(25-02-2009, 14:10)lekleklek Wrote: "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" ดีมากครับ เคยอ่านตั้งแต่ยังไม่ออกเป็นหนังสือเลยครับ ในเวปของดังตฤณ ตั้งแต่นั้นมา ความคิดเปลี่ยนเลย....
ว่าแต่..เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นใช่ไหมนี่ ...
..
(25-02-2009, 16:44)โฟล์คน้อย Wrote: (25-02-2009, 16:28)Maew141 Wrote: อืม... ท่าทาง อีกหน่อย ท่านเจ้าสำนักจะไปถือเพศบรรพชิต นะครับนี่ ..หุหุ
ส่วน "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" นี่ เห็นบ่อยมาก เห็นนานมาก แต่ไม่เคยคิดจะหยิบขึ้นมาเลย
แต่น้าโฟล์คแนะนำ แถมน้าเล็กยืนยัน คงต้องไปพลิกดูนานๆหน่อยละ (แล้วค่อยคิดอีกที)
ผมก็เหมือนน้าMaew141.. ล่ะครับ..
เห็นหนังสือเล่มนี้บ่อยมาก.. นานมาก.. เคยแต่เปิดผ่าน ๆ..
แต่วันนึงไปเห็น "เสียดาย.. คนตายไม่ได้อ่าน 2" ออกมา..
ก็เลยลองยืนอ่านดู..
สรุป..
วันนั้นผมก็เลยซื้อทั้งเล่ม 1 และก็เล่ม 2 กลับมาพร้อมกันเลย.. อิอิ..
อันที่จริงแล้ว ที่ผมไม่เคยคิดจะหยิบเพราะ ไม่ชอบชื่อหนังสือ แค่นั้นเองครับ
จะว่า อคติ ก็ได้ แต่รู้สึกว่า
...ชื่อหนังสือนั้นแฝงนัยความมีอัตตาอยู่ในที ทั้งๆที่เนื้อหาน่าจะช่วยลดอัตตา...
จริงๆเรื่องนี้ ถ้าคิดไปแล้ว อัตตานั้นอาจจะอยู่ที่ตัวผมเองก็ได้ ทำให้ไม่คิดจะหยิบ
แต่คราวหน้าถ้าเห็นจะหยิบมาดูให้ถ้วนทีเดียว
อิอิ
---------
ผมขอก๊อปที่เคยเขียนถึงหนังสือ เดินสู่อิสรภาพ ของ อ.ประมวล ไว้สักหน่อยนะครับ
เพราะ เป็นหนังสือที่ถึงจะอ่านจบไปนานแล้ว แต่ก็นึกถึงเนื้อหาในหนังสืออยู่เสมอ
น่าจะคล้ายๆกับที่น้าโฟล์ค รู้สึกว่า มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว ก็นึกถึงเนื้อหาในหนังสือ ก่อนพ่อตาย
อยากให้น้าโฟล์คน้อยพอได้ไอเดีย...
อาจารย์ประมวลเป็นอดีตอาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันหนึ่งเมื่อสัก 3-4 ปีที่แล้ว อ.คิดว่า สถาบันการศึกษาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเป็นธุรกิจขึ้นทุกที ซึ่งขัดกับทรรศนะส่วนตัวของอาจารย์ที่มีต่อสถาบันการศึกษา กอปรกับ อาจารย์อยากทำตามความฝันที่ตัวเองอยากทำมานานคือ เดินเท้ากลับบ้านที่สมุย อาจารย์จึงลาออกจากการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้วเริ่มทำตามความฝันที่วางไว้ เป้าหมายของการเดินคือ ให้หลุดพ้นจากความกลัว ความโลภ โกรธ หลง อาจารย์ตั้งใจจะไม่ใช้เงินเลยระหว่างการเดินทาง และจะไม่โอดครวญขอความช่วยเหลือจากใคร นอกจากผู้อื่นจะเมตตาให้, เดินโดยอาศัยความศรัทธาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ , ความเชื่อว่า เมตตาธรรมยังคงมีอยู่ในสังคม เดินโดยมีความคิดที่ว่า ถ้าจะตายก็พร้อมจะตาย หลังจากที่ลาออก อาจารย์เริ่มจากการฝึกเดินแถวๆบ้านก่อน ประมาณเดือนนึง จนคิดว่าปรับสภาพร่างกายได้พอเพียงแล้ว ก็ออกเดินทางจากเชียงใหม่ถึงสุราษฏร์ อาจารย์ใช้เวลาทั้งหมดสองเดือนกว่าๆ ระหว่างทางก็ได้พบปะผู้คนมากมาย และได้ค้นพบสัจธรรมหลายๆอย่างด้วยตนเอง อาจารย์ใช้ใจสัมผัสกับสิ่งที่พบเจอมากกว่าที่จะใช้เหตุผล และได้ขบคิด วิเคราะห์สิ่งต่างๆที่ได้พบเจอและเปรียบเทียบกับธรรมะที่เคยศึกษามา สิ่งที่อาจารย์ได้ถ่ายทอดผ่านหนังสือเล่มนี้สอดแทรกแง่คิดต่างๆไว้มากมาย สรุปแล้วเป็นหนังสือที่ดีมากๆ อยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่าน
--------------
แต่หลังๆผมไปเดินร้านหนังสือ ก็ไม่ค่อยเห็นหนังสือเล่มนี้แล้ว
คาดว่า คงหมด แล้วอีกสักพักคงพิมพ์ใหม่
ล่าสุดรู้สึกจะพิมพ์ครั้งที่ ๑๑ แล้ว