FENDER มาแล้วครับ (รูปใหม่หมด)

[pood]

เพิ่งเห็นว่าน้า web กรุณาจัด gallery ให้เป็นส่วนตัวแต่ผมไม่ค่อยจะเอากีต้าร์มาลง
เลย วันนี้เลยขอฉลองเอา collection แบบเด็กฯของกีต้าร์ไฟฟ้า Fender มาลงเลย

ผมชอบ Fender มาตั้งยังใส่กางเกงขาสั้นไปโรงเรียนแต่เดี๋ยวนี้ผมเองไม่ค่อยผูกพันกับกีต้าร์ไฟฟ้าซักเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยใด้เล่นมัน ดังนั้นพอเจอตัวใหม่ที่ชอบเสียงมากกว่าผมก็ปล่อยตัวเก่าให้คนอื่นไปเล่นทุกที

[pood]

เริ่มตามอาวุโสแล้วกันครับ ตัวแรกนี่อายุมากกว่าเพื่อนแต่ตัวเล็กกว่าเพื่อน
เหมือนกัน มันชื่อ Mustang ครับ




ตัวนี้เป็น series สุดท้ายของ Mustang ปิคอัพเป็นของเขาเองเสียงจะใสและบาง
กว่าของ strat ครับ มี่จี่นิดหน่อยแต่น้อยกว่ารุ่นแรกฯ ใช้สวิทช์ปิดเปิดและกลับเฟส
ที่ด้านบนของ pickguard  




ไม้ body เป็น ash เคลือบ poly ใสตามสไตล์ยอดนิยมของ Fender ยุค '70s
ส่วนคอและ fingerboard เป็น maple ครับ






Mustang รุ่นสุดท้ายใช้ string trees สองอัน อายุตัวนี้ก็สามสิบเอ็ดปีพอดี (S7 = 1977) สภาพก็เกือบร้อยเพราะชิ้นส่วนเป็นของเดิมทุกชิ้นครับนอกจากสาย



ที่บอกว่าสภาพเกือบร้อยก็เพราะมีตำหนิอยู่หนึ่งจุดตรง headstock ที่มีรอยบุหรี่ไหม้
คนที่ชอบเอาบุหรี่เสียบทีหัวกีต้าร์เวลาเล่นดูไว้นะครับ



ตัวอย่างเสียง





https://youtu.be/SRSdsUlhDV4

ตัวนี้ขายให้กับน้องคนหนึ่งไปแล้วครับในราคา 43000 บาท

[pood]

ผมเคยมี Fender ยุค '60s สามสี่ตัวตอนอยู่อเมริกาแต่ขายไปหมดแล้วตอนกลับไทยในปี 1988 

ตอนนี้เลยมีแค่ Strat และ Tele ยุค '70s ครับ ตัว Strat สี 3-Color Sunburst (00) ตัว Tele สี Natural Walnut (21)






ไม้ที่เลื่อยแบบ quarter-sawn ในยุคนั้นยังหาใด้แต่น้ำหนักจะมากกว่าไม้ยุค '50s-'60s พอมาถึงยุค 2000 นี่หาใด้ในกีตาร์จาก Custom Shop เป็นส่วนใหญ่




สมัยนั้นเขายังแสตมป์ว่า "MADE IN USA" อยู่เพราะมีชิ้นส่วนเกิน 90% ที่ผลิตในอเมริกาตามกฏหมายของรัฐ California 






ถ้าจะสะสม vintage Fenders ควรศึกษาวิธีอ่าน serial และวันเดือนปีที่ผลิตในตำแหน่งต่างๆอย่างเช่นที่หัว ที่คอ ที่ปิ๊กการ์ด ที่ pots ด้วยนะครับจะใด้แน่ใจว่ากีตาร์ไม่ใด้โดนยำมา

อย่างตัว Tele นี่เป็นปี 1978 ที่หัวและหลังปิ๊กการ์ด ตัว pots ผลิตเดือนพฤษภาคม 1978



ตัว Strat คอผลิต 11/1979 Pots ผลิต 03/1980 Final Inspection 07/1980 ดังนั้นกีตาร์ตัวนี้ออกจากโรงงานปี 1980



