุ่นนี้มีราคาไม่สูง แถมยัง Made in U.S.A. จึงมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความที่ยังต้องผลิตภายใต้นโยบายลดต้นทุน
เสียงที่ได้จึงยังไม่เป็นที่พอใจของบรรดามือกีต้าร์ทั้งหลาย จึงถูกขายต่อออกเป็นมือ 2 ค่อนข้างเยอะ เลยเป็นการเปิดช่องทาง และเปิดโอกาสให้พ่อค้าหัวใสทำการย้อมแมวสลับสับเปลี่ยนปิ๊คอัพชุดนี้กับ Customshop Texas Special ที่ติดมากับกีต้าร์จริง
แต่ว่าสังเกตุง่ายๆ คับ สายไฟของปิ๊คอัพ Hiway ไม่ใช่สายผ้าลงแว๊กซ์ แต่กว่าจะรู้ พี่ๆ น้องๆ ก็โดนซ๊ะแล้ว


มาต่อกันที่ปิ๊คอัพ Fm
1. Texmex
จำไม่ได้ว่าหมุดมันสูงต่ำอย่างไร แต่ด้าล่างปิ๊คอัพ เป็นแม่เหล็กประกบคู่ ตรงกลางเป็นหมุดรับเสียงเรียงกัน 6 ตัว
น้ำเสียงของรุ่นนี้ จะว่าเสียงกลม ก็แค่รีๆ ปลายเสียงไม่สดใส ดูหม่นๆ ไม่เน้นย่านเสียงใดเป็นพิเศษ
ติดมากับกีต้าร์ Fender Texmex และ กีต้าร์ศิลปิน Jimmy Vaguan(พิมพ์ถูกป่าว ไม่รู้)
2. Standard
จำไม่ได้ว่าหมุดมันสูงต่ำเรียงจาก 4 กับ 3 สูงเท่ากัน รองลงมาเป็น 5 กับ 2 เท่ากัน และ 6 กับ 1 เท่ากัน(หรือป่าว ไม่แน่ใจ)
ลักษณะภายนอก ด้านล่างปิ๊คอัพเป็นแม่เหล็กแท่งเดียว
เสียง Flat ออกสไตล์ American Standard แต่ เสียงกรอบกว่า เนื้อเสียงบางกว่า และปลายเสียงใสน้อยกว่า แห้งกว่า
รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกลไกลทางการตลาดหล่ะคับ
ติดมากับ Fender รุ่นธรรมด๊า ธรรมดา
3. Stratocaster 70'
หมุดรับเสียงหน้าตาเหมือน Customshop Texas Special เป๊ะ ต่างกันที่เปลือกของสายไฟเป็นพลาสติคธรรมดา สีอะไรจำไม่ได้
น้ำเสียงรุ่นนี้ ดีคับ ถือว่าเป็นรุ่นที่เชิดหน้าชูตา ตระกูล Mexico เลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่บอดี้ของรุ่นนี้เป็นไม้ Ash น้ำเสียงที่ได้จึงขาดมวลเบสต่ำๆ ไปนิดนึง แต่เสียงก็พุ่งดี เล่นได้หลายแนวเหมือนกัน
4. Stratocaster 60'
หมุดรับเสียงเหมือน Customshop Texas Special อีกแล้ว แต่ทว่า น้ำเสียงที่ได้ออกจะดูวินเทจกว่าหน่อย บอดี้ของรุ่นนี้เป็น Alder แต่เชฟคอเป็นตัว V
เสียงก็ดีคับ เป็นอีกรุ่นที่น่าลอง
5. Stratocaster 50'
อีกแล้ว หมุดรับเสียงเหมือน Customshop Texas Special อีกแล้ว แต่คราวนี้น้ำเสียงดูโบราณกว่าอีก Flat มาก เมื่อเทียบกับซาวนด์กีต้าร์ในปัจจุบัน
บอดี้เป็นไม้ Alder เช่นกัน
6. Deluxe Super Strat
หมุดรับเสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน(ความสูงต่ำของหมุดรับเสียงในรุ่นนี้ แตกต่างจากปิ๊คอัพทุกชนิดของ Fender อย่างสิ้นเชิง)
ด้านล่างปิ๊คอัพ เป็นแม่เหล็กประกบคู่กัน มีหมุดรับเสียงอยู่ตรงกลาง เรียงกัน 6 หมุด
รุ่นนี้ เสียงดีเหมือนกันคับ ใส เคลียร์ เหมาะที่จะไว้เล่นแนวแจ๊ซ หรือเพลงเบาๆ
ปิ๊คอัพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีการรวมเสียงของปิ๊คอัพ(เพิ่มเสียงจาก 5 เสียง เป็น 7 เสียง) โดยจะมีปุ่มกดที่ปิ๊คการ์ดบริเวณโทนทั้ง 2 ตัว
ปิ๊คอัพเซ็ทนี้มากับกีต้าร์ Deluxe Super Strat ในล๊อตแรกๆ ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้เป็นปิ๊คอัพ Noiseless แล้ว


