(29-05-2011, 22:47)karn Wrote: ผมเคยคิดแบบน้าครับว่าถ้าไม่ได้เล่นนานๆควรผ่อนสาย คอจะได้ไม่โก่ง
เคยทำกับกีต้าร์ที่เซ็ตอัพมาดีแล้ว แอ็คชั่นไม่สูงเกินไป เล่นง่าย ปรากฏว่า
หลังจากผ่อนสายไว้เดือนกว่าๆ พอตั้งสายเพื่อจะเอามาเล่นใหม่ สายมันตีเฟร็ตครับ (fret buzz)
เพราะเซ็ตอัพตอนกีต้าร์มีแรงดึงของสายอยู่ แต่ผ่อนแรงดึงไว้นาน ต้องเล่นสักพักใหญ่ๆเลยครับ ถึงจะดีขึ้น
เลยลองไม่คลายสายเมื่อเล่นเสร็จแล้วคอยเช็คแอ็คชั่นเป็นระยะๆอยู่เป็นปี ก็ไม่พบว่าคอโก่งหรือคอยกแต่อย่างใด
ที่น่าห่วงกว่าคอยกก็คือท้องป่องครับ เพราะทำให้บริดจ์ยกตัวสูงขึ้น ระยะสายก็สูงขึ้นเหมือนคอโก่งหรือคอยก
ตัวที่ทำให้ท้องป่องก็คือความชื้นที่ซึมเข้าไปในไม้หน้า ทำให้ไม้หน้าบวมและป่องขึ้นตามแรงดึงของสาย
ดังนั้นเก็บกีต้าร์ไว้ในที่ความชื้นไม่สูงหรือต่ำเกินไป และอุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากจนเกินไป(มีผลกับกาว)จะดีกว่าครับ
สำหรับกีต้าร์ที่ไม้แห้งดีแล้ว ถ้าไม่ได้เล่นนานๆผ่อนสายแค่ 1 โทนก็พอแล้วครับ
ถ้าคลายสายออกหมดบ่อยๆก็เหมือนกับไปโยกคอและดึงไม้หน้าให้ขยับไปมาครับ
จริงเหรอน้า!!!??? วันนั้นก็ไม่ได้นอนตากน้ำค้างนี่นา???
แหะ ๆ ขออนุญาตล้อเล่นนะครับ
เรื่องคอจะโก่ง จะงอ และท้อง(กีต้าร์)จะป่อง มันเกิดขึ้นได้เพราะว่ากีต้าร์มันเป็นไม้ครับ เป็นได้ทุกยี่ห้อตั้งแต่ตัวละสองพันถึงตัวละหลายแสน
เก็บดีก็แล้ว เก็บเลวก็แล้ว ตัวที่คิดว่าเก็บดีบางครั้งไม่ดีกว่าตัวที่เก็บเลว
ผมโทษมั่วๆว่ามันอยู่ที่ไม้ อุณหภูมิ แรงกระทำ ผสมผลกรรมแต่ชาติปางก่อนอีกเล็กน้อย
คราวนี้มาตอบเรื่องสายบ้างตอบ:
เรื่องสายผมว่ามันเริ่มเสื่อมตั้งแต่เปิดออกใช้งานละครับ
แต่จะเสื่อมเร็วหรือช้าก็อยู่ที่การใช้งาน ส่วนเหตุของการ"เร่งความเสื่อม"มีเยอะครับ
ถ้าว่ากันที่เรื่องของเสียง ที่ชัดเจนและพบว่าเสื่อมเร็วที่สุดคือ การไม่ยอมเล่น(เก็บสายที่เคยเล่นแล้วเอาไว้เฉยๆ!!!)
ถ้าว่ากันที่ความคงทน ก็คงอยู่ที่วิธีเล่น วิธีกระทำ ย่ำยี ดึง ดัน กด ดูด เด้ง ดื๊บ ดี้โด๊ กับสายมากน้อยแค่ไหน (ผมเรียกกิริยาบ่างอย่างไม่ถูก ขอโทษผู้ใช้ภาษาไทยโคตรเก่งด้วยครับ)
การโชลมน้ำมันส่วนตัวพบว่า...มักเป็นที่เก็บฝุ่น และทำให้เสียงทึบ ตัน เร็วเข้าไปอีก
ผมใช้วิธีเล่นบ่อยๆ เช็ดให้แห้ง และเก็บในที่ ๆ คิดว่าเหมาะสมครับ
ป.ล."ผ่อนสาย"จะถูกปรับอัตราดอกเบี้ย และถ้ายังทำบ่อยๆ และถูกลดความน่าเชื่อถือไปเป็นลูกค้าชั้นไพร่ครับ