Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Musical Tips & Techniques (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=5) +--- Thread: Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. (/showthread.php?tid=8342) |
Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - โฟล์คน้อย - 15-10-2010 มีคนที่เล่นกีต้าร์หลายคนที่ไม่ค่อยชินกับการจับคอร์ดของคีย์เพลงที่ ติด b หรือติด # หลายคนแก้ปัญหาด้วยการใช้คาโป้.. ซึ่งก็สามารถช่วยเหลือได้บ้างตามสมควร แม้กระทั่งเรื่องของการร้องเพลง เพราะในบางเพลงก็เสียงสูงเสียเหลือเกินสำหรับเรา หรือบางเพลงก็เป็นคีย์ซึ่งเราร้องแล้วไม่ค่อยถนัดเอาเสียเลย แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร.. ทนร้องไปเพราะว่าใจของเราชอบเพลงนั้น ซึ่งทำให้เสียงร้องที่ออกมาดูอาจไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ไม่เพราะเหมือนกับต้นฉบับ.. ทั้งที่ตัวเราเองก็พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว ก่อนอื่นเราคงต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า.. คนเราเกิดมาแต่ละคนมีลักษณะเสียง ช่วงเสียง.. ไม่เท่ากัน บางคนเสียงสูง บางคนเสียงต่ำ ผู้ชายบางคนเสียงสูงมาก เสียงแหลม.. ผู้หญิงบางคนก็เสียงต่ำ.. เสียงทุ้ม.. แตกต่างกันไป.. ดังนั้นบทเพลงที่สร้างสรรค์ออกมาจึงต้องดูจากผู้ร้องเป็นหลัก หลายเพลงเมื่อตอนเริ่มแต่งเป็นคีย์หนึ่ง.. แต่พอเริ่มร้องก็ต้องมีการเปลี่ยนคีย์ใหม่.. เพื่อให้ร้องได้ง่ายขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้น.. และสำคัญที่สุดคือ.. เพื่อให้เพลงนั้นมีความไพเราะเหมาะสมกับผู้ร้องนั้นๆ.. เรื่องของการ Transpose.. จึงสามารถนำมาช่วยได้ในส่วนนี้ ความหมายของคำนี้ในทางดนตรีนั้น..ถ้าเราจะให้เข้าใจได้ง่ายๆ เลย ก็คือการเปลี่ยนคีย์เพลงของต้นฉบับทั้งเพลง.. ให้สูงขึ้น หรือต่ำลง.. เช่น ต้นฉบับอาจเป็นคีย์ Eb ซึ่งคอร์ดในเพลงนั้นอาจจะเป็น Eb/Cm/Fm/Bb แต่เราจับคอร์ดเหล่านี้ไม่ถนัดบนคอกีต้าร์ บางคนก็อาจจะใช้คาโป้เข้ามาช่วยคาดไปในเฟร็ตที่ 1 พอเราคาดคาโป้ไปแล้วก็จะได้รูปของการวางนิ้วในฟอร์มคอร์ด D/Bm/Em/A ซึ่งก็ทำให้เราเล่นกีต้าร์ได้ง่ายขึ้น (แต่เสียงที่ออกมายังอยู่ในคีย์ Eb เหมือนเดิม) แต่สมมติว่าถ้าเราไม่มีคาโป้ล่ะ.. แล้วเกิดเราอย่างร้องเสียงที่ต่ำลงไปอีก เพราะเสียงของคีย์ Eb สูงไปสำหรับเรา หรือสำหรับคนร้องที่เราจะเล่นด้วย เราก็อาจจะเปลี่ยนคีย์ Eb เืพื่อได้เสียงที่ต่ำลงมาเป็นคีย์ C ทีนี้เราก็จะได้รูปคอร์ดจากเดิมคือ Eb/Cm/Fm/Bb ให้กลายมาเป็น