เจ้าผีเสื้อ - สองวัย

[Naris]

กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์ หรือน้าต้อม วงสองวัย
เพลงเจ้าผีเสื้อ ของวงดนตรี สองวัย



โอ้....โอ....เจ้าผีเสื้อเอย ก่อนเคยถลาเล่นลม

แทรกแซมแกมพันธุ์ไม้ชวนชม

หนอลมพาเจ้าไปแห่งใด หนอลมพาเจ้าไปแห่งใด

ใครเล่าใจร้ายบึ้งตึง

เด็ดดึงฉีกทิ้งปีกงาม เด็ดดึงฉีกทิ้งปีกงาม

ข้าอยากจะถามใครนะทำเจ้าเอย

ข้าอยากจะถามใครนะทำเจ้าเอย

---

ปิดฉากศิลปิน(เพื่อ)เด็ก "ต้อม สองวัย"



Uploaded with ImageShack.us

ความอาลัยนักร้องรุ่นใหญ่ของวงดนตรี "สุนทราภรณ์" เจ้าของเสียงดุเหว่ากังวานอย่าง "ศรีสุดา รัชตะวรรณ" ยังไม่ทันจาง คนดนตรีบ้านเราก็ต้องมาลาโลกนี้ไปอีกหนึ่ง

คราวนี้เป็น "กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์" หรือ "น้าต้อม" ของน้องๆ หนูๆ หรือ "ต้อม สองวัย" ในหมู่ของเพื่อนฝูงแวดวงคนดนตรี
............
"โอ้...โอ...เจ้าผีเสื้อเอย ก่อนเคยถลาเล่นลม

แทรกแซมแกมพันธุ์ไม้ชวนชม หนอลมพาเจ้าไปแห่งใด หนอลมพาเจ้าไปแห่งใด

ใครเล่าใจร้ายบึ้งตึง เด็ดดึงฉีกทิ้งปีกงาม เด็ดดึงฉีกทิ้งปีกงาม

ข้าอยากจะถามใครนะทำเจ้าเอย ข้าอยากจะถามใครนะทำเจ้าเอย ..."

บทเพลงใสๆ ที่ชื่อ "เจ้าผีเสื้อเอย" ซึ่งแม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ทว่าความงดงามของภาษาและเนื้อหาของความบริสุทธิ์ก็ยังคงดังก้องอยู่ในจิตใจของเด็กๆ และผู้ใหญ่หลายต่อหลายคน...

ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ใครจะคิดบ้างว่าการร่วมเล่นดนตรีด้วยกันของคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในระหว่างบุคลิกกับเพลงที่ร้อง ของ "ต้อม คุณกิติพงษ์ ขันธกาญจน์" และ "วี คุณวีระศักดิ์ ขุขันธิน" ในงาน ?วันดอกรักบาน? วันเด็กแห่งชาติเดือนมกราคม ปี 2522 ณ เวทีหอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปากร(วิทยาเขตวังท่าพระ)จะก่อให้เกิดกลุ่มคนดนตรีซึ่งแม้จะไม่โด่งดังอะไรมากนักแต่ยิ่งใหญ่เหลือเกินในคุณค่าอย่าง "สองวัย" ขึ้นมา



Uploaded with ImageShack.us


"สองวัย" เป็นวงเฉพาะกิจไม่มีที่เล่นประจำ ซึ่งนอกจาก 2 ผู้ก่อตั้งดังกล่าวแล้วยังมีสมาชิกตัวเล็กๆ อีกหลายคนส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ จากรายการสโมสรผึ้งน้อย อาทิ อ้อย เปรมสิณี เอียดเอื้อ หรือ อ้อย วงกะท้อน, นุช ปิยะนุช บุญประคอง, โอ๋ ศุภิสรา เอียดเอื้อ, น้อย สมพิศ ศิลปวานนท์, มุก มุกดา ศิลปวานนท์

แม้จะมีผลงานเพลงที่มีการบันทึกเสียงอย่างเป็นทางการออกมาเพียง 3 ชุด คือ "เจ้าผีเสื้อเอย" "กระแตตื่นเช้า" (ชุดนี้ได้ "ซู ระพินทร์ พุทธิชาติ" (น้าซู วงซูซู) มาเข้าร่วม) และชุดที่ 3 "นาฬิกา" แต่หลายบทเพลงล้วนแล้วแต่อยู่ในความทรงจำของเด็กๆ ในยุคสมัยนั้นเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น เพลงเจ้าผีเสื้อเอย, ลูกหมูใส่รองเท้า, คิดถึงกันบ้างนะ, สะพานสายรุ้ง, ปลูกดอกไม้, คิดถึงบึงหญ้าป่าใหญ่ , แมงมุม สะพานสายรุ้ง แมลงปอปีกใส