คราวนี้ ปิ๊คอัพ Fj มั่ง
1. Standard(ฝาครอบ ขาว หรือ ดำ แล้วแต่รุ่น)
หมุดปิ๊คอัพเรียบเท่ากัน แต่ดูภายนอก(ที่หัวหมุด ดูมันมนๆ ไม่ตัดคมเหมือน American Standard)
รู้สึกว่าเสียงดีกว่า Standard ของ Mexico นิดหน่อย ชัดเจนกว่า ใสกว่า เคลียร์กว่า แต่ไม่กลมZ
2. Texas Special
กีต้าร์บางรุ่นของ Fj ใช้ปิ๊คอัพชนิดนี้(เช่น Fender Japan re62')ด้านหลังกีต้าร์จะเขียนไว้ว่า Crafted in Japan
ถ้าเขียนว่า Made in Japan จะใช้ปิ๊คอัพ Standard


อีกอย่างที่อยากจะบอกกล่าวกัน เรื่องการย้อมแมวปิ๊คอัพ สามารถทำกันได้หลายวิธี แม้กระทั่งสลับสายไฟก็ยังเคยเห็นมาแล้ว นี่ยังไม่รวมปิ๊คอัพเคยถูกซ่อมมาแล้ว
ถ้าสนใจกีต้าร์ Fender มือ 2 หากไม่มีความรู้ หรือความรู้ไม่ปึ๊ก น่าจะลองหาซื้อต่อจากคนรู้จักกัน มากกว่าที่จะไปหาเอาตามร้านมือ 2

ปล. 1 - ปิ๊คอัพ Customshop ต่างๆ ถ้าติดมากับกีต้าร์จะไม่สติ๊กเกอร์ Customshop ด้านหลังกีต้าร์
ปล. 2 - ข้อมูลข้างต้นเป็นความรู้ที่ผมพยายามเรียบเรียงขึ้นมาจากความทรงจำ หากมีส่วนใดที่ขาดตกบกพร่อง หรือข้อมูลผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยคับ

ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชมคับ

แก้ไขเพิ่มเติม
ปิ๊คอัพ Fu Customshop Texas Special ไม่ได้มีอยู่ในแค่ โรสเฮ้าส์ และโลนสตาร์ เท่านั้น ยังติดมากับกีต้าร์ของศิลปินอีกหลายท่าน เช่น SRV ...



RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - povation - 15-10-2008

อีกหน่อยถ้าหนูB ไฟเขียว คุณหมอปุ๊คงได้ Fender อีกหลายตัวมาประดับ Gallery นะครับ


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - LittleNomad - 15-10-2008

น้า MayDay นี่ Fender-mania ตัวยงเลย!...
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากครับ...
และทำให้ผมเพิ่งรู้ว่า Poplar ไม้โตเร็วราคาถูก ก็เอามาทำกีต้าร์ได้ด้วย!!!


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - povation - 15-10-2008

(15-10-2008, 13:15)LittleNomad Wrote: น้า MayDay นี่ Fender-mania ตัวยงเลย!...
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากครับ...
และทำให้ผมเพิ่งรู้ว่า Poplar ไม้โตเร็วราคาถูก ก็เอามาทำกีต้าร์ได้ด้วย!!!

อะไรจะอ่านได้เร็วและเข้าใจได้ดีปานนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสายตา!