Fender ยุคนี้เสียงอิ่ม sustain ยาวเพราะใชัไม้ quarter-sawn

Telecaster: https://youtu.be/tarP5QxohO0

Stratocaster: https://youtu.be/K43HzQxbJ6I

[pood]

พอมาถึงยุค 2000's ก็เริ่มติดใจแต่พวกกีต้าร์ custom shop ครับเพราะเสียง
มันดีกว่าพวกธรรมดาเยอะเลย รุ่นธรรมดาก็มีเหมือนกันแต่ตอนนี้หนีไปเที่ยวหมด
เลยเหลือแต่รุ่น custom shop ที่บ้านเพราะหวงครับ

ตัวแรกนี่คือ '56 Strat Custom Shop Vintage Series with "Mary Kaye" options
ปี 2004 ออปชั่นนี้สั่งใด้จนถึงปี 2004 ก่อนที่เฟนเดอร์จะออกรุ่น Mary Kaye Tribute มาในปี
2005 ความจริงผมชอบเสียง modern Strat มากกว่า vintage Strat แต่ทนความสวยของ
Mary Kaye ไม่ใหวเลยต้องซื้อมาครับ




ตัวนี้ใช้ปิคอัพ '50's custom classic ตัว selector ยังเป็นแค่สามทางอยู่ ถ้าเป็นคนยุค
ไหม่คงต้องขวนขวายหาตัวใหม่ที่เป็นห้าทางมาเปลี่ยนแต่คนรุ่นเก่าเราเปิดเป็นห้าทางใด้
โดยเอาไม้จิ้มฟันเสียบครับ




ตัวนี้โลหะทุกชิ้นรวมถึงพวกสกรูชุบทองหมดครับ บอดี้เป็น ash ถ้าสั่งสีเป็น white blonde ที่มองเห็นลายไม้



Finish เป็น N.O.S. ครับเพราะผมไม่ชอบกีต้าร์ที่โดนทำให้เก่าจากโรงงาน ยิ่งพวก
super relic นี่ยิ่งเกลียดเพราะสมัยผมวัยรุ่นเราเรียกกันว่า "กีต้าร์เน่า" ครับ ใครเอามา
ขายผมสองพันผมก็ไม่ซื้อ




ใบปริญญาก็มีครับ  ใครที่สนใจ Fender Custom Shop นี่ต้องเรียกหาใบนี้นะครับ
ถ้าไม่มีน่าจะเป็นของปลอม




เสียงครับ

https://youtu.be/0TvzibHCjFw

[pood]

Mary Kaye Strat นี่เป็นเรื่องพิศดารเรื่องหนึ่งครับ ลองอ่านภาค
ภาษาอังกฤษกันดูก่อน

Perhaps the weirdest aspect of the Mary Kaye story is that she never owned the swamp ash, see-through blonde guitar with gold hardware that came to be known as the ?Mary Kaye Stratocaster,? and Fender never officially listed the model as such until the Fender Custom Shop released a limited- edition Mary Kay model in 2005 (the edition was retired in July 2006). In 1956, Fender president Don Randall loaned Kaye the then-custom order model for publicity shots, as well as to play in the movie Cha-Cha-Cha Boom! The guitar was to be left in Kaye?s possession, but it mysteriously disappeared after both photo sessions.



?The publicity photos with me playing that guitar went around the world,? says Kaye. ?So instead of customers asking for a white guitar with gold fittings, they?d say, ?I want that guitar that Mary Kaye was playing.? All of a sudden it became known as the Mary Kaye Stratocaster.?

สรุปใด้ว่า Mary Kaye ไม่เคยมีและไม่เคยเล่น Mary Kaye Strat เลยจนอีก 49 ปีต่อมาที่
Fender Custom Shop ออกรุ่น Mary Kaye Tribute มาและมอบให้เธอหนึ่งตัว ผมว่าเธอคง
ไม่ชอบกีต้าร์ solid body เพราะดูในรูปเก่าฯเห็นเธอเล่นแต่พวก archtop อย่าง D'angelico
ทูกรูปเลย


ในปี 1988, 1989 Fender ก็ผลิต vintage series ที่สเป็คเหมือนตัวที่ Mary Kaye ถือในรูป
ออกมาขายแต่เป็นรุ่น '57 reissue ครับไม่ใช่ '56 ตัวนี้ถือว่าเป็น Mary Kaye รุ่นแรกแต่ไม่ใช่
custom shop ครับ



