pood Wrote:ผมก็ไม่รู้ครับน้าเฒ่าทารก ผมชินกับการอยู่ที่อเมริกามาเกือบยี่สิบปีที่มีอะไรนิดหน่อยผมเคลมประกันตลอด
แต่วันก่อนเห็นมีคนซื้อกีต้าร์ใหม่มาตัวหนึ่งมีปรีแอมป์แต่เสียงแต่ละสายออกไม่เท่ากัน ผมเห็นเขาเอาไปเสียสตางค์ซ่อมเองโดยไม่คิดจะเอาไปเคลมกับทางร้านที่ซื้อมาผมก็เลยงง ผมเองเคยซื้อที่ร้านใหญ่ใจดีในบ้านเรานี่แหละพอมาลองแล้ว
มีข้อบกพร่องผมก็ไปเปลี่ยนเอาตัวใหม่มาสองหนเขาก็ไม่ว่าอะไร (ตัวหนึ่งรังถ่านไม่แน่น อีกตัวมีโน้ตบอด) ตอนนี้กีต้าร์รุ่น
ที่ผมซื้อขายหมดแล้วแสดงว่ามีคนที่ไม่เรื่องมากเท่าผมซื้อสองตัวนั่นไปแล้วละ
ที่อเมริกาเอาไปคืนใด้ภายในสาบสิบวันทุกยี่ห้อครับ ตอนที่เปิดบ้านขายกีต้าร์ผมก็ประกาศรับคืนถายในสาบสิบวันนะครับแต่ไม่เห็นมีใครเอามาคืนซักคน
คนนั้นเค้าบอกผมว่า...
เค้าไม่อยากเอาไปเคลมที่ร้านที่ขายเพราะว่าหาที่จอดรถยากมาก ค่าน้ำมันเดินทางและค่าเสียเวลาทำมาหากินก็เกินกว่าค่าซ่อมความเสียหายนั้น เลยยอมแบกไปซ่อมที่ร้านช่างแถวนนทบุรีซึ่งสะดวกกว่า ช่างทำการซ่อมโดยเปลี่ยน Piezo ใหม่ยี่ห้อ Artec ให้ ถ้าจำไม่ผิดจ่ายค่าซ่อมและค่าของรวมกันประมาณ 500 บาท พอลองฟังดูก็ใช้การได้ดีกว่าเดิม และเอากลับมาไว้ที่บ้านโดยไม่ได้หยิบมาเล่นอีกเลย ต่อมาไม่ถึง 3-4 เดือน อาการที่ซ่อมก็กลับมาเป็นอีก
แต่คราวนี้แหละ จะย้อนไปเคลมหรือก็สายไปแล้ว จึงเดินหน้าต่อไป..กลับไปซ่อมร้านช่างเจ้าเดิม....
ผมฟังดังนั้น..จึงอุทานในใจดังๆว่า สมน้ำหน้าตัวข้าเอง!
***** นี่เป็นบทเรียนที่คนนั้นไม่ยอมใช้สิทธิแต่แรกตามสิทธิที่มี รู้ทั้งรู้ว่ามีสิทธิแต่ไม่ยอมใช้สิทธิ...แล้วจะโทษเอาใครเล่า
***** แต่หากจะใช้สิทธิแล้วไม่คุ้มเวลาที่เสียไป ก็เป้นอีกเรื่องที่จุกจิกกวนใจ
จึงขอยืนยันอีกครั้งว่า....ยืมกีตาร์เค้าเล่นดีกว่า สบายกว่ากันเยอะเลย