บังเอิญผมเป็นคนชอบกีต้าร์ archtop มากเลยสงสัยว่าถ้าต้องการกีต้าร์ที่เล่นใด้ทั้ง acoustic และ electric ทำไมถึงใด้เจาะจง Gibson 2 รุ่นนี้ครับ
ทั้งสองรุ่นราคามือหนึ่งเกินสองแสน ถ้ามีคนขายมือสองสภาพสวยๆก็คงจะไม่ต่ำกว่าแสนห้าครับ
ถ้าต้องการเสียง acoustic นี่กีต้าร์อะไรก็เล่นเปล่าๆใด้ครับ ขนาดพี่ยอดเยี่ยมเคยหยิบ Yamaha Silent guitar มาเล่นในห้องตอนดึกยังโดนห้องข้างๆโทรฯมาด่าว่าหนวกหูเลย (เรื่องจริงครับ) แต่กีต้าร์ archtop ที่เล่นเสียงเปล่าดังกว่ากีต้าร์โปร่งนี้สมัยนี้หาไม่ง่ายแล้วครับเพราะกีต้าร์โปร่งสมัยนี้ก็เสียงดังกว่าเมื่อ 70 ปีก่อนเยอะ (แต่ก็ยังมีนะครับ)
กีต้าร์ archtop นั้นแบ่งเป็นสองประเภท ประเภทที่มีขายทั่วไปตอนนี้เขาออกแบบมาให้เล่นเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าอย่างเดียวและต้องการตัดปัญหา feedback ให้มากที่สุด กีต้าร์ประเภทนี้เสียงเปล่าก็ดังครับแต่คุณภาพเสียงไม่ค่อยจะใด้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ ส่วนอีกประเภทเป็นกีต้าร์ที่ย้อนยุคไปเจ็ดสิบกว่าปีสมัยที่กีต้าร์ไฟฟ้ายังไม่เกิด กีต้าร์ประเภทนี้เสียงเปล่าดังกว่ากีต้าร์โปร่งยุคเดียวกันเยอะเพราะเขาเอาไว้เล่นกับ jazz band และ dance band ที่มีเครื่องเป่า ตอนหลังก็มีการเอา floating pickup ที่ไม่สัมผัสกับไม้หน้ามาใส่เป็น option ในบางรุ่น
ดังนั้นถ้าต้องการเสียง acoustic ดีๆ กีต้าร์ archtop ตัวนั้นจะต้องไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้
1. Laminated top ถ้าไม้หน้าไม่ใช่ไม้ solid ก็ลืมใด้เลย ข้อนี้ทั้งสองรุ่นที่ตามหาสอบผ่านครับ
2. Thin body พวกลำตัวบางนี่เขาทำให้เล่นสบายและลด feedback ครับแต่เสียงเบสหายหมดเหมือนกันถ้าไม่เสียบแอมป์ ข้อนี้ Byrdland สอบตกครับ
3. ปิ้คอัพฝัง..ถ้าเอาปิ้คอัพไปฝังไว้กับไม้หน้าไม้มันก็สั่นน้อยลง ยิ่งถ้าฝังลงไปสองตัวยิ่งแย่เลย ข้อนี้สอบตกทั้งคู่เหมือนกันครับ
(L-5 รุ่น West Montgomery ก็ใช้ปิ้คอัพฝังนะครับ)
ดังนั้นถ้าต้องการเสียงออกแอมป์แบบแจ้ซนี่สองตัวที่ตามหาน่าจะตอบสนองความต้องการใด้ 100% ครับแต่ถ้าต้องการเสียงเปล่าดังและเพราะด้วยนี่ก็เหนื่อยหน่อยครับ ตอนนี้ผมมี archtop ประเภทนี้เหลืออยุ่ที่บ้านแค่สามตัวและยังไม่คิดจะขายแต่ถ้าอยากลองเพื่อเก็บข้อมูลผมก็ยินดีต้อนรับครับ
เมื่อกี้ลองค้นดูว่ากีต้าร์ที่เสียงเปล่าเพราะและยังมีขายตอนนี้มีอยู่อย่างน้อยสามรุ่นครับ
ขอให้สมหวังนะครับ