Fender custom shop มาเริ่มผลิต Mary Kaye options ในรุ่น '56 reissue ตั้งแต่ปี
1996 แต่มาออกรุ่น "Mary Kaye Tribute" เพียงครั้งเดียวในปี 2005-2006 รุ่นนี้เป็น
เกรด masterbuilt นะครับ ราคาตั้ง 7,000 เหรียญซึ่งแพงกว่าตัวของผมเกือบสองเท่า ใน
เมืองไทยมีอย่างน้อยหนึ่งตัวที่บ้านคุณ Yodchula ครับ หน้าตาเหมือนกันเปี้ยบแต่ตัว tribute
จะดูเก่ากว่าเพราะเป็นรุ่น closet classic

[จ๋า]

โห น้ากฤษณ์ นี่ขนาดแบบเด็กๆนะคะนี่ เห็นแล้วใจเต้นนนน

สวยจังเลยค่ะ


จ๋าชอบมัสแตงที่สุดเลย เมื่อก่อนก็บ้าพวก nirvana เห็นทรงแบบนี้แล้วคืนนี้สงสัยต้องฟังซักอัลบัมละ


น้ากฤษณ์คะ เพราะอะไร fender รุ่นเก่าๆถึงเป็นที่นิยมมากกว่ารุ่นใหม่ๆหละคะ เห็นยิ่งเก่าๆๆๆมากเท่าไหร่ ยิ่งแพงๆๆมากเท่านั้น

เป็นเพราะเสียงของมันรึเปล่าคะ


"สำหรับผมกีต้าร์โปร่งก็เหมือนแฟนแต่กีต้าร์ไฟฟ้าก็เหมือนกิ๊กครับ "

สำหรับจ๋ากีตาร์คลาสสิคก็เหมือนแฟน กีตาร์โปร่งก็เหมือนแฟน กีตาร์ไฟฟ้าก็เหมือนแฟนค่ะ อิอิ ???

[pood]

Fender Custom Shop ตัวต่อไปมีประวัติเป้น Pual Reed Smith killer
สำหรับผมครับ เพราะมันทำให้ผมขาย PRS Custom 22 ทิ้งเพราะไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม
ให้เกะกะบ้าน มันชื่อ Showmaster Elite QMT ครับ



ต้วนี้ไม้หน้าเป็น carved solid quilted maple อินเลย์เป็นลาย tribal sun คอ 22
jumbo fret แถม fretboard radius ยังกว้างถึง 12" ปิ้คอัพตัวหน้าใช้ Seymour
Duncan รุ่น Pearly Gates ส่วนตัวหลังออกแบบพิเศษเพื่อใช้กับรุ่นนี้ชื่อว่า Custom
Custom Humbuckers ครับ fretboard ก็เป็น ebony อีกต่างหาก




Body เป็น mahogany ชิ้นเดียวขุด tone chamber น้ำหนักเลยเบาพอฯกับ PRS
คอก็เป็น mahogany ใช้ binding maple ที่น่าประทับใจคือไม่มีรอยต่อระหว่างคอ
กับลำตัวให้เห็นเลยครับ ไม่รู้ทำใด้ไง




Headstock ดันเอาของ Tele มาเฉยเลย Tuner เป็น Schaller Locking แต่ลูกบิด
ดันเป็นมุกซะอีก




มีปริญญากับเขาเหมือนกันนะ

[pood]

เรื่อง Fender เก่าฯราคาแสนแพงนี่เป็นเรื่องของค่านิยมครับ ไม่เกี่ยวกับ
เรื่องเสียงหรอก ค่านิยมนี่มันเกิดขึ้นเพราะพวกศิลปินดังฯตอนที่เริ่มเล่นนั้น
ยังไม่มีสตางค์ซื้อกีต้าร์ใหม่เลยต้องไปซื้อของใช้แล้วเก่าฯโทรมฯมาเล่นมากกว่า
พอดังขึ้นมาพวกแฟนฯเลยเอาอย่างมั่ง กีต้าร์เก่ามันเลยแพงไง

