มาต่อจากที่เริ่มไว้กัน ตอน 3 ละนะ
จากขั้นตอนของตัวอย่างงาน ที่เราเริ่มคิดมันออกมา โดยอาจจะมีการบันทึก เก็บไว้ในรูปแบบอะไรก็ตามที จะใส่เศษกระดาษ กับจำไว้ในหัว เขียนสกอร์โน๊ต อัดลงคอมพ์ มือถือ เทป
คือทำยังไงก็ได้ในจำมันให้ได้ เพื่อจะนำมาใช้งานต่อ เหมือนเรามีภาพแผนที่ว่าจะไปกระบี่ เราก็จะรู้ว่าต้องไปไหนต่อ หมอชิต สายใต้ หาตั๋วยังไง เตรียมอะไรเพื่อให้ถึง ภาพวาดในจินตนาการของเรา
ในที่นี้...เราจะพูดถึงเพลงร้องกันเป็นหลัก เพื่อให้มองภาพของภาคต่างๆได้ชัดเจน และ ง่ายขึ้น เพราะ คนส่วนใหญ่จะมองเพลงร้องว่ามันเป็นเพลง โดยสิ่งที่จับต้องง่ายที่สุดคือ** เมโลดี้ ก็คือเนื้อร้องนั่นเอง **
** ขอท้าวความนิดนึง **เพลงบรรเลง ...ที่คนส่วนมากจะร้องตามไม่ได้ เนื่องจาก ไม่มีท่อนของเนื้อร้องให้จำได้
เท่าที่เคยสัมผัสความรู้สึกของคนเหล่านั้น เวลาข้าพเจ้าทำงานในการแสดงต่อผู้ฟังโดยส่วนมาก โดยจะได้แสดงประกอบการทานอาหารในที่ต่างๆ
หรือ การดื่มต่างๆในต่างกรรมต่างวาระประกอบกันไป ไม่ว่าจะสถานที่หรูหรา ไฮโซ โอ่อ่าอย่างไร เนื่องจาก ยังไม่ได้เป็นศิลปิน แบบที่เขาเรียกกัน จึงมักจะได้ยินคำถามจากผู้ชมที่ว่า
** เมื่อไหร่จะเล่นเพลงสักที ** ทั้งที่เราเล่นดนตรีบรรเลงไปแล้ว เกือบชั่วโมงมั่ง หรือ อะไรทำนองนั้น
ไม่ได้น่าตกใจ หรือ ประหลาดใจประการใด ที่คนหมู่มาก** กล่าวว่า...คนที่กำลังตั้งใจแสดงดนตรีออกมา ว่ายังไม่เล่นเพลง **
การนิยมบริโภคดนตรีในแบบนี้ ** ได้ทยอยเสื่อมความนิยม จากดาวเคราห์ดวงนี้ไปทีละน้อยมาช้านาน....** จนน่าเกือบสูญพันธ์แล้ว **
โดยเฉพาะ นักบรรเลงเดี่ยว ที่ปัจจุบันจะหาชมกันได้น้อยมากนั้น แม้กระทั่งผู้เล่นเองก็หายากขึ้นเต็มที
เนื่องจากงานที่แสดง ..เป็นการรวมภาค เมโลดี้ ฮารืโมนี่ และ ริทึ่ม เอาไว้ด้วยกัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องใช้สมาธิสูงในการถ่ายทอด ขับเคลื่อนสิ่งต่างๆนั้น ให้ออกมาสมบูรณ์ อันจะหาสถานที่ๆ ระบบต่างๆ ในการจัดแสดงที่เหมาะสม** นั้นก็ยังนับว่ายากเต็มที **
ประกอบกับเหตุหลักที่ ผู้จะรับชมรับฟังนั้น หาได้มีสมาธิ และ ความต้องการในดนตรีบรรเลงไม่
จึงนับว่า...** เป็นการไม่เหมาะกับ การแสดงทั่วไปตามที่ต่างๆในยุคสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง **
การเสพเพื่อการผ่อนคลาย...จึงมีความจำเป็นต่อคนในสมัยนี้มาก เมื่อมนุษย์ ต้องการแสดง และตามธรรมชาติของการ ถือติด และ ครอบครอง จึงต้องการมีส่วนร่วม มีส่วนจดจำร่วมแสดงในงานดนตรีนั้นๆ โดยจับต้องได้ไม่ซับซ้อน
การแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา นั่นเอง....** จึงทำให้เนื้อร้องของงานดนตรีชิ้นนั้นๆ เป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งๆขึ้น
ตามสมัย ที่คนมีความละเอียด แยกแยะอะไรต่างๆได้น้อยลง
ทักษะในการจดจำ เรียนรู้ในเชิงศิลปะที่ละเอียด เสื่อมถอยลงตามกาล เพราะเราวาดรูปโดยใช้คอมพ์ คิดเลขจากมือถือ จดจำเกือบทุกอย่างโดย เครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆ
