ตด...โลกร้อน

[Vintage series]

สืบเนื่องจากบ้านเต่า ที่ถกกันเรื่องกินเนื้อ..........................

อุจจาระวัวทำโลกร้อนจริง แต่นักวิทยาศาสตร์พอหาหนทางนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นักวิทยาศาสตร์ชาวอาร์เจนติน่าติดจับวัวบรรทุกถุงพลาสติกใส ต้องการพิสูจน์คำครหาว่า วัวควายก็มีส่วนทำโลกร้อนเหมือนกัน ไม่ใช่แต่ประเทศอุตสาหกรรมเท่านั้น

อาร์เจนติน่าเป็นประเทศที่เลี้ยงวัวมากกว่า 55 ล้านตัว และส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้ออันดับต้นๆ ของโลก ผลจากการซศึกษาครั้งนี้เล่นเอานักวิทยาศาสตร์ถึงกับแปลกใจที่พบว่า วัวมาตรฐานขนาด 550 กิโลกรัม แพร่สารพัดก๊าซออกมาถึง 800 ? 1000 ลิตรทุกวัน รวมถึงก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจก

กุยเลอร์โม เบอร์ร่า นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีเกษตรในอาร์เจนติน่า เอ่ยปากว่า ตอนที่พวกเขาเห็นผลวิจัยครั้งแรกทำเอาพวกเขางงไปตามกัน นั่นหมายความว่า ราว 30เปอร์เซ็นต์ของก๊าซเรือนกระจกที่อาร์เจนติน่าแพร่ออกมาอาจเกิดจากการทำฟาร์มปศุสัตว์

การศึกษาครั้งนี้ ทีมวิจัยนำถุงพลาสติกคล้ายบอลลูนติดไว้บนหลังวัว 10 ตัว โดยต่อท่อเข้าไปยังกระเพาะของวัวเพื่อนำก๊าซมาเก็บไว้ในถุง จากนั้นพวกเขาเอาถุงมาแขวนไว้บนหลังคาคอกวัวเพื่อวิเคราะห์ต่อไป

นักวิจัยอาร์เจนติน่าบอกว่า ระบบย่อยอาหารแบบเคี้ยวเอื้องของวัวคือตัวการทำให้เกิดมีเทนจำนวนมาก จากนั้น นักวิทยาศาสตร์เตรียมออกแบบอาหารชนิดใหม่เพื่อปรับปรุงระบบย่อยอาหารของวัว และลดก๊าซโลกร้อน

นักวิทยาศาสตร์อีกรายจากสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติกล่าวว่า หากเปลี่ยนให้วัวกินต้นโคลเวอร์ และอัลฟัลฟาแทนธัญพืช จะช่วยลดการแพร่ก๊าซเรือนกระจกได้ 25 เปอร์เซนต์

อึวัวปล่อยก๊าซมีเทน 55เปอร์เซ็นต์ คาร์บอนไดออกไซ์ด 30-35 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็ฯไฮโดรเจน และไนโตรเจน

ถึงแม้อึวัวจะปล่อยก๊าซโลกร้อน แต่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเชื่อว่า อุจจารของสัตว์เคี้ยวเอื้องพวกนี้คือขุมทรัพย์สำคัญ และเป็นแหล่งเชื้อเพลิงสำหรับอนาคต

ลองคำนวณแล้วพบว่า ขึ้นวัวขนาดหนึ่งลูกบากศ์ฟุต ให้ความร้อนได้ราว 600 บีทียู

ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์