วันหยุดนี้พอมีเวลาเล่าเรื่องเล็กน้อย แล้วจะทยอยเล่าตอนที่เหลือนะครับ
Macau - Hong Kong (1) : Art exhibition "Indigo child" by Carrie Chau, 24 Nov 2008
สารภาพว่าฮ่องกงกับมาเก๊าไม่เคยถูกบรรรจุในสมองส่วนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเลย แล้ววันหนึ่งก็พบ promotion ของโรงแรม Venetian ที่รวมการแสดง Zaia by Cirque du Soleil เอาไว้ด้วย เห็นแล้วนึกย้อนถึงครั้งไปเที่ยวอเมริกาที่พลาด Cirque du Soleil ไปเพราะตั๋วขายหมดเกลี้ยง สำหรับคนชอบดูโชว์แล้วมันเป็นเหมือนแผลในใจที่ตั้งตนในความประมาท ไม่ยอมจองตั๋วล่วงหน้า บวกลบคูณหารแล้วดูเป็น package ที่คุ้มค่าน่าจะล้างอายอีสาวนักชมโชว์ได้ แถมมีรุ่นน้องที่ทำงานอยากไป shopping ที่ฮ่องกง แม้จะคนละวัตถุประสงค์แต่ก็คงไปด้วยกันไหว คิดแล้วจะช้าอยู่ไย โทรไปจองเสียให้เรียบร้อยดีกว่า
ชะรอยเวรกรรมที่ทำมาแต่หนหลังจะนำพาขาเที่ยวทั้งสองให้ตกบ่วงหายนะ จึงมี co-incident ที่ช่วยเพิ่มรสชาติของชีวิตอีกหลายเรื่อง เริ่มตั้งแต่
- flight ที่ต้องการจึงเต็มหมดทั้งเดือนพฤศจิกายน เหลือเพียงวันที่ 24-26 เท่านั้น
- พอได้วันเที่ยวที่ตรงกับวันทำงาน เลยไม่บอกที่บ้านซะงั้น เพราะคุณพ่อไม่ชอบให้จอดรถทิ้งไว้สนามบิน ขืนบอกว่าจะไปเที่ยวก็ต้องเดือดร้อนมารับมาส่งอีก (ผู้ปกครองควรพิจารณา)
- เห็นว่าไปแค่ 3 วัน เดี๋ยวก็กลับแล้ว ไม่ต้องเปิด roaming ก็ได้มั้ง
- เงินสดเรอะ.. ไปแค่ 3 วัน ติดกระเป๋าไปแค่ 3,000 บาทก็พอ ส่วน Hong Kong Dollar แค่ 4,500 ก็น่าจะเหลือฟาด เพราะส่วนตัวไม่ได้กะไป shoipping อยู่แล้ว (รวมงบประมาณ shopping CD ของนายฝรั่ง 1,000 HKD ด้วยนะเนี่ย)
- เสื้อผ้า ...ไม่ต้องพูดถึง ปรกติเป็น พวก light pack อยู่แล้ว ไป 3 วัน รับประกันมีเสื้อไม่เกิน 3 ตัว กางเกง 2 ก็เหลือจะพอ (รวมใส่ไป 1 ชุด)
มิน่า..โบราณถึงว่าอย่าตั้งตนในความประมาท ...ก็ใครจะรู้ว่าไปครั้งเดียวจะได้เที่ยวตั้ง 4 เกาะ !!!
วันแรกของการท่องเที่ยวไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง smooth as silk ทีเดียว สะเต๊ะไก่ของ Bangkok Airways อร่อยมั่กๆ ถึงที่พัก check-in ได้ก็ซื้อตั๋วเรือเร็วข้ามไปฮ่องกงโดยพลัน แต่ถึงอย่างนั้น กว่าจะเหยียบเกาะฮ่องกงก็ปาเข้าไป 4 โมงเย็นแล้ว เราตรงดิ่งไปที่ร้านไถ่ชุงในย่าน Central เพื่อสอย egg tart คนละชิ้นก่อนไปหาติ่มซำใส่ท้องที่ร้าน Zen Chinese Cuisine โชคร้ายที่ติ่มซำหมดแล้ว จึงมุ่งหน้าไปทำภารกิจถัดไป คือการซื้อ CD ที่ CD Warehouse ในแถบ Causeway Bay ก่อน
หมดเงินไปหนึ่งก้อน แต่ยังไม่หมดแรง (คงเป็นเพราะขุมกำลังจาก egg tart) ดูเวลาแล้วตกลงกันว่าแยกย้ายไปที่ชอบก่อนมาเจอกันอีกทีตอน 4 ทุ่ม เพื่อลิ้มรสห่านย่างอันเลื่องชื่อของร้านยุ่งกี่แถบ Central นับเป็นการจัด priority ที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากร้านขายของต่างๆ จะปิดประมาณ 4 ทุ่ม ในขณะที่ร้านอาหารยังพอหาได้ตลอดคืน รุ่นน้องเลือกที่จะกลับไป shopping ต่อที่ย่าน Central และ Tsim Sha Tsui ส่วนฉันขอเดินเล่นที่ Timesquare ก่อนโดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าโชคชะตาจะพลิกผันทำให้ไม่ได้กลับไป shopping หรือดูแสงสีที่ Victoria Peak อันเป็นสูตรสำเร็จแบบที่ใครๆ เขาทำกัน
เพียงขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงโถงกลางของตึก ฉันก็พบกับซุ้มไม้สีขาว ตกแต่งด้วยตุ๊กตารูปเด็กหน้าตาแปลกๆ แต่ดูน่ารักชวนให้เข้าไปมองใกล้ๆ ตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็น art exhibition ของศิลปินชาวฮ่องกงนาม Carrie Chau
ตามประวัติใน website ของเธอบอกว่าเธอเชื่อว่าตัวเองเป็น alien กลับชาติมาเกิด !?!? เธอได้จับอุปกรณ์วาดเขียนครั้งแรกเมื่ออายุ 4 ขวบ และเริ่มวาดอะไรต่อมิอะไรลงบนหน้าเพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลตั้งแต่ตอนนั้น...เอากะ she สิ -.-"
เดินวนอยู่ได้พักหนึ่งจึงรู้ตัวว่าตอนนั้นทุ่มกว่าแล้ว หากจะข้ามไปดูแสงสีที่ฝั่งเกาลูนไม่แน่ว่าจะทัน แถมยังต้องย้อนกลับมาดูนิทรรศการใหม่ อย่ากระนั้นเลย แสงสีนี่ยังไงก็มีให้ดูทุกวัน คราวหน้าถ้ามาฮ่องกงอีกก็ยังได้เห็น แต่นิทรรศการน่ารักๆ อย่างนี้ พลาดแล้วคงพลาดโลด ไหนๆ ก็ไหนๆ ...อยู่ดูให้หนำใจไปเลยดีกว่า นี่ไง..ผนังด้านนี้แต่งไว้เสียน่ารักเลย ใครๆ ก็มาขอถ่ายรูปด้วย กว่าจะรอจนปลอดคนได้ก็ตั้งนานแน่ะ
ส่วนรูปนี้ฉันชอบที่สุด ชอบเพราะลายเขียนรูปกลุ่มดาวแสนสวยนี่แหละ
แต่เชื่อไหมว่า ดวงมันจะต้องเสียทรัพย์ ต่อให้ไม่ได้ไป shop เสื้อผ้าแบรนด์ดัง ก็มีอันต้องควักกระเป๋าให้กับงานสวยๆ ของยัยเจ๊ Carrie อยู่ดี และประทานโทษ...she ไม่ใช่ศิลปินไส้แห้ง ของแต่ละชิ้นในร้านสนนราคาอย่างเบาะๆ จึงไม่ต่ำกว่าชิ้นละ 500 บาท แถมบางอย่างซื้อแล้วก็ต้องดูแลอย่างดีเพราะบอบบางเหลือเกิน คนที่เดินผ่านไปมาในย่านนั้นคงสังเกตเห็นความผิดปรกติของอีสาวนักตะลอนชาวไทยได้ไม่ยาก ขามาเป้หลังสีชมพูสดของหล่อนก็ดูฟีบๆ ดีอยู่หรอก สองชั่วโมงผ่านไปเป้หลังแทบจะขยายจนสุด ไหนจะกระเป๋ากล้องอีก แต่อีสาวนักตะลอนก็บ่ยั่น ยังคงเดินสำรวจถนนหนทางโดยรอบต่อไปจนพบว่ามีผลงานของ Carrie Chau ปรากฏอยู่ทุกหนแห่งในพื้นที่ของ Timesquare ไม่เว้นแม้แต่โถงบันไดเลื่อน
เห็นแล้วนึกถึงห้างใหญ่ๆ ในบ้านเราที่มี art exhibition ให้ชมเป็นระยะๆ แต่ยังไม่มีงานไหนจัด display ได้น่าสนใจอย่าง Carrie Chau เลย ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เกี่ยวข้องเกิดการเรียนรู้และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปก็แล้วกัน จะได้มีคนเข้ามาชมเยอะๆ จิตใจก็จะได้ถูกขัดเกลาให้อ่อนโยนขึ้น และขอให้อาชีพศิลปินมีศักดิ์และสิทธิ์เท่าเทียมหมอกับวิศวะเสียที ประเทศของเราจะได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างครบทุกด้าน
ชมภาพที่เหลือได้ที่นี่ครับ
http://myakira.multiply.com/photos/album...4_Nov_2008
แล้วจะมาว่ากันต่อถึงหายนะในอีก 2 วันข้างหน้า 5555