Will this effect Thailand?

[SARUN]

จะมีผลต่อประเทศไทยค่อนข้างแน่นอน แต่ยังเป็นปัญหาไกลตัว
เพราะยังไม่กระทบต่อคน กทม. และคณะรัฐบาล

ถ้านับจากนี้ไปอีก 10 ปี...ผลกระทบจากเขื่อนทั้ง 5 ของจีน(น่าจะมีมากกว่านั้นอีกแต่ยังรอการก่อสร้าง)ที่ถูกสร้างมาเพื่อ การผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อสนองความต้องการภายในประเทศ และเพื่อการส่งออก ซึ่งประเทศไทย ก็น่าจะเป็นลูกค้าด้วยเช่นกัน
ผลกระทบที่น่าจะทำให้ประเทศไทย ได้รับตรงๆเลยก็คงเรื่อง น้ำเพื่อการเกษตรกรรม และภาครัฐ(รวมทั้งพรรคการเมือง)ก็จะให้ความสำคัญนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วน ผลกระทบโดยตรงต่อพันธ์ปลาและวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งโขงอาจจะยังไม่ใช้ปัญหาสำคัญอันดับต้นๆของภาครัฐ
แต่ถ้าจีน มีความคำนึงหรือให้ความสำคัญถึง ปัญหาน้ำท้ายเขื่อน และสามรถจัดการได้อย่างดี.... ปัญหานี้ก็จะเบาบางไปทันที

ช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มแนวNGO ในแต่ละประเทศลุ่มน้ำโขงก็พยามแสดงผลกระทบด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม แต่ดูเหมือน ชั่วโมงนี้ ไม่มีอะไรมาหยุดความแรงของความเป็นมหาอำนาจ ของจีนได้เลยจริงๆ

หนทางที่ภาครัฐของประเทศไทยจะทำได้ก็คงจะต้อง
1.ใช้กลไกทางด้านรัฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์เพื่อร่วมมือกับประเทศพม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ให้สนับสนุนนโยบายถ่วงดุลและการคุมอำนาจต่อรองบนแม่น้ำโขงของจีน
2.เตรียมจัดทำนโยบายด้านการค้ากับจีนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะแผนยุทธศาสตร์ด้าน Logistics เพื่อเตรียมรองรับแผนที่จีนมุ่งจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ซึ่งการส่งสินค้าจากจีนสู่ประเทศอื่นในภูมิภาค ไทยก็น่าจะได้ประโยชน์บ้างจากการเป็นประเทศทางผ่าน
3.ภาครัฐควรตั้งองค์กรที่บริหารจัดการในเรื่องกิจการที่เกี่ยวกับแม่น้ำโขง รวมทั้งติดตามจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนในจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปรียบเทียบปริมาณน้ำ ทรัพยากรทางน้ำ และ ความเสียหายอื่นๆ ในแต่ละปี ว่ามีความสัมพันธ์กับการสร้างเขื่อนเพียงใด เพื่อคาดการณ์เหตุการณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และเตรียมพร้อมตั้งรับกับปัญหา (ตั้งแต่จำความได้ รัฐบาลไทยเก่งในด้านการแก้ไขปัญหา แต่ยังไม่ค่อยเชื่อใจกับฝีมือรัฐบาลในการป้องกันและวางแผนกับปัญหาที่กำลังจะเกิด)

ณ วันนี้ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าภาครัฐ ทำอะไรไปหรือยัง และถึงไหนแล้ว เพราะไม่ได้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง (หรือ การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนจากภาครัฐ น้อยไป )
หรือมันยังเป็นปัญหาที่ยังไม่เร่งด่วนเท่า เรื่อง #$*^%*(&)_%(**%^%#$)_+_% ที่ภาครัฐต้องเร่งสะสางก่อน
เพราะ อีกราวๆ 10 ปี ผลกระทบมันจึงจะเกิดอย่างชัดเจน ....มันจึงยังเป็นวาระปัญหาแห่งชาติไกลตัว(พรรค)