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - LittleNomad - 15-10-2008

(15-10-2008, 13:21)povation Wrote:
(15-10-2008, 13:15)LittleNomad Wrote: น้า MayDay นี่ Fender-mania ตัวยงเลย!...
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากครับ...
และทำให้ผมเพิ่งรู้ว่า Poplar ไม้โตเร็วราคาถูก ก็เอามาทำกีต้าร์ได้ด้วย!!!

อะไรจะอ่านได้เร็วและเข้าใจได้ดีปานนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสายตา!

บังเอิญ...ไปเห็นจอบ้านน้า pood เข้า ก็เลยเลียนแบบหาจอใหญ่ ๆ มาใช้งานบ้าง...

อย่างไรก็ตาม สายตาอาจเสื่อมถอย แต่กำลังวังชารับประกันว่ายังดีหนึ่งประเภทหนึ่ง
เพราะว่าง ๆ ก็บริหารกล้ามเนื้อกับคิวมอเตอร์ไซค์ปากซอย อยู่บ่อย ๆ ครับ...


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - custom - 15-10-2008

Big Grin ขอบคุณครับ ได้ความรู้ดีมากๆ Big Grin


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - pood - 15-10-2008

มีประโยชน์มากเลยครับ โดยเฉพาะกับผมที่ไม่มีความรู้เรือง Fender Mexico
หรือ Fender Japan เลย เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ผมไม่มีวันซื้อ Fender มือสอง
ในเมืองไทยเพราะผมดูไม่ออกหรอกครับว่าชิ้นส่วนไหนโดนเปลี่ยนมาบ้าง

เท่าที่อ่านคร่าวๆมีรายละเอียดที่ไม่ถูกต้องบ้างครับ อาทิเช่น

Pickup สบู่น่าจะเป็น Soap Bar ที่ต้นแบบคือ Gibson P-90 ปิ้คอัพพวกนี้
เป็น single coil ครับไม่ใช่ humbucker ส่วน SCN นั้นก็ไม่ใช่ mini humbucker
แป็น single coil เหมือนกันแต่ในรุ่นที่มี S-1 switch สามารถกดปุ่มให้ใช้สองตัว
เลียนแบบ humbucker ใด้

ส่วน Fender Japan นั้นตอนนี้กำลังศึกษาหาข้อมูลอยู่ครับเพราะมีหลายรุ่นที่ไม่ผลิตที่อื่นและหลายรุ่นที่ราคาไม่ใด้ถูกกว่าของ US เรื่อง pickup นั้นข้อมูลที่ให้มายังไม่ค่อยละเอียดนัก ดูจาก Fender Japan site เลยจะดีกว่าครับ

http://babelfish.yahoo.com/translate_url?doit=done&tt=url&intl=1&fr=bf-home&trurl=http%3A%2F%2Fwww.fenderjapan.co.jp%2Ftop.htm&lp=ja_en&btnTrUrl=Translate

วันก่อนอ่านใน Fender Forum เห็นเขาบอกว่าถ้าเขียนว่า "Crafted in Japan"
คือกีต้าร์ที่ผลิตโดยโรงงาน Fuji ถ้าผลิตโรงงานอื่นจะเขียนว่า "Made in Japan"
ครับ


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - povation - 15-10-2008

ผมเองก็เคยซื้อกีตาร์ไฟฟ้ามือสองมา 2-3 ตัวในเมืองไทย หนึ่งในนั้นก็คือ Fender 1980 Gold ที่ผมยังชอบเสียงอยู่กว่า Fender ตัวใดๆ และก็กำลังเสาะหาซื้อรุ่นนี้อีกในสภาพดีๆแบบพลิกแผ่นดิน เพราะตัวที่ได้มานั้นก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างแล้วเพราะผมดูไม่เป็น ตอนซื้อผมรู้อย่างเดียวว่า ไม่ใช่รุ่นธรรมดานะเนี่ย ยังภูมิใจอยู่ถึงทุกวันนี้ว่าซื้อได้ของดีแบบฟลุ๊ค ในราคาไม่น้อยนะครับ 17,000.- บาท เมื่อประมาณปี 2530 แต่จะมีซักกี่คนที่ฟลุ๊คแบบนี้ จะฟุบซิไม่ว่า
ผมว่า เพื่อความปลอดภัยทำการบ้านหาข้อมูลให้ดีก่อนไปซื้อมานะครับ อ่านข้อความที่คุณหมอปุ๊กรุณาหยิบยกมาให้ก่อนก็จะเป็นประโยชน์ไม่น้อย รวมทั้งถามผู้รู้อย่างพี่กฤษณ เป็นต้น ย่อมปลอดภัยกว่า