C/Am/Dm/G การวางนิ้วก็จะง่ายขึ้น.. การเล่นก็ย่อมจะง่ายขึ้นตาม.. (ในที่นี้หมายถึงผู้เล่นที่ไม่ค่อยชำนาญในการจับคอร์ดของเพลงที่มีคอร์ดติด b หรือ # มากๆ) แล้วเราจะ Transpose.. กันยังไงล่ะ.. มีหลักอย่างไร ต้องรู้ทฤษฏีหรือไม่.. เอาเป็นว่าผมจะทยอยเล่าให้ฟังไปเรื่อยๆ นะครับ และก็เหมือนเดิมตรงที่ว่า.. เราจะพูดคุยกันในลักษณะแบบบ้านๆ จากประสบการณ์ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนคีย์ของต้นฉบับที่ตนเองชื่นชอบ ให้เป็นคีย์เพลงที่เหมาะสมกับเรา หรืออาจจะช่วยให้คนที่เพิ่งเริ่มเล่นกีต้าร์.. แต่ยังไม่รู้เรื่องคอร์ดในคีย์เพลงต่างๆ มากนัก ได้เล่นเพลงที่มีคอร์ดแปลกๆ สำหรับเราได้บ้าง ด้วยการเปลี่ยนคีย์ที่มีคอร์ดยากๆ นั้นให้เป็นคอร์ดที่เราต้องการ.. สำหรับน้าๆ ที่เป็นมืออาชีพแล้ว หรือผู้ที่เรียนจบมาทางดนตรีโดยตรง จะเข้ามาช่วยเสริมช่วยกันบอกเล่าเคล็ดลับต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์มากเลยครับ ขอบคุณครับ โฟล์คน้อย.. ........................................................ RE: Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - piggyprince - 15-10-2010 เยี่ยมมากครับ รอรับความรู้ดีๆอยู่ครับ ^ ^ เข้าคิวรออ่านอยู่นะครับ ขอบคุณครับ RE: Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - โฟล์คน้อย - 18-10-2010 ขอบคุณน้าpiggyprince..ครับ.. และต้องขอโทษน้าๆ ท่านอื่นด้วยที่ปล่อยให้รอนาน ความจริงแล้วผมตั้งใจจะเล่าต่อเนื่องกันตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ แต่ติดธุระนิดหน่อยครับ.. เลยอาจทำให้หลายคนต้องหงุดหงิดใจ เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันต่อ.. ........................................ ผมนั่งคิดอยู่หลายตลบว่าจะอธิบายยังไงให้ง่าย.. ก็เลยมาคิดว่า.. เราคุยกันแบบบ้านๆ ไปเลยดีกว่า.. เพราะถ้านั่งอธิบายแบบละเอียด.. ก็มีเวบอื่นๆ เขียนกันไว้พอสมควรแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลย.. วิธีการ Transpose แบบที่ 1 ถ้าจะพูดถึงเรื่องการ Transpose.. ทุกคนที่เริ่มมีความชำนาญกันบ้างแล้ว คงจะต้องนึกถึงเจ้าวงกลมมหัศจรรย์.. circle of fifths หรือ circle of 5th ซึ่งมีหน้าตาแบบนี้ครับ.. ซึ่งเจ้าวงกลมวิเศษนี้มีคุณประโยชน์มากในทางทฤษฏี สามารถอธิบายอะไรได้หลายอย่าง.. แต่วันนี้เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันในเรื่องของทฤษฏี แต่เราจะนำมันมาช่วยเราในเรื่องการปรับเปลี่ยนคีย์ต่างๆ เปลี่ยนคอร์ดยากๆ สำหรับใครหลายคนให้เป็นเรื่องง่ายๆ ซะเลย.. วิธีการใช้งานก็ไม่ยุ่งยากครับ.. เพียงแต่นับไปนับมาเท่านั้นเอง อุปกรณ์ก็คือ 1. เพลงที่เราต้องการเปลี่ยนคีย์เปลี่ยนคอร์ด และเพลงนั้นต้องมีคอร์ดด้วยนะครับ ไม่ใช่เนื้อเพลงเปล่าๆ 2. ดินสอ หรือปากกา.. เพื่อที่เราจะได้เขียนชื่อคอร์ดใหม่ที่เราเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ................................ เริ่มต้นเราก็ต้องรู้ก่อนว่า.. เราอยากเล่นคีย์อะไร(ในกรณีที่เรารู้จักเรื่องคีย์ของเพลงบ้าง) แต่ถ้าเราไม่รู้เรื่องคีย์ต่างๆ.. เราก็อาจจะลองเ่ล่นเพลงนั้นดูก่อนว่าเสียงมันสูง หรือต่ำไปบ้างไหมสำหรับตัวเรา โดยการเล่นคอร์ดในท่อนแรกก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรารู้ว่าเราร้องไหวหรือไม่ สมมติว่าเพลงนั้นมีกลุ่มคอร์ดแบบนี้ครับ.. D/Bm/Em/A เราลองเล่นดูแล้วรู้สึกว่าจับคอร์ดไม่ถนัด หรือว่าต้องใช้เสียงร้องสูงเกินไป เราก็อาจจะคิดว่า.. ถ้าได้กลุ่มคอร์ดใหม่.. ที่ช่วยให้เราร้องเสียงต่ำลงมาได้กว่านี้..ก็น่าจะดี ดังนั้นเราก็ลองใช้เจ้าวงกลมวิเศษนี้มาช่วยในการเปลี่ยนคอร์ดกันครับ.. ส่วนวิธีนั้น.. เราจะเห็นว่าในวงกลมจะมีตัวอักษรต่างๆ ทั้งวงนอกและวงใน ซึ่งในทางทฤษฏีก็แทนเรื่องของคีย์เพลงครับ วงนอกหมายถึงคีย์เมเจอร์ต่างๆ เช่น คีย์ C ,คีย์ G ,คีย์ D ฯลฯ ส่วนวงในก็แทนคีย์ต่างๆ ในทางไมเนอร์.. แต่เราจะยังไม่ไปข้องเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้กัน.. เราจะใช้วงกลมนี้เพียงการนับไปนับมาเท่านั้น.. โดยวิธีการนับนั้น.. ถ้าอยากได้เสียงต่ำ.. ให้นับถอยหลัง (ทวนเข็มนาฬิกา) ถ้าอยากได้เสียงสูงขึ้น.. ให้นับไปข้างหน้า (ตามเข็มนาฬิกา) เอาล่ะครับ.. ตอนนี้ลองเล่นดูแล้ว.. สมมติเรารู้สึกว่ากลุมคอร์ดที่ให้มา.. เสียงมันสูงไปหน่อย เวลาร้องเพลงไปด้วยแล้วรู้สึกต้องใช้การออกเสียงที่สูง ต้องตะโกน ดังนั้น.. เราจึงต้องการกลุ่มคอร์ดที่มีเสียงต่ำลง เพื่อที่เราจะได้ร้องเพลงได้ง่ายขึ้น.. ไม่ต้องตะโกนเสียงแหบเสียงแห้งให้เจ็บคอ.. ในที่นี้.. ผมขอเลือกกลุ่มคอร์ดใหม่ให้เสียงต่ำลงอีกหน่อยดีกว่า ผมเลือกคอร์ดแรกเป็น คอร์ด C ครับ.. จับก็ง่าย.. ร้องก็สบาย.. มาดูกันครับ.. คอร์ดต้นฉบับในเพลงคือ.. D/Bm/Em/A ผมเลือกใช้คอร์ดแรกเป็นคอร์ด C.. เรามาลองนับถอยหลังกลับไปกันครับว่านับไปกี่ช่อง.. ... เราจะเห็นว่าถ้าเรานับถอยหลังจาก D ถอยกลับไปถึง C จะได้เท่ากับ 3 ช่อง.. ก็หมายความว่า.. ทุกคอร์ดในเพลงนี้ หรือกลุ่มคอร์ดนี้ต้องนับถอยหลังกลับไปสามช่อง.. ทุกตัว!! D.. นับถอยหลังกลับไปสามช่องจะได้ C Bm.. นับถอยหลังกลับไปสามช่องจะได้ Am Em.. นับถอยหลังกลับไปสามช่องจะได้ Dm A.. นับถอยหลังกลับไปสามช่องจะได้ G สรุปว่า..เราจะนับทุกๆ คอร์ดในเพลงต้นฉบับที่เราเลือก.. โดยการนับถอยหลังไปสามช่องทุกคอร์ด.. แล้วก็จดคอร์ดใหม่ที่เราเปลี่ยนแล้วลงไปในเพลงนั้นๆ ทีนี้จากตัวอย่าง.. เราก็จะได้คอร์ดทั้งหมดดังนี้ครับ.. C/Am/Dm/G เพียงเท่านี้เราก็ได้กลุ่มคอร์ดใหม่.. ที่มีเสียงที่ต่ำลง.. จับคอร์ดง่ายขึ้น.. ร้องเพลงสะดวกขึ้น.. ลองนำไปใช้กันดูนะครับ.. จะ print รูปเจ้าวงกลมนี้แล้วนำติดตัวไว้เผื่อได้ทดลองใช้งาน ในการเปลี่ยนคอร์ดต่างๆ กันดูก็ได้ครับ.. สังเกตุง่ายๆ นะครับ.. ไม่ว่าจะเริ่มจากคอร์ดไหนก็แล้วแต่.. ให้นับถอยหลังหรือเดินหน้าไปเท่ากันทุกตัว.. เท่านี้เราก็จะได้คอร์ดใหม่ และคีย์ใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับเราแล้วครับ.. เดี๋ยวคราวหน้าเราจะมาอธิบายกันต่อนะครับ เช่น.. ถ้าเป็นคอร์ดประเภทเหล่านี้ล่ะ.. Cmaj7.. Am7.. Dm7.. G7 เราจะทำยังไง.. เพราะวงกลมที่ให้มาเห็นมีแต่พวกคอร์ดเมเจอร์กับไมเนอร์เท่านั้นนี่นา.. ลองคิดกันไว้ดูก่อนนะครับ.. บอกใบ้ให้ก็ได้ครับว่า.. มันก็ใช้วิธีการเดียวกันนั่นล่ะ.. ให้ยึดชื่อคอร์ด.. หรืออักษรตัวหน้าไว้.. เท่านนั้นเอง.. ไว้คราวหน้ามาคุยกันต่อนะครับ.. ขอบคุณครับ โฟล์คน้อย.. .................................................... RE: Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - staryu - 18-10-2010 OMG!! เหลือเชื่อๆ RE: Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - me_benj - 23-05-2011 ขออนุญาติครับ คือจริงๆแล้ว มันมีวิธีง่ายกว่านั้นนิดหน่อยครับ อยากเอามานำเสนอ ...คอร์ดจะเรียงลำดับเสียงจากต่ำไปสูง ตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ดังนี้ครับ A B C D E F G สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ลดหรือเพิ่ม ลำดับของตัวอักษรลงไป เช่น คอ์ด A ถ้าจะเอาเสียงต่ำ ก็กลายเป็น G หรือจะเอาเสียงสูง ก็กลายเป็น Bครับ ..แต่กรณีนี้ จะมีปัญหาเล็กน้อยก็คือ ในคอร์ดกีต้า จะมีเสียงห่างกันเพียงครึ่งโทนอยู่ 2คู่ ก็คือ B-C และ E-F (สังเกตุง่ายๆว่า ไม่มีคอร์ด Bช๊าฟ และ Eช๊าฟ) เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะเปลี่ยน คอร์ด B และ E เราต้องเพิ่มไปอีกครึ่งโทน เช่น ถ้าอยากให้เสียงสูงกว่าคอร์ด B หรือ E 1โทน ก็ต้องเปลี่ยนเป็น Bช๊าฟ หรือ F ช๊าฟ ครับ RE: Transpose.. เปลี่ยนคอร์ดยาก.. ให้ง่าย.. - SARUN - 24-05-2011 หลังจากที่อ่านๆๆๆๆ กันเยอะแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ...หัดจับ"คอร์ดทาบ"(Bar Chord) เยอะๆ |