1. เสียงกีต้าร์กับราคาของมันเกี่ยวกันไหม
ข้อ 1 จากประสพการณ์ที่เล่นกีต้าร์ของชาวบ้าน และในงานวันนั้น
ไม่เกียว ในเชิง ลักษณะเด่นของเสียงที่อยากได้เอามาใช้งาน เพราะเท่าที่ได้เล่นในวันนั้น ผมจะพยามนึกให้ออกว่าแต่ละตัวที่ได้เล่นไป เหมาะจะใช้งานรูปแบบไหนออกได้ทั้งหมด ถามว่า รังเกียจตัวไหน ยังตอบได้ง่ายกว่า ว่า.....ไม่มี!!
แต่ถ้ามองในเชิงคุณภาพของเสียงที่ได้ ยอมรับว่า ราคาเป็นดัชนีหนึ่งที่ช่วยชี้วัดได้ในการที่จะตัดสินใจลงทุน
แต่สิ่งที่พบในงาน Gibson วันนั้น "เสียงคล้ายกันมาก" ในแต่ละรุ่นที่นำมาเปรียบเทียบกัน ดังนั้นถ้าใครจะจ่ายแพงๆเพื่อให้ได้มา ก็ต้องพอใจในคุณค่าอื่นๆที่มีติดตัวกีต้าร์มาด้วย นอกเหนือจากคุณภาพเสียง เพียงอย่างเดียว!!!
ถ้าจะหาเสียงแบบGibson J ก็ต้องลงทุนซื้อ Gibson J
ถ้าจะหาเสียงแบบGibson SJ ก็ต้องลงทุนซื้อGibson SJ
อย่าไปเสียเวลาลงทุนหายี่ห้ออื่นๆมาเทียบเคียงเลย
แต่ถ้าชอบเสียงกีต้าร์ ก็ยังไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Gibson หรือ กีต้าร์แพงๆ
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
2. เล่นกีต้าร์ใหม่เอี่ยมราคาแพงระยับของคนอื่นแล้วเกร็ง
ข้อ 2 ยอมรับว่า ไม่เกร็ง!!
คงจะเป็นเพราะ 1 ไม่รู้ราคา

และ 2 รู้วิธีการเล่นกีต้าร์ยังไงให้เสียหายน้อยที่สุด
แต่จะออกแนวกังวลเสียมากกว่า กับการที่ยังไม่ คุ้นมือ
3. กีต้าร์ยิ่งแพงเสียงออกแอมป์ยิ่งห่วย
ข้อ3 ถ้าเรื่อง "เสียงห่วย" นี่หมายความถึงกีต้าร์แพงที่เสียงเบสกระแทกพุง
โดยประสพการณ์อันน้อยนิด จะรู้สึกกังวลกับกีต้าร์ all solid งออกแอมป์ในการที่จะควบคุมให้มันอั้น ให้มันออก อะไรออกมาได้บ้าง
แล้วยิ่งสไตล์ที่ เรานิยมเล่นกันในแต่ละ Meeting...ต้องเจอสถานการณ์ "บทไม่เตรียมตัว"ทั้งนั้น จึงยังพบว่าเป็นอุปสรรคและข้อจำกัดของผู้เล่นอยู่
ดังนั้น ยังไม่ค่อยเชื่อในเรื่องนี้ครับ
ข้อ 4 ไม่มีปัญหา เช่นเดียวกันกับผม ก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ....
5. " THE TONE IS IN THE FINGERS"
ข้อ5เชื่อ 100% ครับ เป็นสิ่งที่ผมจะพยายามเอามาใช้ในการแก้ปัญหาข้อ 1 2 3 และตอน "Blind Test"