ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ อ่านเรื่องการประลองในครั้งนี้ รู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง ทั้งๆที่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยเพราะท้องไส้ปั่นป่วนจากการกินก๋วยเตี๋ยวเรือรสจัดจ้าน
กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น ผมเชื่อจริงๆว่าน้าปู๊ดเหนื่อยมากๆและอยากให้พวกเราสนุกกัน อย่างผม...เมาจนเขย่าต้นมะม่วงจนจิ้งหรีดหยุดร้องแถวๆตีห้า...นั่นสนุกมาก
หรือสลบอยู่บ้านน้าป๋อ ตื่นมาตอนเก้าโมงเช้า...ฝนพรำๆ...อูยยย หาไม่ได้แล้ว (แอบเปิดตู้เย็นเหน็บของกินหนีไปอีกต่างหาก)
แต่การประกวดกีตาร์ มันอาจจะเหมือนการประกวดหนัง..กระมังครับ (โยงเข้าเรื่องใกล้ตัว)...
มีอยู่ปีหนึ่งการประกวดหนังสั้นจากหนังสั้นที่คัดมาแบบสุดๆ 9 เรื่องตั้งรางวัลไว้มาก ทุกๆเรื่องได้รางวัลที่แตกต่างกันไป ทุกคนกลับบ้าน happy เพราะเหนื่อยจากการทำหนังมาตลอดครึ่งปี (ไม่รวมเขียนบทอีกครึ่งปี)
ปีต่อมาพบว่าการลงทุนทำหนังสั้นเพิ่มขึ้นสูงมาก เพื่อรางวัล...
หนังสั้นที่ควรจะเน้น storytelling กลายเป็น production ระดับเป็นแสน...
พวกกระผมเลยคุยกันเพื่อลดรางวัลเหลือเพียง 2-3 รางวัลเท่านั้น แต่คุณภาพและจำนวนหนังที่คัดเข้าประกวด ก็เท่าเดิม....
ปรากฏว่า มีคนเสียใจเยอะเลยครับ...
เพราะว่าลงทุนไปเยอะบ้าง
ทุ่มทั้งใจบ้าง
ทุ่มทั้งตัวบ้าง
สุดยอดถวายชีวิตเพื่อหนังเรื่องนี้
บทหนังเขียนตั้งแต่ปีนู้น ฯลฯ
หนังทุกเรื่องที่คัดมาโชว์ มันสุดยอดจริงๆ หาที่ 1 ไม่ได้
แต่มันจำเป็นต้องหาที่ 1
คนทำหนังรู้สึกดีที่ได้รางวัลมากกว่าตกรอบไปเฉยๆครับ แม้รางวัลจะไม่มีตังค์ให้ แต่มันเป็น drive ให้เค้าทำต่อ
กีตาร์ของคนที่เล่นประจำรักใคร่ ก็อาจจะแคลงใจเมื่อวันหนึ่งถูกเปรียบเทียบแล้วตกรอบ เหมือนรถที่ปั้นแต่งทั้งตัวและหัวใจแต่ดันแพ้ เครื่องกระจายกลางสนาม
ส่วนผมอยากไปงานประกวดหรือประลองดื่มไวน์กับน้าไผ่ครับ
ผมจะได้เขย่าต้นมะม่วงหยุดจิ้งหรีดอีกรอบ!!!..
ยิ่งเหงาๆอยู่ด้วย!!
ด้วยความเคารพรัก
---------------------------