อยากทราบเรื่องคอกีต้าร์ครับ

[pood]

Hygrometer แบบที่แถมมากับกล่องหรือแบบที่ขายกันอันละไม่กี่บาทมันเป็นของเด็กเล่นทั้งนั้นครับ ถ้าอยู่ในบริเวณที่ Rh ต่ำกว่า 50% มันก็พอวัดใด้แต่ถ้าเกิน 50-60% มันเริ่มเพี้ยนแน่นอนครับไม่ว่าจะเป็น analog หรือ digital

ขนาด hygrometer ของ Planet Wave ที่ฝรั่งเขาชมว่าดีนักดีหนามาอยู่เมืองไทยยังเดี้ยงเลยครับ

http://www.elderly.com/accessories/items/HCS.htm



Hygrometer ราคาถูกที่เที่ยงตรงที่สุดสำหรับอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเราคือ wet & dry hygrometer ครับ



อย่างที่บ้านผมใช้ wet and dry hygrometer อันเดียวพอครับ ซื้อใด้ที่ร้านขายอุปกรณ์วิทยาศาสตร์หรือจะทำเองก็ยังใด้

http://school.obec.go.th/msp/weather9.htm

ถ้าเก็บกีต้าร์ไว้ในกล่อง hard case แบบที่ไม่มี seal กันอากาศรั่ว ความชื้นจะถ่ายทอดเข้าไปในกล่องใด้ช้าลงครับแต่ถ้าความชื้นด้านนอกไม่ลดลงในเวลาสามสี่ชั่วโมงความชื้นในกล่องก็จะขึ้นตาม คราวนี้พอความชื้นด้านนอกลดความชื้นในกล่องก็จะมากกว่าความชื้นด้านนอกอยู่หลายชั่วโมงเหมือนกันครับ สรุปว่ากล่องนั้นไม่ใด้ช่วยอะไรเลยเรื่องความชื้นแต่ช่วยใด้ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแบบเฉียบพลันครับ

เรื่องความชื้นสัมพัทธ์ (RH) นี่ยังมีหลายคนไม่เข้าใจครับว่ามันมีผลอย่างไร ความจริงแล้วความชื้นที่ทำให้ไม้ยึดหดตัวมันไม่ใช่ relative humidity แต่เป็น absolute humidity ครับ

Absolute humidity คือปริมาณของไอน้ำในอากาศ (g/kg) ในขณะที่ relative humidity คือเปอร์เซ็นต์ของไอน้ำในอากาศเมื่อเทียบกับจุดน้ำค้าง (dew point) ณ.อุณภูมิที่กำหนด




เราจะวัดความชื้นสัมพัทธ์กันไปทำไม

ความจริงแล้วความชื้นสัมพัทธ์มันเป็นแค่เปอร์เซนต์ของไอน้ำนะครับแต่กีต้าร์มันไม่สนใจหรอกเรื่องเปอร์เซนต์เพราะมันคิดเลขไม่เป็น มันสนใจแต่เรื่อง absolute humidity หรือปริมาณไอน้ำในอากาศเท่านั้น

ถ้ากลับไปดู graph ข้างบน สมมุติว่า Martin เขาผลิตกีต้าร์ในห้องควบคุมความชื้นที่ Rh = 40% ที่อุณหภูมิ 20 องศา ดังนั้นในโรงงานจะมีปริมาณไอน้ำในอากาศอยู่ = 5.6 gm/kg แต่พอมาอยู่ที่เมืองไทยซึ่งอุณหภูมิ 30 องศาและเราควบคุม Rh ไว้ที่ 40% เหมือนกัน ปริมาณไอน้ำในบ้านเราจะอยู่ที่ 11.2 gm/kg ครับหรือมากกว่าไอน้ำตอนเขาทำกีต้าร์สองเท่าหรือเท่ากับ Rh 80% ที่ 20 องศา

ดังนั้นถ้าจะไม่ให้กีต้าร์บวมการควบคุม Rh อย่างเดียวไม่พอหรอกครับ ผมใช้วิธีควบคุมอยู่สองวิธีคือ

1. กีต้าร์ที่คอนโดผมเปิดแอร์ให้มันวันละ 10 ชั่วโมงครับ การเปิดแอร์นั้นเป็นการลด absolute humidity ที่ใด้ผลที่สุด ได้ผลมากกว่าการใช้ dehumidifier ซึ่งความจริงมันก็คือแอร์นั่นแหละแต่เขาเอา evaporator กับ condenser ไปอยู่รวมกันเท่านั้นมันเลยไม่ทำให้อุณหภูมิลด

2. กีต้าร์ในตู้ที่บ้านที่ไม่ใด้เปิดแอร์ผมใช้ถุง silica gel ขนาด 100 กรัมใส่ไว้ในกล่องและเอาเข้าเตาอบไล่ความชื้นทุกๆสองอาทิตย์

ผมเคยเป็นเจ้าของกีต้าร์มาแล้วเกินสามร้อยตัวยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องท้องป่องเลยแม้แต่ตัวเดียวครับ