(15-09-2008, 11:19)Therock Wrote: รอ รอ รอ ครับ...
รอให้มาฝอยเรื่อง Takamine ต่อหรือครับ ต่อก็ใด้ครับ
ในยุคที่ Takamine เลิกลอกเลียนแบบกีต้าร์อเมริกันประมาณปี 1981 นั้น
กีต้าร์รุ่นใหม่ของTakamine จะแบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือพวก
โปร่งไฟฟ้าที่มีช่างอเมริกันออกแบบให้ตลอด เริ่มจาก Lloyd Baggs ที่พูดถึงไปแล้ว อีกคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือ Michael Millard ที่เป็นผู้ออกแบบและผลิต
prototype ของ Santa Fe series รุ่นแรกคือ ESF 93 ในปี 1992 และกีต้าร์
series นี้ก็ยังใช้โครงสร้างที่ตานี่ออกแบบจนถึงทุกวันนี้
Michael Millard คือคนออกแบบและเจ้าของ Froggy Bottom ครับ
กีต้าร์ที่ขายในอเมริกาส่วนใหญ่จะไม่ขายในญี่ปุ่นนะครับเพราะในญี่ปุ่น
เขาจะมีรุ่นของเขาเองที่ไม่ส่งออกนอกประเทศแต่พี่ไทยเราก็ยังอุตส่าห์ไปหอบหิ้ว
กันมาจนใด้ บางคนไปเดินหารุ่นสายไนล่อนที่ Eagles ใช้จนทั่วแต่คนญี่ปุ่นไม่รู้จัก
หรอกเพราะมันไม่มีขายในญี่ปุ่น
กีต้าร์อีกประเภทนึงของ Takamine ก็คือกีต้าร์โปร่งที่เน้นเรื่องเสียง acoustic ล้วนๆที่ผลิตเพื่อเจาะตลาดยุโรปและออกแบบโดย dealer ของ Takamine ที่
ฝรั่งเศษชื่ออะไรผมก็จำไม่ใด้ รุ่นนี้คือพวก Natural series ตัวแรกคือ N 10
ครับ
ลักษณะที่แตกต่างจากกีต้าร์โปร่งทั่วไปของ Natural series คือการใช้ cedar
top ชึ่งตามปกติจะใช้กับสายไนล่อน ส่วนการใช้ split saddle หรือ string through bridge นั้นตาคนที่ออกแบบคงก้อปมาจากกีต้าร์ Lowden แน่นอน
เรื่องปรีของ Takamine ผมตอบบางส่วนไว้ในกระทู้นี้ครับ
http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=2487
ตอนต่อไปจะเล่าเรื่อง Modern Takamines ครับ