พอดีเพิ่งเข้ามาอ่าน...อืมมม พออ่านแล้วรู้สึกว่า ตัวผมด้อยค่าขึ้นมาทันที...ด้วยประโยคนี้
แต่ผมไม่ได้สนับสนุนการเล่นมั่วปาหี่กายกรรม ไร้คุณภาพไร้ยางอายในการถ่ายทอดรสนิยม คนพวกนี้เหมือนยิ่งเล่นยิ่งมาดูถูก หรือประจานตัวเองกันออกมาเรื่อยๆ ที่น่าขำกว่านั้นคือก็หลอกลวงแหกตาได้เฉพาะคนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ รสนิยมวิสัยทัศน์ต่ำ เป็นผู้ด้อยโอกาส .....................
ผมไม่ได้จบอะไรเกี่ยวกับดนตรีเลยแม้แต่น้อย แค่เดินตามหัวใจ ที่อยากจะเป็น เมื่อก่อนผมเป็นคนจนดิ้นรนด้วยตัวเองอดมื้อกินมื้อ ส่งตัวเองจนจบ (ที่ไม่เกี่ยวกับดนตรีเลย)เล่นดนตรีเพื่อเอาชนะตัวเองไม่เคยคิดจะเอาชนะใครหรือเก่งกว่าใคร อ่านโน๊ตก็ไม่ออก รู้แต่ว่าเสียงแบบนี้มันเพราะดีก็เล่นมันไป ไม่เคยคิดตั้งตัวว่าเป็นสุดยอด หรืออันใดทั้งสิ้น....ใช่ผมอาจจะร้อนตัว ในประโยคนั้น อาจเป็นเพราะว่าผมไม่มีความรู้ หรือใบกระดาษใดๆ มันทำให้ผมได้นึกถึงทุกครั้งที่ไปร่วมงานกับนักดนตรีมีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ จะมีคำถามแรกเลยว่า "คุณเรียนจบดนตรีที่ไหนมา"และผมตอบ พวกเค้าเหล่านั้นจะมองผมเสมือนดั่ง คนที่ไม่มีชื่อ ไม่มีนามสกุล และไม่มีอะไรที่จะอยากสนทนาร่วมอีกต่อไป และเชื่อมั๊ยที่หลายๆคนเรียกคำนำหน้าผมว่าอาจารย์ ผมไม่อยากได้ยินเลย เพราะมันไม่คู่ควรกับชื่อเรียกนำหน้าเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
มีเพื่อนๆ พี่ๆและน้องๆถามว่าทำไมไม่ออกอัลบั้มล่ะ???เพราะอะไรรู้มั๊ย เพราะว่าผมถูคนด่าเสมอว่ามั่ว....มันทำให้ผมต้องหยุดคิดและค่อนข้างสับสน เคยเหมือนกันที่ได้ยินที่ร้าน ปารค์ ลูกค้าที่ป็นนักศึกษาที่มานั่งแล้วคุยกันแล้วนินทา "ไอ้ตู่" ว่ามั่ว เล่นแบบไม่สนใจความถูกต้อง ซาวด์เน่า+ดัง ใส่ เอฟเฟ็คจนเล๊ะ.. และที่น่าเศร้าที่สุด ได้ยินว่า แม่งเล่นเพลงไทยด้วย แล้วก็ชวนกันออกจากร้านไปที่ร้านอื่นแถวอนุสาวรีย์ที่เล่นเพลงผรั่งล้วน ....และมีอีกมากมายที่ได้ยินมาจากคนอื่น...ที่สถาปณาตนว่าเป็นผู้ที่เจริญแล้ว ด้วยว่าเป็นผู้มีคุณวุติ
วิธีเดินทางของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แต่จุดหมายเดียวกัน เดินอ้อม เดินตรง หรือแบบทางลัดก้าวกระโดด แต่สุดท้ายแล้วมันก็ถึงที่หมายเหมือนกัน เว้นแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น และคำว่าถูกต้องนั่นคือต้องปฎิบัติตามจารีตนิยมเช่นนั้นเองหรือ ในการที่เราจะเดินไปให้ถึงปลายทางด้วยความตั้งใจมุ่งมั่น และทำในสิ่งที่ตนเองรัก...
--------พูดแทนในฐานะ คนรักดนตรีคนหนึ่งและไม่มีความรู้ทางด้านดนตรีเลย----