Youtube Clip from Chiangmai meeting III หนาวนี้ตี้เชียงใหม่เน่อ

[Cin]

Sound ดีมากๆครับ ฟังหน้าเวทีว่าดีแล้ว พอเป็นคลิปนี่เยี่ยมมากครับ อยากให้อธิบายระบบอัดหน่อยครับ

เห็นคำถามในโพสนี้ของน้าเล็กแล้ว แต่ยังไม่มีเวลาตอบเลย คือถ้าตอบสั้นๆก็ไม่ได้ใจความ

ในมีทติ้งที่ผ่านๆมาปกติเราใช้ระบบอัดเสียงที่ต่อออกจากมิกเซอร์ แล้วเข้ากล้องวีดีโอที่มีไลน์ Mic in แบบนี้มีข้อดีคือสะดวกเพราะได้ทั้งภาพเสียงในคราวเดียว แต่ข้อเสียคือเสียงที่ได้มักจะแข็งมาก เพราะเป็นการรับสัญญาณเสียงจากปิ๊กอัพของกีต้าร์เพียวๆ ส่วนเสียงร้องก็ขึ้นอยู่กับเอฟเฟคและความสามารถของคนคุมมิกเซอร์ ความดังเบานั้นอยู่ที่ Fader ในมิกเซอร์อย่างเดียวเลย พูดง่ายๆคือสัญญาณ Input ที่ตรงเข้ามิกเซอร์ทุกไลน์จะรวมออกมาเป็นก้อนเดียวทั้งหมด ปรับแต่งอะไรในภายหลังไม่ได้เลย ผมเองเคยพยายามผลักดันให้ใช้ไมค์จ่อกีต้าร์ร่วมในการรับเสียงจากกีต้าร์ผสมกับปิ๊กอัพในการเพิ่มความเป็นอคูสติกให้กีต้าร์หลายครั้ง เพราะเราเองถือเป็นเวปอคูสติกอันดับต้นๆ มีทติ้งแต่ละที ฟังเสียงกีต้าร์จากปิ๊กอัพล้วนๆ มันแปลกๆหูอยู่เหมือนกันนะ แต่อาจเป็นเพราะเรายังขาดอุปกรณ์ซึ่งจริงๆจัดหามาไม่ยาก แต่ที่สำคัญคือจะใช้มันยังไงต่างหาก

ในการบันทึกเสียงครั้งนี้ผมจึงทดลองใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ทั้งอัดและเป็นมิกเซอร์ไปในตัวครับ
โดยใช้อินเทอร์เฟซที่มีไลน์อินพุทแปดช่องที่มี phantom ทั้งแปดช่อง โดยแบ่งเป็นหกไลน์อิน สำหรับคนเล่นสองท่าน
คือหนึ่งคนจะมีไมค์ร้อง ไมค์จ่อกีต้าร์ซึ่งใช้ SDM และไลน์ตรงจากปิ๊กอัพกีต้าร์ คนนึงมีสามไลน์ครับ สองคนก็หกไลน์
ยังเหลืออีกสองไลน์ไว้เป็นไมค์ร้องเผื่อกรณีมีนักร้องคนที่สามเพิ่ม และอีกไลน์เผื่อกีต้าร์ตัวที่สามครับ
ทั้งหมดจะถูกไลน์อินเข้าไปที่อินเทอร์เฟซ แล้วปรับเฟดเดอร์ความดังเบาในนั้น ผสม reverb effect ร้องอีกนิดเดียว ส่วนไลน์กีต้าร์ออกสดๆไม่มีแต่ง effect มีการ cut low และป้องกันการพีคไว้เสร็จในตัวโปรแกรม ซึ่งร้องแหกปากดังแค่ไหนก็ไม่ clip ครับ ในที่นี้ใช้ program Pro tools ก่อนส่งออกไปที่พาวเว่อร์แอมป์เพื่อออกสำโพง PA Bose 802 4ตัวสองคู่ ซึงได้อุปกรณ์พีเอทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากน้า Nit GT ต้องขอบคุณอีกครั้งนึงครับ

