ยังตัดสินใมใจเลือกไม่ได้!!!

[cort]

แนะนำครับว่าไปดูทุกตัวครับ และขอแยกออกเป็นฟังค์ชั่นไปนะครับ
อย่างแรก ดูตัวและขนาด ก่อน เมื่อได้แล้วก็พุ่งไปหยิบมาครับ อย่างพึ่งลองเสียง แด๋วจะเคลิ้ม

อย่างที่สองดูงานประกอบครับ ดูคอ เพราะเป็นส่วนที่มองเห็นยาก เพ่งๆ ดูรอยต่อคอด้านหลังว่าเนียนเรียบ มีการเก็บงานดีหรือไม่ สีหรือ เคลือบมันแตกหรือป่าว อีกกรณีหนึ่งคือการเก็บงาน บางทีมันเรียบเนียน แต่มันมีช่องว่างระหว่างกัน ช่างก็เก็บงานแบบใช้กาวอัดเข้าไป ซึ่งจะทำให้เราเห็นกาวแข็งเป็นแท่งๆ เหมือนแซนวิช ที่มีไม้อยู่ด้านบนมีกาวอยู่ตรงกลางประกบด้วยไม่หลัง อันี้ก็ให้ดูดีๆ

พลิกมาด้านหน้า ดูตรง ฟิงเกอร์บอร์ด ที่มันพาดตัวยาวจากคอ มาถึงตัวกีตาร์ ตรงนี้ก็ต้องดูครับ เพราะเป็นการนำความสันสะเทือนมาที่ตัวบอดี๊ ตรงนี้มีสองด้านให้ดูครับ ด้านบนคือสายหก ให้มองลงไปว่า งานไม้มันควรจะแนบให้แทบจะกลายเป็นชิ้นเดียวกัน ถ้ามีรอยกาวชั้นเป็นแซนวิช อันนี้ไม่ค่อยดี จากนั้นพลิกมาดูด้านล่าง ตรงสายหนึ่ง (บางคนเรียกีตาร์หน้า บี) คือเอาไม้หน้าพร้อมรู ซาร์ดโฮล์ เข้าหาตัว แล้วส่องดูต่อรอยต่อคอครับ ไอ่เห่ย ของผมมันเป็นแซนวิช

ยังไม่หมดเรื่องคอนะครับ ดูด้านข้างของคอ อันนี้สำคัญมาก เพราะองศาคอเป็นเรื่องของ ระยะสูงต่ำสาย หรือที่เราเรียกกันว่า แอ๊คชั่น คือถ้าองศามาก ผมหมายถึงมันบนออกไปจากตัว ผมเรียกมันว่าคอถอยหลัง คือยิ่งถอยมากก็สามารถจะฝนแซดเดิ้นให้ต่ำได้มาก แอ๊คชั่นก็จะเตี้ยได้ใจที่เดียว แต่ถ้าน้อยก็จะมีปัญหาครับ คือฝนแซดเดิ้นจน โหลดหลบขี้ม๋าไม่พ้นแล้วมันก็ยังสูง มีอีกวิธีคือฝน สะพานสายกันเลยทีเดียว (ไม่แนะนำอย่างยิ่ง)

เรื่องคือองศาคอ และรอยต่อบริเวณคอครับ ช่างบางคนทำเอาไว้ดีครับ ปาดซะหงายหลังกันเลย แต่ช่างประกอบเอามาใส่แล้วอาจจะไม่เข้าใจหรืออย่างไรไม่ทราบ อัดกาวซะเป็นแซนวิชอีกเหมือนกัน

---

แต่แหม๋ แค่องศาครึ่งองศานี่มันมีผลทีเดียวนะครับ
สรุปในเรื่องแรกที่ต้องดูคืองานประกอบ หรืองานเข้าไม้ มันต้องไม่เป็นแซนวิช เพราะมันต้องเข้าสนิดเป็นเนื้อเดียวกันครับ ที่เหลือก็เป็นคอ ตรงนี้สำคัญมีผมต่อเสียง ผลต่อแอ๊คชั่นคระบ

