(26-10-2010, 03:09)poPPie Wrote: น้าคอล เคลียร์กันได้รึยังเรื่อง FG1500 หนะ
เบื่อ ! ต้องไปหัวเราะกรามค้างอีก 5555
ทั้งหมดนี้คือข้อสรุปที่ได้จากการสนทนาที่เขาใหญ่
1. ม้าศึก FG-1500 ที่พ่ายแพ้ฝีเท้า FG-140 (เพราะเจ้าของคอกม้า FG-1500 ดันไปเปลี่ยนเกือกม้าใหม่ทั้ง 6 ข้าง ทำให้ม้าเดินไม่ถนัดเท้า (sustain ยาวไป) สู้ม้าศึก FG-140 ไม่ได้ ที่ใช้เกือกเก่าผสมกันสองยี่ห้อ เพราะเกือกม้าเบอร์หนึ่งหักชำรุด (สายขาด) ต้องเอาเกือกเก่าอีกยี่ห้อมาใช้แก้ขัด ซึ่งเกือกเก่ายังไงก็ใส่เดินถนัดไม่กัดเท้าเหมือนเกือกใหม่ เลยกลายเป็นได้เปรียบ)
สรุป : เกือกใหม่ เกือกเก่า มีผลต่อการแพ้ชนะของม้า
2. ม้าศึก FG-365S ของเจ้าหนอนที่ตกรอบแรก (เพราะดันไปฝนเกือกม้าให้บางจนเตี้ยติดดิน (ปรับแต่งลด action) ทำให้จังหวะการห้อตะบึงขาดความดังก้องกังวาน ไม่ผิดอะไรกับนางงามที่ใส่รองเท้าแตะเดินโชว์ตัวบนเวทีประกวด (ใส่สบายเดินง่าย) ยังไงก็ดูสวยเด่นเป็นสง่าสู้นางงามที่ใส่ส้นสูง 2-3 นิ้วไม่ได้
สรุป : ความสูงต่ำของเกือกม้า มีผลต่อการแพ้ชนะของม้า
3. ม้าศึก FG-1500 ถ้าเปรียบเป็นนักมวยก็เป็นมวยรุ่นเล็ก (ทรง OM) เมื่อต้องมาเจอกับมวยรุ่นใหญ่อย่าง FG-140 (ทรง Dreadnought) ย่อมเสียเปรียบช่วงชกและแรงปะทะเป็นธรรมดา การชกครั้งนี้จึงไม่ค่อยเป็นธรรมกับนักมวย FG-1500 แต่แรก
สรุป : รูปร่างและขนาดใหญ่เล็ก มีผลต่อการแพ้ชนะของม้า
4. การที่ม้าศึก FG140 สามารถพิชิตตำแหน่งยอดอาชา ได้รางวัลเกือกม้าเคลือบสีฟ้า 6 ข้างจำนวน 1 ชุดนั้น เป็นเพราะได้จ๊อกกี้ที่มีความสามารถในการควบคุมบังคับม้าดี ทำให้ม้าศึก FG-140 สามารถเปล่งศักยภาพแสดงจุดเด่นที่มีในตัวออกมาได้อย่างเต็มที่ ลองถ้าเอาจ๊อกกี้ฝีมือธรรมดา ๆ มากุมบังเหียนดูสิ ดีไม่ดีอาจจะตกรอบคัดเลือกก่อนเจ้าม้าศึก FG-365S ที่ตกรอบแรกเลยด้วยซ้ำก็ได้ ยังไงก็ไม่อาจเทียบกับม้าศึก FG-1500 ที่เป็นม้าสายเลือดดีมีตระกูล ที่ได้รับการประคบประหงมดูแลเอาใจใส่จากผู้เพาะเลี้ยงม้ามาตั้งแต่เกิดเป็นอย่างดี เรียกว่าดูแลกันตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของม้ามาจนถึงกระบวนการในการเพาะพันธุ์ม้าเลยทีเดียว แต่เนื่องจากตัดสินใจผิดที่ไปเปลี่ยนเกือกใหม่ทั้ง 6 ข้างตามข้อ 1 ต่อให้จ๊อกกี้ฝีมือดีแค่ไหนก็ไม่สามารถบังคับควบคุมม้า FG-1500 ให้วิ่งราบเรียบเป็นจังหวะเสียงฝีเท้าที่ balance สม่ำเสมอเหมือนม้า FG-140 ที่ใช้เกือกเก่าผสม 2 ยี่ห้อได้
