Smoke Gets In Your Eyes

[SARUN]

เสน่ห์ ของเพลงStandard มันอยู่ที่
ไม่ได้มี ?แก่น? ของเพลงตื้นๆเหมือนกับเพลงป็อปทั่วๆไป
เพลงStandard ไม่ใช่ ดนตรีแบบ ?อาหารกระป๋อง? ที่พร้อมกินในทันทีที่ได้เปิดฝา
แต่ก็ ไม่ได้ยากเย็นขนาด ดนตรีแบบ ?อาหารชาววัง? แบบเพลง Classic และ ?อาหารประยุกต์ (Fusion Food)? แบบ เพลงJazz? ตามลำดับ

เพลง Smoke gets in your eyes ก็เป็นเพลงStandard ความหมายของเพลง ออกแนว ช้ำรัก เปรียบเทียบว่า
ว่าคนที่มีรักนั้นก็เหมือนคนตาบอด หัวใจมันจะร้อนรุ่มเหมือนดังไฟสุม
แต่เมื่อวันใดไฟรักมันมอดดับลง แลtไม่อาจซ่อนน้ำตาไว้ได้ ดังนั้นถ้าใครถาม ก็คงได้แต่ยิ้มแล้วพูดว่า ที่น้ำตาไหล ก็เพราะว่า เมื่อไฟรักมอดดับลงไปแล้ว ควันก็เลยเข้าตา... เท่านั้นเอง
"When a lovely flame dies
Smoke gets in your eyes"

ในบ้านเรา เมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว มีหนังฝรั่งเรื่อง Always พระเอกเป็นคนขับเครื่องบินดับเพลิง แล้วประสบอุบัติเหตุ
แล้วคนไทยก็รู้จัก เพลงStandard เพลงหนึ่ง ซึ่งเป็น Sound Track ในเรื่องนี้ นั่นก็คือเพลง Smoke Gets in Your Eyes ? ใน version ของ The Platters ปี 1959

จุดเด่นของเพลง Smoke Gets In Your Eyes ที่ลูกเด็กเล็กแดง ในยุคนั้น จำได้ติดหู จึงอยู่ที่ การตะโกนออกไปดังๆอย่างโหยหวน ว่า ?.. โอ๊ววววว อูววว โอ๊วววว โออออ โอ่?????.

เสน่ห์ จริงๆของเพลง ผมคิดว่า อยู่ที่การเปรียบเทียบ เรื่องรักๆ ใครๆ ในแบบ ?ประโลมโลก? ได้อย่างสวยงามทีเดียว อีกทั้ง ชั้นเชิงในการ เปลี่ยนคีย์ ในทำนอง กลับไปกลับมา ในแบบ ชาวJazz ก็น่าสนใจมากๆ


ย้อนกลับไป เมื่อ 1935 เพลง Smoke Gets in Your Eyes ก็เป็น เพลงดัง ประกอบอยู่ใน ภาพยนตร์เพลงเรื่อง Roberta ร้องโดย Irene Dunne นักแสดงนำ


แล้วย้อนกลับไป ในปี ค.ศ.1933 เพลง Smoke Gets in Your Eyes เป็นเพลงดังของจากโรงละคร Broadway ในละครเพลงเรื่อง Roberta

แต่ผู้คนทั่วไป คงคุ้นเคยกับ The Platters กันซะมากกว่า เป็นเวอร์ชั่นแรกๆที่ผู้ชายขับร้อง และ ได้รับความนิยมที่สุด
ซึ่งหาฟังเอาในYoutube ได้ไม่ยาก แต่อยากจะ แนะนำ
เวอร์ชั่นนี้เป็นแบบตลกๆ ของ Judy Garland จากรายการ Judy Garland Show ในปี ค.ศ.1963





คอร์ด + เนื้อเพลง Smoke Gets In Your Eyes

They asked me how I knew
My true love was true
Oo--oo--oh I of course replied
"Something here inside
Cannot be denied"
They said someday you'll find
All who love are blind
Oo--oo--oh When your heart's on fire
You must realize
Smoke gets in your eyes
So I chaffed them and I gaily laughed
To think they could doubt my love
Yet today, my love has flown away
I am without my love
Now laughing friends deride
Tears I cannot hide
Oo--oo-oh So I smile and say
"When a lovely flame dies
Smoke gets in your eyes"
....Smoke gets in your eyes....