แต่ผมมีความเห็นแตกต่างนิดหน่อยกับพี่กฤษณตรงที่ พี่กฤษณอาจไม่กล้าซื้อFender มือสองในไทย แต่ผมเห็นแตกต่าง
หากตั้งเป็นกฎ กฎย่อมมีข้อยกเว้น
หากคุณมั่นใจเต็มร้อยในตัวผู้ขาย แม้ว่าจะเป็นกีตาร์มือสอง ก็รีบซื้อเลยหากราคาคุณพอใจ

ขอยกตัวอย่างเจ้าของกระทู้นี้ คิดถูกต้องแล้วที่มาขอซื้อกีตาร์Fender 1993 มือสองจากผม ในสภาพ 99% ราคา 30,000.- บาท พร้อมกล่อง ผมเชื่อว่าหากไม่ใช่ผมที่เป็นผู้เก็บกีตาร์ตัวนี้มาอย่างดีและซื้อมาจากร้านMusic Concept นอกจากลองฟังเสียงว่าถูกใจแล้ว คุณหมอปุ๊คงต้องถอดคอมาตรวจสอบกันอย่างละเอียด

เช่นกันหากกีตาร์ที่พี่กฤษณซื้อมาจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศในสภาพใหม่100% แล้วเอามาเล่นแต่ไม่เคยให้ใครยืมเอากลับไปบ้าน
เช่นนี้ก็ถือว่าเป็นกีตาร์มือสองที่ไม่ต้องลังเลตัดสินใจมากมายหากราคารับกันได้


จะไปกลัวไปใย ขอเพียงถามตัวเองว่าซื้อจากใครไป


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - pood - 15-10-2008

ปี 1993 มี Music Concept แล้วหรือครับ

เรื่องไม่รู้เลยไม่ซื้อนี่ผมว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ คนที่ไม่รู้แล้วยังดันซื้อ
นี่ซิเป็นเรื่องแปลก สมัยผมกลับเมืองไทยใหม่ๆเคยมีศิลปินดังระเบิดท่านหนึ่ง
เอากีต้าร์ Fender Telecaster ปี 1952 มาขายผมในราคาสี่หมื่นกว่าบาท ผม
เช็ค serial ดูมันก็ใช่เพราะถ้าเป็นรุ่น reissue มันจะขึ้นต้นด้วย V หรือ R แต่
ก่อนจะเสียเงินขนาดนั้นผมต้องขอถอดคอดู พอถอดออกมาที่ใต้คอมันปั้มป์
JAPAN เฉยเลยครับ

ตั้งแต่นั้นมาผมเลยเรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่พี่ไทยปลอมไม่ใด้ แม้แต่พวก custom
shop นี่ในอีเบย์ยังมี COA ขายกันให้เกลื่อนเลยครับ ถ้าจะตรวจกันจริงๆก็คงพอจับใด้แต่ขี้เกียจมีเรื่องครับ


RE: ข้อแตกต่างระหว่าง Fender USA, Mexico และ Japan - กีต้าร์เก่า - 15-10-2008

สวัสดีครับ........ผมอ่านดูแล้ว มีความรู้ มากขึ้นเลยครับ........ผมกำลังจะหา อเมกันสแตนดาร์ด เก็บไว้สักตัวพอดี........อยากได้แบบ ๓ ซิง.....ซันบรูสส......ใครมีเอามาปล่อยให้หน่อยเถอะครับ........แต่ต้องให้ น้า Pood ทดสอบก่อนนะครับ....อะ...อะ...อะ........จะว่าไป........เรื่องเสียง นี่ ผมแยกไม่ออกหรอกครับ.......ก็ใช้ เอฟเฟค.....ตู้แอมป์.....สารพัดยี่ห้อ........แต่ที่อยากได้เพราะเมื่อก่อนเคยอยากได้ครับ..........