สรุป : ม้า FG-140 ที่ชนะการแข่งขันครั้งนี้ได้ เพราะได้จ๊อกกี้ดีมีฝึมือ สามารถ present ฝีเท้าม้าออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บวกกับองค์ประกอบส่วนอื่น ๆ (ทั้งหมดที่กล่าวมาในข้อ 1-3) พลอยเป็นใจให้กับม้าศึก FG-140 เลยทำให้คณะกรรมการ (โดยส่วนใหญ่รวมทั้งเจ้าของม้า FG-1500) พร้อมใจกันเทคะแนนตัดสินให้ม้า FG-140 เป็นผู้ชนะไปในที่สุด
สรุปของสรุปอีกทีจาก 1-4 : ที่ม้าศึก FG-140 ชนะได้ก็เพราะคู่แข่งแพ้ภัยตัวเองทั้งนั้น
พอดีเวลา 2 คืนบนเขาใหญ่หมดลงเสียก่อน ข้อ 5 6 7 8 9 และ 10 คงต้องไปสรุปต่อตอนไปเที่ยวเขาค้อแล้วล่ะ ยังไง น้าป๊อปปี้ช่วยอยู่เป็นกรรมการห้ามมวยให้ด้วยนะครับ กีตาร์แพ้ แต่คนไม่แพ้ นี่ผมกลัวจริง ๆ
จุ๊ ๆ จะบอกความลับอะไรให้ไหมน้าป๊อบปี้ อย่าเอ็ดไปนะ เบื้องหลังการเทขายม้าศึกบ้านเต่าครั้งใหญ่นั้น สาเหตุที่แท้จริงไม่ใช่เพื่อหาเงินไปต่อเติมบ้านอย่างที่เขาอ้างหรอก จริง ๆ แล้วแกทำใจไม่ได้มากกว่า ที่มีม้าศึกประเภทดีแต่ชื่อและสายเลือดตระกูลเกรด A อยู่ในคอกตั้งมากมาย แต่ฝีเท้าในการควบตะบึงแต่ละตัวก็งั้น ๆ ไม่ค่อยเจ๋งสมกับชื่อชั้นเท่าไหร่ แถมข้อแม้เยอะอิ๊บอ๋าย ต้องนั่น ต้องนี่ เหมือนคนแก่ขี้บ่นจุกจิก แต่คุยกับแกก็สนุกดีนะ ขนาดตี 5 แล้วยังไม่รู้สึกง่วงเลย ถ้าไม่ห่วงว่าต้องขับรถพาลูกเมียกลับกรุงเทพตอนสาย ๆ ของวันนั้นสงสัยคงยาวกว่านี้
นี่ถ้าเกิดผมโค่นสนุ้กเกอร์แกได้ แกคงจะมีเหตุผลร้อยแปดมาอ้างอีกอย่างแน่นอน ชิ่งไวไปบ้างล่ะ พื้นเทบ้างล่ะ สักหลาดใหม่เกินไปลูกเลยไหลไม่เป็นธรรมชาติบ้างล่ะ อาจจะรวมถึงเหตุผลที่ชนะเพราะได้ไม้คิวที่ดีกว่า เลยทำให้ present การแทงของตัวเองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุ๊ย สารพัดจะข้อแม้ กล้วแล้วจ้า เพิ่งรู้ว่าเหตุผลของคนที่มีอาชีพเป็นทนายความที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง