ปีที่แล้วล้นเขื่อน ปีนี้แห้งเขื่อน ปีหน้า..... ปีต่อไป.....
------------------------------------------------------------------
กาฬสินธุ์ ประกาศให้เกษตรกรยุติการทำนาปรังและการประมงทุกประเภท เหตุเขื่อนลำปาวน้ำแล้งรุนแรงในรอบ 20 ปี คาดกระทบเศรษฐกิจภาพรวมกว่าพันล้าน
http://www.dailynews.co.th/thailand/161548
...17 ต.ค.55 นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเข้าติดตามสถานการณ์น้ำแล้งกับนายปิยปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังพบว่าทุกพื้นที่น้ำลดลงเหลือไม่ถึงร้อยละ 20 ไม่เฉพาะในพื้นที่ชลประทาน แต่นอกเขตชลประทานได้เกิดผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทั้งนี้เขื่อนลำปาวได้รายงานสถานการณ์น้ำเหลือเพียง 438 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 22 ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงในรอบ 20 ปี เนื่องจากน้ำฝนในปีนี้เข้าเขื่อนลำปาวเพียง 675 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 30 จากค่าเฉลี่ยในแต่ละปีกว่า 2 พันล้าน ลบ.ม.
นายสุวิทย์ กล่าวว่า เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการดำรงชีพของเกษตรกรไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการทำเกษตรกรและความจำเป็นที่ต้องสำรองน้ำเพื่อใช้ผลิตน้ำประปา จังหวัดได้ประกาศให้ เกษตรกรในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ ยุติการปลูกข้าวนาปรังและทำประมงทุกชนิด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ในส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทาน อีก 14 อำเภอ เบื้องต้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลน้ำดื่มที่จะต้องไม่ขาดแคลน และให้ประสานกับอำเภอจะเป็นผู้รายงานสรุปสถานการณ์ตามความเป็นจริง ด้วยการช่วยเหลือเร่งด่วนตามนโยบายบายของรัฐบาล
“นอกจากนี้เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาสนองนโยบายรัฐบาล ทางจังหวัดได้ตั้งวอร์รูม มีทุกหน่วยงานโดยเฉพาะหน่วยงานหลักประกอบด้วย สำนักงานชลประทานจังหวัด เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ป้องกันจังหวัด ไว้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นจุดแจกจ่ายน้ำดื่ม โดยจะบูรณาการอาชีพให้ทุกส่วนราชการสนับสนุน” รองผวจ.กาฬสินธุ์ ระบุด้วยว่า เหตุผลในการลดพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังเนื่องจาก น้ำมีไม่เพียงพอ นับจากนี้ไปอีก 7 เดือน ซึ่งจะกระทบพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรัง กว่า 350,000 ไร่ และกระทบต่อระบบการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามกว่า 5,000 บ่อ อีกทั้งยังมีพืชผักสวนครัวพืชเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลัง เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากกว่า 1 พันล้านบาท
บรรยายภาพ//นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมส่วนราชการเข้าติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ซึ่งเหลือปริมาณน้ำอยู่เพียง 438 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 22 ถือเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงสุดในรอบ 20 ปี จนทางจังหวัดต้องประกาศให้เกษตรกรหยุดทำนาปรัง หยุดเลี้ยงกุ้งและการประมงทุกชนิด เพื่อสงวนน้ำไว้เพื่อการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศ เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากกว่า 1 พันล้านบาท.