เมืองไทยจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้ว

[pood]

นโยบายพลังงานในบ้านเราเขาชอบคิดกันสั้นๆง่ายๆครับ อะไรที่ฝรั่งทำมันก็ดีไปซะหมดโดยที่ไม่เคยนึกถึงข้อใด้เปรียบเสียเปรียบของเมืองไทยเมื่อเทียบกับเมืองฝรั่ง บ้านเรานั้นอุดมสมบูรณ์ในด้านเกตรกรรม ปลูกอะไรก็โตเร็วเพราะแดดดีและน้ำมีเหลือเฟือ แต่เรากลับตามกันฝรั่งโดยไม่เคยดูตาม้าตาเรือและไม่เคยคิดถึงอนาคตของลูกหลานไทย

พวกที่สนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์มักตีฆ้องร้องเป่าว่า fossil fuel นั้นมันแพงขึ้นทุกวันและกำลังจะหมดไปจากโลก ดังนั้นเราควรหันมาพึ่งพลังงานนิวเคลียร์แทน เรื่องนี้มสำหรับบางประเทศก็น่าทำถ้าคุณมีเหมือง uranium อยู่ในหลังบ้านคุณแต่เมืองไทยนั้นไม่มีแม้แต่กรัมเดียว ลองมาดูว่าใครมี uranium กันดีกว่าครับ

#1 Australia: 1,074,000 tonnes
# 2 Kazakhstan: 622,000 tonnes
# 3 Canada: 439,000 tonnes
# 4 South Africa: 298,000 tonnes
# 5 Namibia: 213,000 tonnes
# 6 Russia: 158,000 tonnes
# 7 Brazil: 143,000 tonnes
# 8 United States: 102,000 tonnes
# 9 Uzbekistan: 93,000 tonnes

ตอนนี้คนไทยก็กำลังจะเป็นกบในนิทาน "กบเลือกนาย" คือกำลังเปลี่ยนจากการเป็นขี้ข้าอาหรับมาเป็นขี้ข้าฝรั่งแทนไงครับ ยูเรเนี่ยมนี่มันหายากแสนยากดังนั้นถ้ามีความต้องการเยอะคุณคิดหรือว่าฝรั่งมันจะไม่รวมหัวกันขึ้นราคา ถ้า nuclear power มันดีจริงแล้วทำไม Australia ซึ่งมี uranium reserve เกือบหนึ่งในสี่ของทั้งโลกถึงไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แม้แต่โรงเดียว

ถ้าพวกบริษัทที่ผลิตไฟฟ้าเอาสตางค์ที่ใช้ไปซื้อเชื้อเพลิงมาให้ชาวไร่ชาวนาไทยเป็นบางส่วนเราก็จะสามารถแก้ปัญหาด้านความยากจนและด้านพลังงานใด้พร้อมๆกัน ทุกๆปีในแปคจังหวัดภาคเหนือมีการเผาต้นข้าวโฑด ซังข้าวโพด ฟางข้าวและพืชอื่นๆทิ้งปีละ 42 ล้านตันจนเกิดมลพิษทั่วภาคเหนือปีละสี่เดือน ถ้ามีคนรับซื้อขยะการเกษตรพวกนี้เอามาทำไฟฟ้าก็สามารถผลิตไฟใด้ไม่ต่ำกว่า 4,000 MW หรือเท่ากับ14% ของกำลังผลิตทั้งประเทศหรือเท่ากับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่สองโรง ถ้ารับซื้อในราคาตันละ 400 บาทก็จะทำให้เกษตรกรในแปดจังหวัดนี้มีรายใด้เพิ่มขึ้นปีละ 16,800 ล้านบาทครับโดยรํฐบาลไม่ต้องใช้เงินงบประมาณแม้แต่บาทเดียว นี่ผมพูดถึงแต่เรื่องขยะการเกษตรเท่านั้นนะครับ

ผมทำเรื่องนี้มาสองปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเรื่องแบบนี้นักการเมืองไม่ใด้ประโยขน์อะไรครับ