ผมว่ามีผลนะ คนแก่ๆแถวบ้านในเมืองหลวงนี้ ในชนบท หรือ เท่าที่ในชีวิตที่พบ คนเหล่านั้นผมตั้งข้อสังเกตุว่า พวกท่านเหล่านั้น....มีอัตราร้องเพลงไม่เป็น หรือ เพี้ยน น้อยมาก
คือง่ายๆ.. คนกวาดถนน ยายแก่ๆข้างทางร้อยพวงมาลัย เราลองสังเกตุดูนะครับ จะพบเลยว่าเราจะได้ฟังคนดังกล่าวนี้ จะร้องเพลงได้น่าฟังมาก อาจเป็นเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุงไทยเดิม ก็จะพบว่า พวกท่านร้องออกมาได้ดีทีเดียว และ ให้ลองนึกว่า ไอ้เด็กคาราโดเกะ ที่เราเห็นเค้าร้องเพลงให้เราฟัง โดยที่เพื่อนเรากำลังโอบเอว หรือ อาจจะเป็นเรากำลังอะไรอยู่นั้น อาจจะเป็นใครสักคนที่นึกว่าเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ ร้องเพลงอะไรสักเพลง ที่เมโลดี้ ถูกสร้างมาให้จำง่าย ในเนื้อหาคำร้องแบบสมัยนี้ เค้ามีอายุเท่ายายที่ว่า ที่อาจจะไม่เคยพบ ร่วมสังวาสกับ เครื่องคาราโอเกะเลย แบบเด็กแนวสมัยนี้
เนื่องด้วยอาชีพ จึงได้พบเห็นมาในจำนวนนึง...** พบว่า เทคโนโลยี่ ไม่ค่อยพัฒนาศักยะภาพใดๆ ในทางศิลปะนักในเชิงทักษะ โดยเฉพาะทางกายภาพ การแสดงออกที่ชัดเจน ยิ่งเห็นได้ชัด
** แต่เรากำลังพึ่งพาอารยะตกรรมเหล่านี้มากขึ้นทุกที **
เนื้อร้องที่แต่ง ขัดเกลาในเมโลดีเพลง ที่แต่งอัดไว้ในข้างต้นนั้น มีดังนี้
ตื่นนอนตอนเช้า... จะดีแค่ไหน ที่มีใครคนนั้น..... แอบยิ้มมองฉันอยู่ หันมาสบตา
เวลาปวดร้าว.... ในคราวสุขสันต์ แค่ ...ใครคนนั้น ......เขายังคงอยู่ รับรู้คอยพูดจา
ท้องฟ้ายังคงมืดอยู่ รุ่งเช้าไม่เคยมาถึง.......
ย่ำเดินต่อไป เมื่อไรจะเช้า.....
.... ตื่นมาจะเจอเธอไหม
จะมีทางไหน...ที่ชั้นจะได้พบเธอ.. คนดีในหัวใจ ..ได้ไหม
กับใคร ที่บอกความหมาย ชีวิตที่เหลืออยู่
ร่วมเดินเคียงข้างไป ......กับฉัน
เรามาดูต่อในเรื่องของเนื้อร้อง หรือ คำร้องกันดีกว่า เพลงร้องมีมาตั้งแต่ในยุคโบราณ โดยดนตรีในยุคแรกๆ ของเกือบทุกเผ่าหรือ ชนชาติที่มีอารยะธรรมสืบเนื่องกันมา ดนตรีจะถูกทำขึ้นเพื่อสรรเสริญพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ต่อมาจึงมีดนตรีในทางโลก พูดจาเล่าเรื่องโลกๆ คือเริ่มจากยุคๆนึง ขอเล่าผ่านๆแค่นี้พอก่อนนะครับ เดี๋ยวจะยาวกันไปอีก หากสนใจจะนำมาเพิ่มเติมในภายหลัง
มาดูที่การจัดการเมโลดี้ที่ได้ จัดวางดูแลออกแบบมาในแบบที่ๆเราต้องการ จากนั้นเราคงจะต้องมาดูเรื่องเนื้อร้อง คำร้องที่เหมาะสม ที่จะลงประกอบกับดนตรีที่คิดขึ้นมานั้น ต้องจัดวางตามความเหมาะสมของหน้าที่ว่า ใครผู้ใดจะเป็นผู้ลงมือเขียนมัน
คุณสมบัติหลัก ของผู้ที่น่าจะเขียนเนื้อร้องได้ดีนั้น ตามที่ได้ค้นคว้ามา พี่เขตแบ่งเป็นหัวข้อไว้ย่อๆดังนี้
/ตัดตอนคัดมาจากบางส่วนของ หนังสือ คิดคำทำเพลงโดย พี่เขตอรัญ เลิศพิพัฒน์ เอื้อเพื้อข้อมูลโดย น้าpood /
1 ความสามารถในเชิงฉันทลักษณ์ การใช้ภาษา สัมผัสต่างๆในอักษร
2.ความสามารถในการร้องเพลง รู้เสียงสูงต่ำ?. จัดวางคำร้องลง ในทำนองจังหวะอย่างเข้าใจ ไม่ขัดเขินในการออกเสียง
3.ความสามารถในการจับอารมณ์เพลง และ การเล่นดนตรี?.