ประการต่อมา เมื่อเรียบเนียนดีแล้ว ก็มาลองเล่นครับ จับทุดคอร์ดที่รู้จัก ไม่ว่าจะคอร์ดในคอร์ดนอก เอาให้หมด แล้วดูว่าบอดตรงใหน ไม่ได้อะไรนะครับคนเล่นกีตาร์มานานมันก็บอดกันได้ เพราะว่าช่องของเฟร็กมันไม่เท่ากันในกีตาร์แต่ละตัว แม้กีตาร์ตัวที่ผมว่าดีสุด มันก็นิ้วผม หูผม คุณจึงต้องสังเกตุว่า นิ้วคุณจับ F ใน จับ C ใน(แฟร็ด12) นิ้วนางนิ้วก้อย มันไปวางบนเฟร็ดหรือไม่ ลงช่องพอดีมัย เล่นเป็นเพลงจะครับ ตีจังหวะเอาก็ได้ อย่าไปจับตรงๆเชียว เพราะอย่างนั้น มันจับได้อยู่แล้ว แต่ชีวิตเราไม่ได้จับแค่ ซีใน เอาอารมณ์เล่นเพลงจับเลย วนครอ์ดไปเรื่อยๆ จะรู้ว่า เรามีจุดบอดกับตัวนี้ ถ้ามีจุดบอดให้มาค์รเอาไว้นะครับ เพราะถ้าข้อต่อๆไปแล้วมันโอ เราจำเป็นต้องปรับตัวเข้าหากีตาร์ครับ


สำหรับผมที่ชื่นชอบเล่นอุดเสียง แบบไฟฟ้า (ทั้งๆที่มันโปร่ง) แบบ อุงๆ แอ๊ก อุงๆ แอ๊ก ก็เอามาลองครับ จับคอร์ด ร๊อก แล้วก็ อุงๆ แอ๊ก ฟังซิว่า มัน อุงๆ มัย อย่างพึ่งแอ๊กนะครับ เพราะอย่างไรมันก็แอ๊ก แต่ไอ่ อุงๆ นี่มันต้อง อุงๆ นะครับ เสียงมันเหมือนไม่ได้อุด ต้องไม่อู้ๆ อุดๆ หรือ แอ๊กๆ แป๊กๆ ม่ายก็บอดไม่เลย แต่ต้อง อุงๆ แล้วถ้าจะเอามันส์ ก็ลอง อุดแบบหกสายเลย เท่าที่ลองมา สาย 1 กับ 2 มันจะบอด มันไม่เคย อุงๆ ให้ผมซะที แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครเค้าอุดกัน 6 สายหร็อก (แต่ผมชอบอ๊ะ)

อ๊ะ งานเข้าพอดี ว่าจะว่างซ๊าก หน่อย แด๋วมาต่อนะครับ
ถ้าผ่านทั้งหมด สำหรับผมก็จบ แล้ว ไม่ต้องลองออกลำโพง ถ้าเป็น Fishman แต่ถ้าเป็นตัวอื่นๆ แนะนำให้ลองครับ ถ้าจะเอาแบบ ละเอียดเลยก็ได้ วันนี้ว่าง โล่ง โดดงาน เบื่อเซร็ง ก็เอาหว่าใหนๆเราก็ไม่ทำอะไร แต่ถ้าวันนี้ชีวิตมีคุณค่าต่อคนอื่นก็ขอทำแระกัน


ขั้นแรก ปรับ ระดับวอลลุ่มให้ดับไปเลย จากนั้นเอาโทนทุ้นแหลมกลาง ทุกปุ่มที่มีให้เอาไว้ตรงกลางให้หมด ตรงนี้เพื่อเราจะหาจุดดับเสียง โดย
ดีดสา แล้วค่อยหมุน วอลลุ่มให้ดังขึ้น เราจะเห็นได้ว่า จะมีระยะดับอยู่หน่อย คือเมื่อเราหมุนที่ละนิด ใน"นิด" แรกมันยังไม่ดัง ก็ให้ไป "นิดที่สอง" แล้วก็ให้ หน่อยๆ ไปจนกว่าจะมีเสียงออกจากแอมป์ จากนั้นให้หยุดครับ ถอยปุ่มลงมาหน่อยนึง ให้มันดับ แล้ว ตีคอร์ดแรงๆ ถ้ามันยังดื้อด้านมีเสียงออกอีก ก็ให้ ลดเสียงลงมาครับ พอมันดับสนิด เราก็จะรู้ว่ามันมีระยะ บอดเสียงแค่ใหน ไอ่เห่ยของผมมีระยะนี้พอสมควรเลยทีเดียว

อันนี้เพื่อทดสอบอุปกรณ์ครับ ทดสอบเปีโซ่ด้วยว่ามีการรับความสะเทือนน้อยสุดที่จะส่งสัญญาญได้แค่ใหน หรือตัวปรีแอมป์สามารถขยายสัญญาณต่ำสุดได้แค่ใหน ที่จริงถ้าอุปกรณ์ดีๆ มันจะมีระยะนี้น้อยมากครับ หรือบางยี่ห้อไม่มีเลย แตะหน่อยก็ ดังบ้านแตก