อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - Printable Version +- NimitGuitar webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb) +-- Forum: All solid webboard (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: Acoustic music (http://www.NimitGuitar.com/mybb/forumdisplay.php?fid=18) +--- Thread: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ (/showthread.php?tid=9132) Pages:
1
2
|
อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - birdz - 24-01-2011 เหมาะกับการเล่น แบบไหน ! ถ้ารุ่นกีตาร์ราคา ใก้ลเคียงกัน ควรจะเลือกตัวไหนดีครับ ขอบคุณมากคับ RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - custom - 24-01-2011 เท่าที่เคยสัมผัสมา สำหรับรุ่นธรรมดา (เพราะไม่เคยได้ลองเล่นในรุ่นสูงๆ) takamine จะให้เสียงหวาน แต่เสียงจะบางหน่อย ส่วน taylor จะเสียงอ้วนหนาเบสเยอะกว่า "ในราคาใกล้เคียงกันควรจะเลือกแบบไหน" ถ้าเป็นผมจะมีไว้ทั้ง 2 ตัว เพราะเสียงมันไม่เหมือนกัน RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - SARUN - 24-01-2011 (24-01-2011, 03:11)birdz Wrote: เหมาะกับการเล่น แบบไหน ! ถ้ารุ่นกีตาร์ราคา ใก้ลเคียงกัน ควรจะเลือกตัวไหนดีครับ ขอบคุณมากคับ TAYLOR กะ Takamine เหมาะกับการเล่น แบบไหน ! ไม่อยากให้จำกัดความแบบนั้นครับ โดยเฉพาะ 2 ยี่ห้อนี้ เนื่องจาก ทั้งคู่ มีรุ่น ที่หลากหลายมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด.. ถ้าพูดกันถึงแค่เฉพาะยี่ห้อ.. แล้วพิจารณารุ่นราคา ใกล้เคียงกัน Takamine น่าจะมีโอกาสได้ Spec ที่ดูมีราคาค่างวดกว่า. แต่ถ้าเวลาขายต่อล่ะ... ณ เวลานี้ Takamine น่าจะเจ็บตัวมากกว่า โอ้ย เลือกยาก.. งั้น....ซื้อ ยี่ห้อและ รุ่น ที่มีกล่องแถมมาให้ด้วยแล้วกัน !!! RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - pood - 24-01-2011 เลือกระหว่าง Takamine กับ Taylor นี่ง่ายมากครับ กีต้าร์ Takamine เป็นกีต้าร์ที่มือกีต้าร์อาชีพที่ต้องตระเวณเล่นไปทั่วประเทศหรือทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด ถ้าจะให้ลงรายชื่อศิลปินที่ใช้แต่ Takamine ทั้งหมดคงจะลงไม่ไหวเพราะมีเยอะเหลือเกินแต่เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มี Ry Cooder, Jackson Browne, Bruce Springteen, The Eagles ทั้งวง , Hall & Oates, Jon Bon Jovi, เป็นต้น ถ้าดูรายชื่อข้างบนจะเห็นใด้เลยว่าศิลปินเหล่านี้ไม่ใด้มีชื่อเสียงมาจากการเล่นกีต้าร์โปร่งแม้แต่คนเดียวแต่โตมากับกีต้าร์ไฟฟ้าทั้งสิ้น เหตุผลที่เขาเลือกใช้แต่ Takamine ก็มีดังนี้ครับ 1. คอเล่นง่าย...สำหรับคนที่โตมากับ Strat, Tele หรือ Les Paul นี่พอมาเจอความหนาและความกว้างของคอกีต้าร์โปร่งอเมริกันมันเล่นไม่ถนัดหรอกครับ ส่วนทาคายุคแรกๆนั้นคอบางและแคบพอๆกับกีต้าร์ไฟฟ้าทำให้เล่นใด้เข้ามือกว่า 2. ความทนและความเสถียร...Takamine ที่ศิลปินใช้กันนี่ไม่มีรุ่นที่เป็น all solid เลยนะครับ เหตุผลที่ Takamine เขาไม่ทำ all solid นอกจากในรุ่น Natural Series ก็เพราะไม้ laminate มันยืดหดตัวน้อยกว่าและสามรถทนความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิใด้ดีกว่าพวกกีต้าร์ all solid ทั้งหลาย กีต้าร์ยี่ห้อนี้ทนทายาดและสายไม่ค่อยเพี้ยนเวลาต้องเอาไปเล่นในคอนเสริตครับ กล่อง hard case แทบไม่จำเป็นต้องใช้ด้วยซ้ำถ้าไม่ใด้เดินทางไกล นี่คือเหตุผลที่นครหลวงเขาไม่ขาย Takamine พร้อมกล่องแข็งครับเพราะเขาบอกว่ามันสะพายไม่สะดวกเวลาต้องขี่มอเตอไซด์ไปเล่นดนตรีครับ เขาไม่ใด้ขี่เหนียวหรอกครับ 3. ระบบปิ้คอัพและปรีแอมป์...Takamine ออกแบบ piezo pickup โลหะแยกเป็นหกชิ้นเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้วและก็ยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ส่วนระบบปรีนั้นก็นานๆเปลี่ยนทีตามความก้าวหน้าของภาคอีเล็คโทรนิค กีต้าร์ Takamine นั้นจะเอาไปเสียบกับ PA อะไรก็เสียงดีและปรับง่ายครับ ในยุคปัจจุบันมีปรีหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่เสียงเป็นธรรมชาติกว่า Takamine มากมายแต่ถ้าคุณมีกีต้าร์ตัวเดียวที่ต้องหิ้วไปเล่นสดๆก็ยังไม่มีปรียี่ห้อไหนไว้ใจใด้เหมือนของ Takamine ครับ ดังนั้นจึงสรุปใด้ว่า Takamine ไม่ใช่กีต้าร์ high end เหมือนพวก Taylor หรือ Martin ครับเพราะเขาทำมาให้คุณใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินไม่ใด้ทำมาให้คุณชื่นชมกับความละเมียดละไมของเสียงเวลานั่งเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียว ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกันก็เหมือนเอารถปิ้คอัพไปเปรียบเทียบกับรถเก๋งนั่นแหละ Takamine เพิ่งเริ่มมาจับตลาด high end เมื่อห้าหกปีที่แล้วนี่เองและก็ทำใด้ดีทีเดียวแต่ก็ยังไม่มีทางจะไปสู้กับชื่อเสียงของ Taylor และ Martin ใด้หรอกครับแต่ถ้าคุณมีงบจำกัดและต้องการกีต้าร์ที่จะอยู่กับคุณใด้นานๆ Takamine ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง ไม่เขื่อลองฟังเสียงจริงของ Takamine เก่าๆผุๆจากการแสดงสดใด้เลยครับ สรุปว่าถ้าผมต้องใช้กีต้าร์ในการแสดงสดผ่าน PA ผมเลือก Takamine แน่นอนครับแต่ถ้าซื้อมานั่งเล่นคนเดียวและงบไม่จำกัดผมคงเลือก Taylor มากกว่า RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - Katayoot - 24-01-2011 ยืนยันตามนั้นอีกเสียงครับ (แต่เรื่องไม่ให้ hardcase จากตัวแทน อันนี้มุขใช่ป่าวครับน้า pood ) RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - birdz - 24-01-2011 ขอบคุณมากครับ RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - ยอดเยี่ยม - 24-01-2011 (24-01-2011, 09:39)SARUN Wrote: โอ้ย เลือกยาก.. ถ้าเป็นผมจะเลือก Taylor เพราะถ้า่เล่นเบื่อ..ก็ขายกีตาร์ แล้วแยกขาย Hardcase ได้เงินเพิ่มอีก RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - KY2 - 30-01-2011 ขอบพระคุณพี่ pood ครับ กระจ่างเลยครับ RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - papachill - 01-02-2011 ถ้าไม่ติดว่าคอเล็กเกินจะปรับตัวเข้าหา คงเป็นกีตาร์Takamineคู่ชีพหากินผมแน่ๆครับ หรือว่ามีคอใหญ่กว่าในบางรุ่นแล้วผมไม่รู้กันเนี่ย RE: อยาก ทราบกีตาร์ TAYLOR กะ Takamine มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันยังไงคับ - pood - 01-02-2011 Takamine รุ่นที่ผลิตขายนอกญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับความกว้างของคอให้เท่ากับคอ Martin (1 11/16") มาตั้งแต่ปี 2004 แล้วครับ ถ้าเป็นรุ่น LTD นี่ไม่มีคอเล็กเลยซักปีเดียว ดูข้อมูลจาก Takamine forum ใด้ด้านล่างครับ Takamine Nut Widths ... Special Editions EF75S OM 1 - 3/4 inch 45TH Anniversary Dreadnaught 1 - 3/4 Grand Ole Opry 80TH Dreadnaught 1 - 3/4 EF417S New Yorker 1 - 11/16 Classical Guitars All Hirade models 2 inch All Takamine models except TC135SC 2 inch TC135SC 1 - 7/8 Annual LTD Guitars LTD 1987 thru 2003 1 - 11/16 inch LTD 2004 thru 2006 1 - 3/4 LTD 2007 1 - 7/8 Keystone Series EF340SC, 341SC, 350SC, 360SC Dreadnaughts 1 - 11/16 inch EF38iC, 400SC 12-strings 1 - 7/8 Santa Fe Series ESF48C 1 - 11/16 inch EF450, 444, 508KC NEX 1 - 11/16 EF261 FXC 1 - 11/16 EF241, 250 Jumbo 1 - 11/16 EF250, 281 Jumbo 12-strings 1 - 7/8 Nashville Series EF430SS NEX 1 - 11/16 inch EF340/360 SBG Bluegrass Dreadnaughts 1 - 3/4 TNV340SC, 360S Dreadnaught 1 - 3/4 TNV460SC NEX 1 - 3/4 TNV760SC OM 1 - 3/4 Natural Series EAN10C, 20C, 40C, 70C 1 - 11/16 inch EAN30C, 60C 1 - 7/8 EAN40C 12-string 1 - 7/8 Super Natural Series TAN15, 16, 45, 55, 76 1 - 11/16 inch TAN16 12-string 1 - 7/8 TAN77 OM 1 - 3/4 |