หลังจากนั้นจึงค่อยเอาเสียงหกถึงแปดไลน์ที่บันทึกได้มาปรับแต่งให้เสียงออกมาเหมาะสมนะครับ แล้วค่อย Bounce ออกมาเป็น wav file เพื่อมารวมกับภาพจากกล้องวีดีโออีกทีครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทดลองใช้ระบบแบบนี้ ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ใหม่ๆและเมื่อเจอปัญหา ก็ต้องฝึกการแก้ปัญหาหน้างานไปพร้อมๆกันเลยสนุกดีครับ ตอนแรกกะเปลี่ยนใจไปใช้ผ่านมิกเซอร์ก่อนอยู่แล้ว เพราะกลัวระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ซึ่งช่วงแรกๆในช่วงพี่แอ๊ด มีกระตุกอยู่เล็กน้อย เป็นปัญหาทางเทคนิคครับ ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับแก้ไข โดยเฉพาะที่สำคัญคือลืมวางแผนสำหรับลำโพงมอนิเอตร์ครับ แต่โดยรวมผมถือว่าเสียงที่ออกสดในวันนั้นลงตัวมากและเสียงบาลานซ์ดีมากๆ กีต้าร์มีความเป็นอคูสติกมากขึ้น แต่พอเจอบนเวทีจริงๆ ก็จะมีหลายเพลงที่ไมค์จ่อกีต้าร์อยู่ห่างตัวกีต้าร์ไปหน่อย เพราะการจัดโพสิชั่นการนั่งหรือยืนของแต่ละวง แต่ละคนแตกต่างกันออกไป จริงๆถ้าควบคุมปัจจัยตรงนี้ได้ทั้งหมดเสียงจะออกมามีความเป็นธรรมชาติกว่านี้อีกมากครับ ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ดีที่สุด แต่ผมได้ปรึกษากับทางอาจารย์ที่ผมไปเรียนเรื่องสตูดิโอชาวนด์เอ็นจิเนียร์ มาแล้วว่าสามารถใช้ระบบทำได้เช่นกัน ถ้าไม่กลัวคอมล่ม แต่ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสียครับ ระบบใช้มิกเซอร์มั่นคงกว่าไม่ล่ม และก็อัดเสียงไลน์มาเข้าอินเทอร์เฟซได้เหมือนกันกับแบบที่ผมลองใช้ แต่ต้องใช้มิกเซอร์รุ่นใหญ่ที่มี Aux 6 line และไลน์สายต่างๆเยอะไปหมดก่อนมาเข้าอินเตอร์เฟซเพื่อเก็บเสียง ผมเลยลองเสี่ยงวิีธีนี้ดูซึ่งตัดเรื่องความยุ่งยากของสายออกไปอีกเยอะ ปรากฏว่าได้ผลดีเลยคับ แต่ระบบนี้เหนื่อยมากตรงที่ต้องเอาไฟล์เสียงมามิกซ์ใหม่ก่อนเอามารวมกับวีดีโอ โคตรเสียเวลาเลยครับ ยังดีที่ผมได้น้องโอมาช่วยงานมิกซ์ให้ จริงๆอยากมิกซ์ออกมาให้ดีกว่านี้นะครับ ถ้ามีเวลา แต่กลัวว่ากว่าคลิปจะออกมา คนรอดูคลิปจะเฉาไปซะก่อน เลยเอาแบบเท่าที่พอได้ครับ ยังไงต้องขอขอบคุณน้าเล็กที่ถามมาครับ ที่ตอบเสียยาวไม่ใช่อยากอวดรู้นะครับ เพราะผมยังมือใหม่มากๆในเรื่องนี้ แต่เพราะว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นบ้างในการเอาไปประยุกต์ใช้ในโอกาสต่อๆไปครับ