นานๆ จะเข้ามาทีครับ ห่างหายเว้นวรรคจากกีตาร์ไปเกือบ 2-3 เดือน เนื่องจากงานประจำและงานส่วนตัว
ตอนนี้กีตาร์ในบ้านผม ก็ไม่ได้สะสมอะไรมากแล้ว ทะยอยๆระบายไปเกือบหมดบ้าน เหลือแค่ตัวไว้ลุยไว้เล่นจริงๆ
แต่ช่วงก่อนหน้านั้น เมื่อปลายปีที่แล้วทางผมได้สั่งกีตาร์ช่างไทยทรง OM มาตัวนึง ซึ่งผมชอบและประทับใจในเสียงมาก
แต่ก็มีเหตุต้องปล่อยไป เพราะต้องระดมเอาเงินไปลุยเรื่องงานส่วนตัว
ทิ้งห่างช่วงกันไปไม่เกิน2 เดือน ผมก็ตัดสินใจสั่งตัวที่สองทันทีอย่างไม่ลังเล ซึ่งเป็นการสั่ง custom อีกตัวก่อนที่ผมจะเริ่มเว้นวรรคพักเรื่องกีตาร์
ก็ไม่เร่งงานครับ ปล่อยให้ช่างทำไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ให้เค้าปราณีตและให้งานออกมาดีที่สุด ตัวนี้ใช้เวลา 3-4 เดือนกว่าจะเสร็จ
เป็นทรง D ครับ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาก เพียงแค่ตัวแรกทรง OM ที่ทำออกมา แล้วเสียงดีเกินตัวไปมาก ทำให้ผมมั่นใจว่า ถ้าช่างทำทรง D มา เรื่องเสียงก็คงไม่ต้องพูดถึง
Spec
Top : Solid Adirondack Torrefied
Back & Side : Solid Brazilian Rosewood
Bridge : Ebony
Fingerboard : Ebony
ไม้หน้า Adirondack Torrefied สีเข้มเนื่องจากมีการผ่าน Process เพื่อไล่ความชื้นออกจากเนื้อไม้ / ไม้หลัง Brazilian Rosewood / Bridge และ Fingerboard เป็น Ebony เงาดำสนิท
เรื่องลวดลายของ Rosette นั้น ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยากมากๆ บางทีเรื่องของลวดลาย Rosette นั้น มันอาจจะเป็นการชี้ขาดเลยก็ว่าได้ครับ
ว่ากีตาร์ทำเสร็จมา มันจะสวยหรือจะขี้เหร่ เพราะการที่จะออกแบบลวดลายมาสักแบบนึง แล้วให้มันออกมาลงตัวพอดีกับสีไม้หน้านั้นมันเป็นอะไรที่ยากมาก
ผมกับช่างใช้เวลา 1-2 วันกับการออกแบบ ก็ทำแบบออกมา 7-8 แบบแล้วมาช่วยกันเลือก สุดท้ายก็ลงตัวกับลายนี้ (Rosette วงด้านใน ใช้ไม้ Flame Maple)
Dot side ด้านข้างใช้ Abalone เพิ่มความหรูหรา ให้กับคนเล่นเวลามองเห็น
คอใช้ไม้ 5ชิ้นมาทำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอ
Head plate ให้สีไปทางโทนดำแต่แฝงไว้ด้วยลวดลายไม้ที่พอมองเห็นได้ ส่วนเรื่องทรงนั้น ผมชื่นชอบกับหัวกีตาร์ Bourgeois เป็นพิเศษ
ช่างก็เลยจัดมาให้ หัวตัดตรงแต่แฝงไว้ด้วยความเรียบหรู (OM ตัวที่แล้วก็เช่นเดียวกัน) ตัดกับลูกบิดสีทองได้ลงตัว
ลูกบิดสีทองของ Schaller บอกตรงๆว่า เพิ่งลองสั่งมาทดลองดูครับ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าดีมาก หมุนปรับเสียงนิ่งและตรงดีมาก
อัตราทดตัวนี้อยู่ที่ 18:1 แต่ปรับได้ค่อนข้างละเอียด ส่วนตัวผมชอบการออกแบบก็ลูกบิดรุ่นนี้ (ชอบตรงโลโก้ตรงเฟือง) แถมยังเป็น
เฟืองเปลือยด้วย ได้อารมณ์กึ่งๆ วินเทจ กึ่งๆ โมเดริ์น
องศาหัวกีตาร์ทำมาหักเอียงชันดีมาก กีตาร์บางยี่ห้อทำมาองศาน้อยนิดเดียว ซึ่งมีผลต่อแรงตึงสาย ยิ่งชันเสียงยิ่งออกมาเต็มๆ
ซึ่งจะเห็นผลอย่างมาก เวลาเล่นโน็ตสายเปล่า
Binding ล้อมด้วย Flame Maple สีธรรมชาติไม่ได้ย้อมสีแบบตัวที่แล้ว จงใจเพื่อให้สีตัดกันกับ Brazilian RW และกลมกลืนกับ
กระพี้ด้านหลังด้วย
ด้านตูด ช่าง Design ใส่ Binding คู่ขนานลงมาให้ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกนิดนึง รวมทั้งตอนแรกผมกะจะให้ช่างใส่ Back strip เข้าไปด้วย
แต่พอลอง Bookmatch ไม้หลังแล้วดันมีกระพี้มาชนกัน เลยลงความเห็นกับช่างว่า "ไม่ใส่" น่าจะสวยและลงตัวกว่า
ทั้งกระพี้ ทั้ง Binding และทั้ง Heel cap สีกลมกลืน ลงตัวกันพอดี
Saddle ช่างออกแบบทำขุดเซาะขอบเพื่อให้สายมีการพาดผ่านสัมผัสกับ Saddle ได้เต็มๆ เพื่อการถ่ายทอดเสียงจาก Saddle ไปยังไม้หน้าได้ส่งผ่านเต็มๆ
รวมทั้งเรื่องมุมองศาของสายที่ชัน เพื่อให้เสียงเวลาเล่น จะได้ออกมาเต็มๆ
Purfling ผมว่า Herringbone มันเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆแล้ว สำหรับคนที่ชอบสไตล์ Traditional แนวประกบสมมาตร และลงตัวพอดีกับสีของไม้หน้า
สรุป ตัวนี้รับมาเมื่อ week ที่แล้ว เรื่องเสียงที่ได้เกินคาดมากครับ รวมทั้งเนื่องจากไม้หน้านั้น Torrefied มาแล้วด้วย ทำให้เสียงที่ได้ค่อนข้างเปิด ไม่อับ ไม่จม
รวมถึงเรื่องงานไม้ที่เรียบร้อยทั้งภายในและภายนอก และงานสีที่กีตาร์ตัวนี้ใช้เคลือบเงาแบบไนโตร ขึ้นเงาดีมาก
ซึ่งช่วงหลังๆ ที่ผมเริ่มที่จะเว้นวรรคกีตาร์ไป ก็ต้องกลับมาเล่นอีกครั้ง เล่นทุกวัน เพราะเจ้าตัวนี้จริงๆ