ตัวอย่างเช่น Jeff Beck สมัยเริ่มต้นไม่มีเงินซื้อกีต้าร์ใหม่เลยไปซื้อ '54 Fender
Esquire ใช้แล้วมาในราคา 1,200 บาท พอดังขึ้นมา Fender ก็ยืมมาก้อปและทำ
สภาพให้โทรมฯเหมือนตัวต้นแบบออกมาขายตัวละเกือบสองแสนเป็นต้น

สมัยผมเด็กฯใครฯก็อยากใด้ Fender เพราะตอนนั้นวง The Shadow และ The Ventures
กำลังดัง เพื่อนผมคนหนึ่งไปยืม Strat ของพี่ชาย ปีประมาณ '59-'60 สี fiesta red มาเล่นในงานที่คณะ
วันนั้นฝนตกหนักเลยเปียกไปตามฯกันแต่เจ้ากีตาร์สีแดงของเพื่อนผมสีมันตกจนเสื้อสูตร์สีขาวด้านหน้ากลาย
เป็นสีชมพูไปเลยครับ กีต้าร์ห่วยฯแบบนี้ทำไมตอนนี้ซื้อขายกันเป็นล้านบาทผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

[pood]

มาถึงตัวสุดท้ายของ lot นี้ซะที ตัวนี้เป็น "dream guitar" ของผมเลยละครับ
มันมีความเป็นมาดังนี้ครับ

ตอนที่ Fender custom shop ออกรุ่น Strat Pro มาเมื่อสองปีที่แล้วนั้นผมติดใจ
มันมาก ปิคอัพ custom samarium cobalt noiseless ของมันเสียงอ้วนและ
หวานกว่ารุ่นเดียวกันที่ใส่ใน American Deluxe series เยอะเลย fretboard radius
ก็เป็น 12" Headstock ก็เป็นรุ่นหัวโตที่กำลังฮ้อตสุดฯ ราคาก็ไม่แพง(95,000 บาทเน็ต)
แต่ไม่ชอบมันตรงที่ว่า

1. มันมีสีให้เลือกแค่สีขาว สีดำและ sunburst
2. มันดูเก่าเพราะเป็น closet classic finish
3. ผมไม่รังเกียจหัวโตแต่ไม่ชอบโลโก้ยุค CBS

มาวันหนึ่งก็มีคนบอกว่าเราสามารถสั่ง custom order ตามใจเราใด้โดยเริ่มต้นจากรุ่น
Custom Classic และสามารถเลือก options อะไรจากรุ่นใหนก็ใด้โดยเขาคิดราคาเพิ่ม
แบบเหมารวมแค่ 650 เหรียญ คราวนี้ก็สนุกละครับ

สั่งแบบ custom นี่เขามีสีให้เลือกเกือบร้อยสี ผมเลยเลือก 082-candy tangerine
เป็นสีส้มอมแดง ส่วน finish เลือกเป็น nitro เหมือนรุ่น Strat Pro ครับ ชิ้นส่วน plastic
เลือกเป็น aged ให้ออกสีครีมนิดฯ เลือก 12" radius fretboard และ medium jumbo frets




Body เลือกเป็น alder น้ำหนักรวมประมาณ 8 lbs. 10 ozs ครับ








ส่วน Headstock เป็นรุ่นหัวโตแต่เลือก spaghetti logo ซะยั้งงั้นใครจะทำไม
ใช้ LSR roller nuts และ locking tuners เหมือน Strat Pro ครับ




Fender ถ้าซื้อที่อเมริกาของแถมเพียบครับ มีทั้งสายสะพาย สายแจ็คและอื่นฯ
ราคาก็พอฯกับรุ่น Strat Pro ครับเพราะเราตัดอ้อปชั่น closet classic ออกไป



เสียงเป็นแบบนี้ครับ

https://youtu.be/erbVYuVT6Ho


ตัวนี้ยังอยู่กับผมครับ

[จ๋า]

โอ้ ตามอ่านมาเรื่อยๆ กีตาร์สวย ได้ความรู้อีกเยอะมากๆ ขอบคุณน้า grid มากๆเลยนะคะ ที่ช่วยเปิดโลก ให้เห็นอะไรๆมากขึ้น

ไว้มีล๊อตใหม่จะตามมาอ่านอีกค่ะ