4.ความสามารถในการสร้างพล็อต และ เขียนย่อความ ....เพลงที่ดีคือ ย่อความที่ดีนั่นเอง
จากตัวอย่างข้างต้น ข้าพเจ้าได้ แต่งเพลงนี้ขึ้นโดย แต่งจากเรื่องที่คิดก่อน แล้วหาดนตรี มาพร้อมทำนองหลัก และเนื้อร้องมาพร้อมกันหมด ถึงจะไม่จบบริบูรณ์ในทีเดียว แต่ก็นำมาแต่งเนื้อร้องจบในเวลาต่อมา
เพลง..ตื่นนอน เริ่มจากการเล่าเรื่องให้เห็นบรรยากาศว่า ผู้เล่าเรื่องอยู่ตรงไหน ซึ่งจริงๆ มีแบ่งอยู่ 3จำพวกหลังๆในการเล่าเรื่อง
1 ผู้ร้องพูดคุยกับตัวเอง เล่าความรู้สึกต่างๆให้ตัวเองฟัง
2 .ผู้ร้องพูดให้บุคคลอื่นฟัง บอกเล่าต่อคนที่2ความรู้สึกต่อเขา ..เธอ มีเงื่อนไขบุคคลที่3
3. ถ่ายทอดสิ่งที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับผู้เล่า เช่นตำนาน นิยาย
เพลงนี้จึงอยู่ในกลุ่มแรก ที่เล่าเรื่อง ขึ้นต้นมาในแบบพูดคุยกับตัวเอง ตั้งแต่ต้นจนจบ
เดินมาท่อนกลางเพลง ที่หาขอขัดแย้งขึ้น ที่บอกว่า** ท้องฟ้ามืดอยู่ยังไงก็ไปไม่ถึง **
แก้ข้อขัดแย้งว่า ...จึงยังเดินต่อไป แล้วก็ถามอีกว่าจะเจอสิ่งนั้นไหม
มาแสดงผลสนับสนุนเหตุ ในตอนท้าย คือ....จะยืนยันตามหาให้เจอ เพราะสิ่งที่เล่ามาแต่แรกว่าดี อยากได้มาก
การฝึกวิเคราะห์สิ่งที่ทำอยู่ อาจทำไปแล้วมาวิเคราะห์ก็ดี หรือ คิดพิจารณาไปด้วย ขณะทำงานนั้นๆ
ก็จะทำให้เข้าใจเหตุ เห็นทิศทาง ควร นำมาประมวล สรุปผลในการคิดสร้างงานใหม่ๆต่อไป
การผิดพลาดที่เกิด ในการเริ่ม ไม่ว่าจะเริ่มนานมาแล้ว10 ปี หรือเมื่อวาน ไม่ใช่สิ่งที่ควรด่วนสรุปการทำงานใดๆ ควรให้เวลา และโอกาศตัวเองในการค้นคว้า และ ทดลองต่อไป
คนที่หยุดคิด หมดสิ้นจินตนาการ และ พลังหมุนโลกต่อไป ก็คือคนที่ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว
สิ่งที่สำคัญเสมอคือการเริ่มต้นครับ แล้ว พบกันตอนต่อไป
............. ;?? ?..............
*.:??*Parradee ...A Journey of Us - ?.:* *.:??*?;??
อย่าไปเอาอะไรกับนักเขียนนิยาย