การรักษาคอกี่ตาร์ - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Acoustic music (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=18) +--- Thread: การรักษาคอกี่ตาร์ (/showthread.php?tid=4733) |
การรักษาคอกี่ตาร์ - oomsin - 08-08-2009 ควรหย่อนสายไหมถ้าเราไม่ได้เล่นกีตาร์ประมาณ 1-2เดือนตอนนี้ผมใชmartin ooo-28ecอยู่ใส่สายของmartinเบอร์12อยู่ครับ รบกวนพี่ๆด้วยครับ RE: การรักษาคอกี่ตาร์ - pood - 08-08-2009 ลองหยิบไม้แขวนเสื้อที่ทำด้วยลวดมาอันหนึ่งแล้วหักขึ้นๆลงๆไปเรื่อยๆ ซักพักหนึ่งมันก็จะหักโดยที่เราไม่ใด้ออกแรงมากกว่าตอนแรกเลย อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอาการล้าหรือ metal fatigue กีต้าร์ที่โดนขึ้นสายและผ่อนสายบ่อยๆก็เหมือนกันครับ ตัวที่ล้าก่อนก็คือตัวสายนั่นแหละ ถ้าผ่อนบ่อยๆก็จะเริ่มล้าและเริ่มเพี้ยนง่าย ตัวต่อมาก็คือ truss rod ซึ่งถ้าล้าเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องใหญ่ทันทีครับ เพราะเหตุนี้ผู้ผลิตอย่าง Taylor เขาเลยไม่แนะนำให้ผ่อนสายนอกจากเวลาขนส่งกีต้าร์ทางเครื่องบิน ส่วน Martin นั้นแนะนำให้ผ่อนสายเฉพาะกีต้าร์ที่คุณสะสมและนานๆถึงจะเอามาเล่นซักครั้ง ผมเองไม่เคยผ่อนสายกีต้าร์เวลาเก็บใส่กล่องเลยครับ RE: การรักษาคอกี่ตาร์ - oomsin - 09-08-2009 น้าpoodครับไอ้ที่ว่านานๆนี่กี่เดือนกี่ปีครับ ถ้าdorpสักครึ่งเสียงจะดีไหมครับ RE: การรักษาคอกี่ตาร์ - Maow - 09-08-2009 ได้ครับไม่มีปัญหา RE: การรักษาคอกี่ตาร์ - pood - 09-08-2009 (09-08-2009, 13:00)oomsin Wrote: น้าpoodครับไอ้ที่ว่านานๆนี่กี่เดือนกี่ปีครับ ถ้าตอบตามหลักวิศวกรรม ผมว่ามันเป็นไปไม่ใด้ที่คอกีต้าร์จะเกิด fatigue จากการขึ้นและผ่อนสายแม้จะทำทุกวันเพราะทำกันสามชาติก็ยังไม่ถึงแสน cycles แต่ถ้าเรื่องสายนี่ผมไม่รู้เหกมือนกันว่าว่ามันจะสูญเสีย elasticity เร็วแค่ไหนแต่ถ้าผ่อนซักสองเดือนครั้งและเปลี่ยนสายทุกหกเดือนก็ไม่น่ามีปัญหาเหมือนกัน สรุปว่าจะผ่อนสายหรือไม่ผ่อนก็ใด้ครับ ในญี่ปุ่นเองร้านขายกีต้าร์เขาก็ผ่อนสายเฉพาะตัวแพงๆไม่ใช่เพราะเขากลัวกีต้าร์คองอแต่เชาไม่อยากให้ใครมาหยิบไปเล่นโดยไม่ขออนุญาติครับ RE: การรักษาคอกี่ตาร์ - Microtone - 17-08-2009 (08-08-2009, 21:00)pood Wrote: ลองหยิบไม้แขวนเสื้อที่ทำด้วยลวดมาอันหนึ่งแล้วหักขึ้นๆลงๆไปเรื่อยๆ ซักพักหนึ่งมันก็จะหักโดยที่เราไม่ใด้ออกแรงมากกว่าตอนแรกเลย อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอาการล้าหรือ metal fatigue กีต้าร์ที่โดนขึ้นสายและผ่อนสายบ่อยๆก็เหมือนกันครับ ตัวที่ล้าก่อนก็คือตัวสายนั่นแหละ ถ้าผ่อนบ่อยๆก็จะเริ่มล้าและเริ่มเพี้ยนง่าย ตัวต่อมาก็คือ truss rod