เล็บ eric clapton

[SARUN]

ฝากน้า SARUN ค้นข้อมูล Eric ช่วงที่ติดยา แล้วหายหน้าไปจากวงการพักใหญ่ ก่อนกลับมายืนยงอีกครั้ง...

Eric Clapton ต้องหยุดพักอาชีพนักดนตรีชั่วคราว เนื่องจากติดเฮโรอีนอย่างหนัก (ต้องไปบำบัด) หลังจากออก อัลบั้มเฉพาะกิจ กับ Duane Allman ในนาม Derek and the Dominos ในปี 1970 (เป็นอัลบั้ม Blues Rock ซึ่ง Eric Clapton มีส่วนร่วมในการแต่งเกือบทั้งหมด อัลบั้มนี้ มีเพลงดัง อย่างHave You Ever Loved a Woman , Layla เป็นต้น)....
หลังจากออกอัลบั้มนี้ไม่ถึง 1 ปี Duane Allman ก็เสียชีวิต (ด้วยอุบัติเหตุมอเตอร์โซค์) ส่วน เพราะ Eric Clapton ต้องหยุดพักอาชีพนักดนตรีชั่วคราว เนื่องจากติดเฮโรอีนอย่างหนัก (ต้องไปบำบัด) ทำให้วงนี้ มีผลงาน studio album ให้เราฟังกัน แค่ชุดเดียว (ชุดที่สอง ทำค้างไว้ไม่เสร็จ)

เขาว่ากันว่า Clapton ที่ ติดยา ก็มีสาเหตุมาจากเรื่องผู้หญิงนี่แหละครับ และผูหญิงคนนึงที่มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์เพลงร๊อกก็คือ Pattie Boyd ภรรยาของเค้า ซึ่งเคยเป็น ภรรยาของ George Harrison เพื่อนรักของเค้ามาก่อน จนทำให้เกิดเพลง Wonderful Tonight ที่เราๆ รู้จักกันดี

เพลงบลูส์ ถูกมองว่าเป็นเพลงของคนเศร้า-คนปวดร้าว เป็นเพลงของคนดำ...มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ ฟิล คอลลินส์ (Phil Collins) อดีตมือกลองของวง เจเนซิส (Genesis) ได้กล่าวตำหนิเชิงแดกดัน อีริค
แคลพตัน (Eric Clapton) ว่า?.....แคลพตันเล่นดนตรีอยู่บนเวที ใส่สูทราคา 5,000 ปอนด์ แล้วอ้างว่ากำลังเล่นเพลงบลูส์ที่เศร้าและปวดร้าวได้อย่างไร?.....? ข้างฝ่ายแคลพตัน พอเห็นข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์ ก็ตอกกลับคอลลินส์ไปว่า ?.....บลูส์ไม่ใช่เรื่องเสื้อผ้า แต่เป็นเรื่องของความคิด ความรู้สึก เป็นเรื่องภายในจิตใจ ไม่ใช่เรื่องภายนอกร่างกาย สมัยผมเล่นเพลงบลูส์อยู่กับวงครีม(Cream) เป็นยุครุ่งเรืองของผม ผมมีทั้งผู้หญิงสวย มีรถ มีเงิน และมีบ้าน แต่ผมติดเหล้าติดยา เพราะผมมีความทุกข์อยู่ในใจ.....?

The Concert for Bangladesh เมื่อปี 1971, ที่ Madison Square Gardenเป็นการแสดงดนตรี ?การกุศล? ที่จัดขึ้นมาเพื่อหารายได้ให้กับผู้อดอยากหิวโหยชาวบังคลาเทศ โดยมีแม่งานอย่าง George Harrison ก็ได้ชักชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงในแวดวงดนตรีระดับบิ๊กๆมาร่วมงานกันอย่างมากหน้าหลายตา ส่วน ?เพื่อนสนิท? อีกคนหนึ่งที่จอร์จ แฮร์ริสัน ไม่เคยทิ้งก็คือ Eric Clapton ที่หลบหน้าหายเข้าถ้ำไปเลิกยา

Eric Clapton ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้างานจะเริ่มสองวัน ตัวเขาเองได้โทรศัพท์มาหาจอร์จ แฮร์ริสัน เพื่อขอบอกเลิกกับการถูกเลือกให้เป็นมือกีตาร์นำของคอนเสิร์ตนี้ เพราะตัวเขาทิ้งกีตาร์ไปอดยาหลายปี จนขาดความมั่นใจที่จะเล่นกีตาร์อีกต่อไป และคิดว่าจะเลิกเล่นกีตาร์อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ได้จอร์จ แฮร์ริสันนี่แหละที่คอยช่วยปลอบใจ และให้กำลังใจในการหวลกลับมาเล่นกีตาร์อีกครั้งหนึ่ง


หลังจากนั้น ..Eric Clapton หลังจากที่ต้องเว้นวรรค ไปบำบัดอาการติดยาเป็นเวลา 3 ปี ก็กลับสู่วงการอีกครั้งในปี 1973 ครั้งนี้จัดการแสดงยิ่งใหญ่ พร้อมกับมีการบันทึกเสียงออกเป็นอัลบั้ม ชื่อชุด ERIC CLAPTON'S RAINBOW CONCERT เมื่อวางจำหน่ายฮือฮาทั้งในอังกฤษและอเมริกา ติดชาร์ต TOP 20 ช่วงนี้เองที่อิริค แคล็ปตัน พร้อมแล้วที่จะคืนสู่สังเวียนร็อกอีกครั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว

Eric Clapton กลับมาพร้อม อัลบั้ม Ocean Boulevard (1974) อัลบั้มนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในการแสดงความสามารถในฐานะศิลปินเดี่ยวได้อย่างเต็มที่ ปละ เพลงจากอัลบั้มนี้ ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนสมัย Derek and the Dominos หรือสมัย Cream เพลงจะลดดีกรีความเป็น Blues Rock ที่ดุเดือด มาเป็น Rock ฟังสบายๆ เพลงที่เป็นที่รู้จักจากอัลบั้มนี้คือ I Shot the Sheriff (เพลงของ Bob Marley) และ Let It Grow

ตั้งแต่หลุดพ้นจากยาเสพติดมาได้ Eric Clapton ใช้วิกฤต เป็นโอกาศที่จะปรับปรุงชีวิตให้มีค่ามากขึ้น ไม่หันกลับไปหายาเสพติดอีก และได้ก่อตั้งสถาบันบำบัดผู้ติดยาและแอลกอฮอล์ Crossroads Centre ซึ่งเค้าเป็นเจ้าของอยู่

แม้ศิลปินหลายๆคนที่ติดยาอย่างหนักแต่ยังเป็นตำนาน เช่น Eric Clapton , Bob Dylan Hendrix , Kurt Cobain และอีกเป็นร้อยๆคน...อย่าลืมนะครับว่า ยังมีอีกหลายๆล้านคน ต้องหมดอนาคตเสียก่อนจะเป็นตำนาน เพราะ ติดยาเสพติด


เรื่องนี้ มียาววววววว
โปรดติดตามตอนหน้า....แล้วเจอกันใน คอร๊อก เชิญทางโน้นนนนนนนนนนน

(((ฮอลลีวูดสร้างหนังเกี่ยวกับชีวประวัติศิลปินมาก็เยอะ แต่กับวงการเพลงร็อค และยาเสพติด มีเรื่องไหนม่างน๊อ ต้องวานให้ อ. ปุ๊ ช่วยสรุปให้เสียหน่อย)))