[napman]

Thanks Sarun,

it's one of my favorite

[โฟล์คน้อย]

เพลงนี้เป็นเพลงที่มีเสน่ห์มากเพลงหนึ่งครับ
ความพิเศษของเพลงนี้ นอกจากเนื้อร้อง ท่วงทำนองแล้ว


ก็คือมีการปรับเปลี่ยนคีย์ในบทเพลง ภาษาทางดนตรีเราเรียกว่า การ Modulation
หรือเรียกสั้น ๆว่า การ modulate


ซึ่งหมายถึงการที่เพลงมีการเคลื่อนย้าย key center จากคีย์เดิมไปสู่คีย์ใหม่
ในที่นี้จะพูดถึงเพลง Smoke Gets In Your Eyes ในเวอร์ชั่นของThe Platters นะครับ
ซึ่งอยู่ในคีย์ Eb และก็น่าจะเป็นที่รู้จักกันมากกว่า ในหมู่คนฟังเพลงทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนเพลงเฉพาะกลุ่ม


ในท่อนแรกของเพลงจะเริ่มมาด้วยคีย์ Eb
แต่พอมาถึงท่อนแยก หรือท่อน Hook ก็เปลี่ยนมาเป็นคีย์ B
และก็จบท่อน Hook ด้วยการส่งกลับเข้ามาอยู่ในคีย์ Eb เหมือนเดิม


การ Modulation ในบทเพลงจะช่วยทำให้เพลงนั้นมีสีสันมากขึ้น
กว่าการที่เพลงวนอยู่ในคอร์ดเดิม ๆของคีย์หลักนั้น
ทั้งยังเป็นการแสดงออกซึ่งทักษะของผู้ประพันธ์ ในการที่จะเลือกโน๊ต-คอร์ด
เพื่อนำมาเชื่อมต่อ ระหว่างคีย์เดิมไปสู่คีย์ใหม่


ในเมืองไทยก็มีเพลงประเภทนี้อยู่ไม่น้อยครับ
แต่ที่เป็นที่รู้จัก และคุ้นหูคุ้นตากันหน่อย ก็น่าจะเป็นเพลงของคุณบอย โกสิยพงษ์
ซึ่งก็ใช้เทคนิคนี้ในการประพันธ์เพลงอยู่หลายบทเพลง


หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่าการ transpose
ซึ่งก็อาจคิดว่าน่าจะเหมือนกันกับการ Modulation
แต่จริง ๆแล้ว การ transpose นั้นเป็นเพียงแค่การทดคีย์ให้สูงขึ้นหรือต่ำลงเท่านั้น


หรืออาจจะเข้าใจให้ง่ายขึ้นว่า การ transpose คือ การเปลี่ยนคีย์ทั้งเพลง
แต่การ Modulation คือ การเปลี่ยนคีย์เพียงบางท่อนในบทเพลง
หรือเปลี่ยนคีย์วนไปเรื่อย ๆในเพลงนั้นก็ได้ เพื่อให้เพลงมีความเคลื่อนไหว มีสีสันมากขึ้นก็ได้ครับ

..............................................

[SARUN]

หรืออาจจะเข้าใจให้ง่ายขึ้นว่า การ transpose คือ การเปลี่ยนคีย์ทั้งเพลง
แต่การ Modulation คือ การเปลี่ยนคีย์เพียงบางท่อนในบทเพลง
หรือเปลี่ยนคีย์วนไปเรื่อย ๆในเพลงนั้นก็ได้ เพื่อให้เพลงมีความเคลื่อนไหว มีสีสันมากขึ้นก็ได้ครับ

..............................................

นึกถึงเพลง Blue Moon ขึ้นมาทันที
เพราะ เพลง นี้ ก็มีการเปลี่ยนคีย์เพียงบางท่อนในช่วง ท่อนแยก
จาก คีย์ C ไปเป็น คีย์ Eb แพร๊บบบ นึง

ผมนี่แหละ คนนึง ที่ยังเป็นกะเหรี่ยงบนดอยที่ใช้แต่คำว่า transpose มาตลอด
วันนี้โชคดี ที่มีน้าโฟร์คน้อย จูงลงจากดอย เลยรู้จักคำว่า Modulation

[napman]

There are quite a few songs that commissioned the "MODULATION" technique and beautifully succeeded such as "Softly as I leave you" or "Beyond the sea" and others.

But to my opinion, this technique is some kind of " 2 edges sword" that sometimes when using incorrectly can be very harmful to the audiences' ears

[SARUN]

และที่สำคัญ
very harmful สำหรับ Musicians' hands ด้วยครับ

เกิดสติหลุดไปชั่วขณะ พาวงฯ ล่ม แบบกู่ไม่กลับ เอาง่ายๆ

[Microtone]

และที่สำคัญ
very harmful สำหรับ Musicians' hands ด้วยครับ

เกิดสติหลุดไปชั่วขณะ พาวงฯ ล่ม แบบกู่ไม่กลับ เอาง่ายๆ

Funny!

พอวงล่ม อย่างไม่มีความหวังจะได้เห็นฝั่ง...เจ้าคนที่ก่อเหตุ ก็ใจเหี่ยว หางจุก......

When your ASS's on fire

You must realize

Smoke gets in your.........

[(=^^=)]

ตามเข้ามาเก็บความรู้ .. ฮับ .. บังเอิญเจอกระทู้นี้จาก อากู๋ เลยสมัครเป็นสมาชิกซะเลย ... ขอคาราวะทุกท่านครับ .. ^^

[Webmaster]

ตามมาต้อนรับครับ
ว่าแต่ชื่ออะไรเอ่ย เหมือนโดเรมอน ครับ

[.::.pOoH.::.]

(=O^^O=)