ซึ่งถ้าล้าเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องใหญ่ทันทีครับ พอได้อ่านเรื่องไม้แขวนเสื้อที่ทำด้วยลวดที่คุณ pood ได้ยกมาเป็นตัวอย่างตามหลักทฤษฎี metal fatigue ก็เหมือนกับว่าผมได้เห็นแสงตะวันบ้าง. เรื่องมันเป็นอย่างนี้: เมื่อปี 1988 ผมสั่งซื้อ Blue Floral Fender Stratocaster (Japan) จาก Sam Ash (NewYork) ราคา $360. ค่าส่ง $40. ซื้อมาไว้เพราะว่าราคามันถูกและตั้งใจว่าจะใช้มันเป็น show guitar และเก็บมันไว้ที่นึง เพราะเราวิ่งเล่นหลายที่ ก็ไม่ต้องขนเข้าขนออกทุกวัน และถ้าเกิดถูกขโมยไปก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจเพราะมันไม่ใช่เป็น vintage ตัวโปรด. สถานที่ที่ผมเล่นมันเป็น outdoor ไกล้กับเนินเขาและมีอากาศชื้นมาก (very humid) ก่อนที่ผมจะออกมาเล่นบนเวที ก็ไปที่ห้องเก็บเครื่อง เอากีต้าร์มาเทียบขึ้นสาย (= tune ออกเสียงว่า "ทูน" ไม่ใช่ "จูน") และฝึกซ้อมนิ้วนิดหน่อย ทุกอย่างก็ดีเป็นปกติ แต่พอเอากีต้าร์มันออกมาเล่นบนเวทีได้สักครึ่งชั่วโมง สังเกตุได้ว่าเสียงกีต้าร์มันเปลี่ยนไป แฉะๆ เปรียบเหมือนกับลำโพงเปียกน้ำ , action ของคอมันก็เปลี่ยนไปด้วย เป็นอย่างนี้ตลอด..ข้อสมมติฐานของผมก็คือไม้มันยังสดอยู่ ก็คงจะดูดความชื้นทำให้ไม้พองตัว เป็นสาเหตุให้action และเสียงยืดหยุ่นและไม่มั่นคง (unstable) นั่นก็เป็นข้อสมมติฐานเท่านั้น แต่ว่าคงจะถูกละเพราะว่าผมเอากีต้าร์เก่าๆหลายตัวไปเล่นเปรียบเทียบกับที่เดียวกัน ก็ไม่เคยมีปัญหาเลย. ทีนี้เรื่องมันมีอยู่ว่าผมเอากีต้าร์ตัวเดือดร้อนตัวนี้กลับบ้านบ่อยๆ เปลี่ยน action, ปรับ truss rod เรื่อยทีเดียว หมุนซ้ายหมุนขวา แล้วเอาไปลองเล่นดู...ไม่พอใจ..กลับไปบ้านก็หมุนซ้ายหมุนขวาอีก...ทำอย่างนี้เรื่อยมาจนวันนึงได้ยินเสียงกะเทาะ ยกตัวกีต้าร์มาเขย่าดูก็มีเสียงคลอนที่คอ...เอาไปให้ช่างเขาดู อ้อ! trus rod มันหักแล้ว...โชคดีทีเพื่อนคนนี้มันเป็น authorized repairman ของ Fender เราต้องส่งคอกีต้าร์ไปให้ที่ service center และกว่าจะได้คอตัวใหม่ก็รอไปเกือบ 2 ปี....แต่คอตัวใหม่ก็แจ๋วด้วย..ไม่มีปัญหาเลย. ที่นำเรื่องนี้มาเล่าก็เพื่อจะมาสนับสนุนเรื่อง metal fatigue จากประสบการณ์. RE: การรักษาคอกี่ตาร์ - pood - 17-08-2009 Blue Flower Tele ผมก็มีตัวนึงครับแต่เป็นปี 2008 ผ่านไปยี่สิบปีราคากระโดดจากสี่ร้อยมาเป็นหนึ่งพันเหรียญแล้วครับ http://www.elderly.com/fmic/items/FBFS08.htm ถ้าเป็นรุ่นแรกๆอย่างตัวของพี่ microtone ราคาใน Blue Book ประมาณ 1300 USD ครับแต่ผมสงสัยว่าทำไมพี่ไม่ซื้อพวก Strat หัวโต 3 bolts neck มาถลุงเล่นล่ะครับเพราะยุคนั้นราคามือสองถูกมาก ผมจำใด้ว่าผมขายรุ่นปี 1978 ไปตัวนึงในราคาสามร้อยกว่าเหรียญยังดีใจเกือบตายเพราะใด้กำไรมาห้าสิบเหรียญ |