ความเป็นสองวัยไม่ได้ตายไปกับอดีต แม้สมาชิกของวงจะเติบโตและมีหน้าที่การงานอื่นๆ ทว่าอุดมการณ์และความงามอันบริสุทธิ์ของบทเพลงก็ได้ถ่ายทอดมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ปูน้อยค่อยเดิน บทเพลงของเด็กหญิงเด็กชาย สมาชิกลูกหลานเพื่อนพ้องของสองวัย เป็นอัลบั้มเพลงเด็กที่มีคุณค่าต่อความฝันและจินตนาการของเด็กยุคใหม่ และสะท้อนหัวใจใสซื่อของเด็กๆ ได้อย่างงดงาม มีบทเพลงที่น่ารักอย่าง จักรยาน, ยีราฟคอยาว, รักหนอนน้อย, บ้านของ ช้าง จดหมายถึงพ่อ ฯลฯ โดยทุกอย่างกำเนิดภายใต้การสร้างสรรค์ ควบคุม ดูแลของต้อม

หลังพักจากงานเพลงในนามของสองวัยต้อมเริ่มทำงานเดี่ยวของตนเองในชื่อชุดว่า ?เงา? มีเพลงอย่าง ค่ำคืนนี้เงียบเหงา, น้ำค้าง, นางนวล, กลางสายลม ฯลฯ ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงอุดมคติในการทำงานของชายคนนี้ได้อย่างชัดเจน เรื่อยมาถึงงานอัลบั้ม เงา 2 (หมาป่าเฒ่ากลางเมืองใหญ่) และ เงา 3 (อันดามันยิปซี) ที่ทิ้งระยะห่างมาจากชุดแรกยาวนานกว่า 20 ปีเลยทีเดียว

ไม่ใช่เพียงแค่งานเพลงเท่านั้น หากแต่งานศิลปะในแขนงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีที่โด่งดังในอดีต ตั้งแต่สโมสรผึ้งน้อย บัณฑิต น้อย ยิ้มเยอะแยะ ละครหุ่นเจ้าขุนทอง(ผลพวงมาจากการที่เขาสัญจรเล่นละครหุ่นทั่วประเทศญี่ปุ่น) เห็ดหรรษา ทางไอทีวี รวมทั้ง นิตยสาร-หนังสือ ละครหุ่น ที่มาจากกำลังความคิด ผลิตจากจินตนาการของต้อมล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นถึงความงามอันบริสุทธิ์ ความเป็นห่วงเป็นใยและให้การให้ความสำคัญกับชีวิตน้อยๆ ที่จะเติบโตขึ้นมาได้เป็นอย่างดี

2 ปีที่ผ่านมา สุขภาพของศิลปินเพื่อเด็กคนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ อันเนื่องมาจากโรคเป็นโรคลูคีเมีย แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังทำงานเพื่อสังคมอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กๆ รวมถึงการใช้ห้องบันทึกเสียงของตนเองช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยจะมีงบประมาณทำงานเพลง(ส่วนมากจะเป็นเพลงใต้ดิน)ก่อนที่ในระยะหลังๆ อาการของเขาจะเริ่มทรุดลงถึงขนาดที่ไม่สามารถไปร่วมคอนเสิร์ต "คิดถึงสองวัย" ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

หลังสุดต้อมเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.ก่อนจะจบชีวิตด้วยอาการเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบและไตวายในช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคม 2548

"อยากบอกว่าน้าต้อมเป็นคนที่น่ารักที่สุด..." หงษ์จร เสน่ห์งามเจริญ นักศิลปะชื่อดังพูดถึงเพื่อนสนิทผู้จากไป

"น้าต้อมเป็นศิลปิน มีจิตใจโอบโอ้มอารีแก่ญาติมิตรสหายพี่น้องทุกคน โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่เป็นเยาวชนความหวังของชาติ ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่อยู่ในสลัมหรือเด็กด้อยโอกาสน้าต้อมก็เข้าไปช่วยเหลือ เข้าไปให้กำลังใจให้ทุกคนมีความหวังในการเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ล่าสุดที่เกิดเหตุการณ์สึนามิที่ 3 จังหวัดภาคใต้น้าต้อมยังได้ลงไปเยี่ยมให้กำลังใจเด็กๆ ด้วย"

"น้าต้อมทำงานเพื่อสังคมตลอดทุกงานไม่ว่าจะเป็นงานที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ศิลปะ น้าต้อมเข้าไปช่วยทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่สบาย นอกจากงานไหนที่น้าต้อมป่วยมากถึงขนาดต้องนอนในโรงพยาบาลเท่านั้นที่น้าต้อมไม่ไป เป็นคนที่เวลาทำงานแล้วไม่หวังผลให้กับตัวเอง เป็นคนที่ให้น่ะครับ มีความจริงใจ เป็นคนที่บริสุทธิ์จริงๆ เป็นสุภาพบุรุษมาก เป็นที่รักของเพื่อนๆ ทุกคน"

"ซึ่งการจากไปของน้าต้อมก็ทำให้เพื่อนๆ ได้มานั่งคิดในสิ่งที่แกทำกันมากขึ้น ว่าแกมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมตรงนี้สูงมาก เราคิดว่าอยากสานฝันของน้าต้อมตรงนี้ต่อไปครับ"
..........
ศพของ " "กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์" ตั้งสวดพระอภิธรรมอยู่ที่ วัดวัดชลประทาน รังสฤษฎ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ศาลา 7 และจะมีการฌาปนกิจใน เวลา 17.00 น. ของวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2548