~Luzefer~ Wrote:เมื่อวานนี้มีคุณครูจากโรงเรียนระแวกสำนักมาซื้อของ ซึ่งก็สนิทกับผมพอสมควร ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันก่อนเห็นเด็กนักเรียนในโรงเรียน กำลังมุงดูบางอย่าง ท่านจึงแอบย่องไปคว้าเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมา มันคือโทรศัพท์มือถือ...ซึ่งในนั้นมี VDO XXX ท่านจึงจะริบโทรศัพท์ไว้ เชื่อไหมครับว่าเด็กนักเรียนกลับพูดกับคุณครูว่า ครูกล้าริบของผมเหรอ...ไม่กลัวยางรถจะแบนเหรอ ครูท่านนั้นถึงกับบอกผมว่า พอได้ยินแล้วเขาถึงกับเกือบถอดใจและเลิกเป็นครูเลย...ผมก็พลอยเครียดไปด้วย ก็ขนาดตอนนี้เป็นแบบนี้ แล้วอนาคตสิ่งเล้าจะไม่ยิ่งมากขึ้นหรือ ผมจะสอนให้เจ้าต้นน้ำฝ่าฟันไปได้หรือ...หรือว่าจะส่งไปอยู่กับพี่ชายที่อเมริกาตั้งแต่เด็กดี...เพราะพี่ชายคนนี้เป็นคนเจ้าระเบียบมาก เค้มงวด น่าจะทำให้ลูกผมโตขึ้นมาเป็นคนดีได้ แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนั้นเลย...( คงเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะกังวลเรื่องแบบนี้ใช่ไหมครับ )
น้าลูลู่.. ขอรับ..
ความเป็นห่วงลูกย่อมเป็นเรื่องที่กังวัลใจที่สุดของพ่อแม่
แต่การที่ลูกจะเป็นคนดีได้ดังหวังหรือไม่นั้น มิใช่เพียงพ่อแม่..
หากแต่สิ่งที่ติดตัวเขามาด้วยนั้นก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน..
โบราณว่า.. คนเราคงมิสามารถกำหนดได้ทุกอย่าง..
เพราะคนทุกคนมีวิธีคิด และความคิดเป็นของทุกคนเอง..
แต่สิ่งที่พอจะช่วยได้บ้าง.. คือ การปลูกฝังความคิดที่ดี.. ด้วยความรักความอบอุ่น..
ความเอาใจใส่.. และเข้าใจในธรรมชาติของเค้า..
ลูกจะอยู่ใกล้ชิดเราเพียงวันแรกเกิด จนถึงวันที่เข้าโรงเรียน..
ที่เหลือจากนั้น ก็จะเป็นโลกภายนอก คุณครู เพื่อน ๆ และคนแปลกหน้าต่าง ๆ
อยู่ใกล้ชิดลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ..
อย่าให้เขาอยู่ไกล หรือไปอยู่กับใครที่ไม่ใช่พ่อแม่เลย..
ใครจะรู้ใจลูก และลูกจะอุ่นใจกับใครมากที่สุด ถ้าไม่ใช่พ่อแม่..
ทำให้ดีที่สุด อย่ากลัว อย่ากังวล..
เพราะอย่างน้อย.. เราก็พูดได้อย่างภาคภูมิ
ว่าเราเลี้ยงดูเขาด้วยความรักอย่างเต็มเปี่ยม..
และหากอนาคตเกิดสิ่งใดขึ้น ก็เผื่อใจไว้ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว.
ดีกว่าที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของพ่อแม่อย่างสมบูรณ์เลย..
............................
ขอโทษนะครับที่บังอาจแนะนำ..
ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณลูก และคุณแม่..
และคุณพ่อด้วยนะครับ..
ขอให้มีความสุขมาก ๆครับ..
โฟล์คน้อย