+++จะเล่นกีตาร์ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร+++

[Maton_1]

จริงอยู่ครับที่น้ำหนักของไม้ที่นำมาทำกีตาร์หนึ่งตัว...มันเพียงน้อยนิดเท่านั้นแถมบางอีกต่างหาก แต่ถ้าจะได้ไม้ขนาดใหญ่แบบนี้ต้นไม้ที่นำมาตัดก็ต้องใหญ่พอควร แล้วยังมีเกรดอีกว่า"เอ"เดียวหรือหลาย ๆ "เอ"...ทีนี้มันก็มีอยู่สองทางที่จะได้ไม้แบบสอบได้ 4.00 คือ ต้องเอล้วน...ทางนึงก็คือเดินเข้าไปค้นไม้ที่ถูกตัดไว้แล้วกองเท่าภูเขา...อีกทางนึงก็คือเดินหน้าตัดไม้ในป่าต่อไปเพราะมองเปลือกไม้ด้วยตาก็ไม่รู้ว่าอันไหนมัน super bearclaw หรือ superflame...พอได้ดังใจแล้วก็ค่อยเอามาทำกีตาร์...ส่วนไม้ที่ไม่เลือกก็ส่งต่อโรงงานเฟอร์นิเจอร์...ขบวนการคัดเลือกก็เลยส่งเสริมการตัดไม้จำนวนมากไปในตัว...
....หลายปีก่อนมีนักเรียนคนนึงฟังอาจารย์สอนเรื่องแผนภูมิก้างปลา...อาจารย์ก็เริ่มต้นจาก...ขีดเส้นตรง
จากซ้ายไปขวาเส้นนึงแล้วทำหัวปลาไว้ทางซ้าย....นักเรียนตัวเตี้ยคนนึงก็ยกมือถามว่าทำไมหัวปลาไม่อยู่ทางขวาหล่ะครับ...อาจารย์ก็บอกว่าสิ่งนี้ เรียกว่า "ทิศทาง" จากนั้นก็เติมก้างปลาสี่ก้างแล้วก็เติมตัว m 4ตัว คือ man material machine แล้วก็ method แล้วให้นักเรียนผลัดกันออกไปเติมปัญหาหรือผลกระทบจากในแต่ละแง่ของแต่ละ m นั้น แล้วอาจารย์ก็ใช้วิธีอ่านแต่ละอันให้นักเรียนโวตว่าอันไหนสำคัญสุด...จนได้ปัญหาชนะเลิศที่เรียกว่าปัญหาสำคัญและเกิดบ่อย..ถูกเขียนไว้ที่หัวปลา...อาจารย์ไม่บอกสาเหตุสำคัญตั้งแต่แรกเพราะอยากให้นักเรียนได้ระดมความคิดและเสนอความเห็นโดยมองจากผลและเหตุการณ์ประกอบ...จนท้ายที่สุดทุกคนเห็นว่าปัญหานั้นเป็นปัญหาสำคัญที่"เป็นที่ยอมรับ"....อาจารย์กล่าวต่อไปว่าปัญหาสำคัญได้แล้วที่เหลือก็ "วิธีแก้ปัญหา" ให้พวกเธอทำปลาอีกตัวสิ...แล้วกระบวนการวิเคราะห์ก็ดำเนินต่อไป....
