ผมเพิ่งผ่านชีวิตแต่งงานมาครับ ผมจะเล่าถึงความความแตกต่างก่อนแต่งงานและชีวิตหลังแต่งงานให้ฟังนะครับ
ปกติชีวิตผมคบกับแฟนคนก่อนๆ คบกันได้ไม่เกินสองปีก็ต้องมีเหตุให้เลิกกันครับ
แต่ถึงเลิกกัน ผมก็ยังเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายในชีวิตครับ เพราะคนเราคบกัน ก็เพื่อที่จะเรียนรู้กันและกันว่าจะมีโอกาสดูแลกันทั้งชีวิตหรือไม่ครับ
และวันนึงถ้าจากกันไป ก็เป็นเพราะว่า เราไม่ใช่คนที่จะเกิดมาคู่กัน ไม่ใช่คนที่จะมาดูแลกันทั้งชีวิตครับ
ผมเชื่อว่า เพราะความรักที่แท้จริง จะไม่มีทางหมดไปจากหัวใจเมือเราเจอคนที่เรารักจริงๆครับ
ผมกับแฟนคบหากันมาประมาณห้าปี หวือหวา สดใส สวยงาม เหมือนกับแฟนคนก่อนๆ ที่เคยคบหา
แต่มีจุดเปลี่ยน อยู่ตรงที่ว่า เค้าเป็นคนเดียว ที่ผมอยากตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วผมอยากเจอหน้าที่สุด เค้าเป็นคนเดียวที่อยากนอนกอดก่อนนอนในทุกๆวันมากที่สุด
และจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด ที่ผมตัดสินใจแต่งงาน ก็เพราะว่า ผมรักเค้ามากขึ้นทุกวัน ผมอยากให้เค้าเป็นแม่ของลูกผม และอยากให้เกียรติในความรักที่เค้ามีต่อผมครับ
ทุกวันนี้ความรักของผมอาจจะไม่หวือหวา หรือโลกสดใสเป็นสีชมพูอะไรมากมายนัก
แต่ทุกวันนี้ ความรักของผมเราก็มั่นคงขึ้นเรื่อยๆครับ ความหวานน้อยลง แต่ความเข้าใจในชีวิตความรักมากขึ้นครับ
กอดแฟน กับ กอดเมีย มันไม่เหมือนกันนะครับ...
ถ้าเปรียบความรักเป็นเหมือน การกำเม็ดทรายที่กำมือ
ถ้ากำมือแน่นไป เม็ดทรายก็จะทะลักออกตามมือมากเช่นกันครับ
แต่ถ้ากำมือเบาเกินไป ก็ยากที่จะประคอง เม็ดทรายเหล่านั้นได้ดีครับ
ต้องกำมือ ให้พอดี พอดี เม็ดทราย ก็จะอยู่กับเรามากพอและอยู่คงนานครับ
ผมขอให้น้า mai_911 มีความรักที่น่ารัก มากขึ้นเรื่อยๆนะครับ(บ้านฟ้าจะเป็นกำลังใจให้)
ผมก็ไม่อยากพูดเรื่องความรักมากครับ เพราะผมก็เป็นคนขี้เหม็น เอ๊ย!!! ขี้เขินเหมือนกัน(ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องความรักแล้ว ผมจะพิมพ์ข้อความไป หน้าแดงไป ขนลุกไป น้ำตาคลอเบ้าอีก มันอิ๊น อิน..ครับ)
ปล.รักแร้ แพ้ใกล้ชิดนะครับ...