....หลังจากตั้งกระทู้นี้ได้สักพักมีสมาชิกท่านหนึ่งกล่าวขึ้นว่าโลกร้อน(อาจ)ไม่เกี่ยวกับน้ำมือมนุษย์...ซึ่ง
หลายท่านแสดงความเห็นด้วยและคล้อยตาม..ภายหลังต่อมา....แนวคิดเริ่มเปลี่ยนว่าการเล่นกีตาร์มีส่วนต่อทรัพยากรแต่"เป็นส่วนน้อย"....แสดงให้เห็นว่าการระดมความคิดอย่างมีจิตสำนึกจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงและยอมรับ หรือบางสิ่งในใจท่านกำลังทำงาน....อยู่
....อยากจะบอกว่าผมเพิ่งมาสนใจทรัพยากรหลังเรื่องพายุในพม่าไม่นานที่ผ่านมานี้ ผมไม่ได้เป็นนักอนุรักษ์นิยมตัวยง..ถือธงนำหน้า...ปากบอกว่าอนุรักษ์ แต่อนุรักษ์อะไรหล่ะ...จะเลิกตัดไม้ ทุกคนก็ต้องเริ่มตัดใจ เสียก่อน..โดยเริ่มปลูกจิตสำนึกเพื่อทดแทน.แต่เส้นทางของนักอนุรักษ์ทุกคนลำบากสาหัส...เหมือนคุณสืบ...
....คงเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของกระทู้ทุกคนที่ต้องหมั่นเข้ามาดูกระทู้ของตน หากมีคนถามหรือเสนอ
อะไร ก็สามารถร่วมได้...ผมดีใจที่คนเข้ามาตอบเยอะ...แล้วก็ความเห็นหลากหลายกันไป...ไม่มีหมดเวลา...ไม่เหมือนในห้องเรียน...แล้วปิดเทอมหลังสอบไล่...อาจารย์เรียกนักเรียนตัวเตี้ยที่เดินมาส่งข้อสอบว่า..."ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะ... คำตอบของเธอเปลี่ยนโลกรู้มั๊ย" "ผิดเป็นครู" เพราะตอนเป็นเด็กครูก็ทำผิดบ่อย ๆ เลยต้องมาเป็นครูตรงนี้ไง....เวปนี้มีสมาชิกหลายร้อยคน แต่มีคนมาตอบแค่ไม่กี่คน...ก็ยังรอ ๆ คำตอบทุกท่านอยู่ ไม่ต้องอายครับ.......ผมอยากได้ยินเสียงที่ไม่เคยได้ยินด้วยครับ....สังคมต้องการคุณ
มาก...
...เรื่องมีจำนวนกีตาร์บ้านและรถมากคงไม่แย่ครับ...แต่ที่แย่คงเป็นไม่ค่อยมีเวลากับพวกมันมากกว่าครับ...เรื่องซื้อกีตาร์ก็ต้องไตร่ตรองครับ...ขอแปลงกลอนตอนนึงว่า...
...กีตาร์เหมือนกาย สายเหมือนกระจกเงา...หมั่นขัดเช็ดถู..ฝุ่นไม่จับ...
...หากวันใดไม่มีกีตาร์...ไม่มีสาย....ฝุ่นก็ไม่มีที่ที่จะจับ...
....ฝุ่นในที่นี้ คือ กิเลสด้านกีตาร์ครับ....พระท่านจึงชอบพูดว่าอย่าเจริญด้วยโภคทรัพย์แต่จงสะสมซึ่งอริยทรัพย์...ถ้าในอีกทางก็ทำอสุภกรรมฐานครับ คือ เพ่งมองกีตาร์สวย ๆ แล้วก็เปลี่ยนเพ่งมองซากกีตาร์พัง ๆ เพื่อให้เห็นสัจธรรมว่ามันจะเป็นอย่างเดียวกันในท้ายที่สุด....แต่ที่โชคดีที่สุดก็ตรงที่มีภรรยาคนเดียวนี่แหล่ะครับแล้วต้องมีเวลาให้เค้ามาก ๆ ด้วยครับ...
...เรื่องคำถามว่าถ้าเจ้านายเดินมาถามว่าจะทำอย่างไรให้บริษัท หรือเศรษฐกิจ อยู่รอดได้ในวิกฤต
...ผมก็รอครับ...แต่เจ้านายไม่เคยเดินมาถามซักที...เพราะเจ้านายบอกผมว่าอย่า work hard แต่ให้
work smart ครับ...แล้วก็ไล่ผมกลับบ้านให้มานั่งเล่นกีตาร์....ต้องขออภัยที่ตอบไม่ตรงคำถามนะครับ
...:-)