ขอบคุณมาก สำหรับ น้าป๋อ เเละ ป้าเเดง พี่ kiss น้าศรัณ น้าปุ๊ ที่เเวะมาเยี่ยมด้วยนะครับ
ทำขึ้นมามีคนฟังบ้าง ผมก็ดีใจเเล้ว ยิ่งได้เผยเเพร่งานของท่าน ผมยิ่งดีใจ รู้สึกภูมิใจกับการได้บรรเลงผลงานอันเเสนงดงามของท่าน
เเละ ขอบคุณทุกท่านที่เเวะมาด้วยครับ
....................................
-ขอบคุณสำหรับคำถาม เป็นคำถามที่ดีมากครับ
ถามว่า....มองเรื่องนี้ยังไงบ้าง เริ่มสนใจธรรมะมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมีผลกับชีวิตในแง่ไหนบ้าง..
แล้วคิดว่า มีอะไรสัมพันธ์กันบ้างไหมครับ ระหว่าง การปฏิบัติธรรม กับ การฝึก,การเล่นดนตรี??
ขอตอบคร่าวๆดังนี้นะครับ
ผมสนใจในธรรมะ ตั้งเเต่เด็ก ก็เรียนรู้เท่าที่มีโอกาส ได้อ่านหนังสือ เเละ พบเจอผู้ฝึกฝนตนเอง บอกกล่าวเเนะนำ จนกลายเป็นเหมือนนิทานเด็กสำหรับผม ก็เข้ามาในชีวิตไม่รู้ตัวเเหละครับ มาเรียนเพิ่มเติมที่นี่อีก สถาบันพลังจิตตานุภาพ (WillpowerInstitute) หลักสูตรครูสมาธิ
สติ สมาธิ มีผลกับการทำงาน ในทุกสาขา เกิดขึ้นเป็นปกติ เเต่มาฝึกเข้าใจเท่าทันมันเพิ่มเติม เเละ หากลอุบายฝึกจิตให้สมาธิดีขึ้นเรื่อยๆ
ศีล มีไว้เพื่อ ฝึกสติให้คงไว้ในความรู้ตัว ไม่ก่อปัญหาต่อตนเอง เเละ สังคม .... ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นของที่สัมพันธ์กันมาก
เมื่อฝึก พัฒนาด้านใด ด้านอื่นจะปรับตัวขึ้นเองโดยธรรมชาติ
เมื่อสมาธิดี ก็รักษาศีลได้ดี มีศีลมีสามธิดี คิดได้ เกิดปัญญา คนมีศีลดี ก็คือคนรู้คัว เท่าทันตน ก็คือ คนมีสมาธิ เมื่อ มีสมาธิ ก็เกิดปัญญา
เเต่ ปัญญา หากเกิดโดยมี สมาธิ อาจก่อทางดี ทางร้ายได้ ต้องควรมีหลักศีลธรรมในใจ เพื่อปกครองใจตน เข้าหาการพัฒนาในทางดี
ธรรมะ จริงๆ ก็ คือธรรมชาติ การเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง ของธรรมชาติ เราก็จะมอง เข้าใจทุกสิ่งด้วยความเป็นกลาง
กระบวนการนี้ หากมีสมาธิดี อาจเนื่องจากประสพการณ์ การทำซ้ำบ่อย เราจัดว่าเป็น...ฌาณ คือ การเพ่งอยู่ จิตเป็นสมาธิหยุดนิ่ง เกิดความสุขขึ้น ซึ่งดนตรีสามารถก่อให้เกิด เเละ พัฒนาต่อได้
ฌาณ บางทีก็เรียกว่า ความชิน เป็นระดับความนิ่งของจิต
ขอกลับมาที่ กระบวนการคิดขณะทำการเเสดงดนตรีนะครับ
ประสพการณ์ + เหตุผล + ความรู้สึก ....ดำเนินการคิดเสียง-------
=?.การคิดเสียง --- ส่งข้อมูลต่อไปยัง ----กล้ามเนื้อ ทำการตอบสนองความคิด เป็นการเคลื่อนไหว----
= การเคลื่อนไหว....เเสดงเสียงที่ต้องการออกมา ------ เกิดเสียงขึ้น ส่งข้อมูลไปยังการได้ยินของ..... หู------
= การได้ยินของ หู....รับเสียง ส่งข้อมูลไปที่สมอง ประมวลผล คิดแก้ไข คิดสร้างเสียงต่อไป
ส่งไปที่ระบบประสาทสั่งการเคลื่อนไหว สร้างเสียงต่อไป....
= ครบวงจร แล้วทำซ้ำไปจนจบหน้าที่ในบทเพลง...อันนี้ ในความคิดผมนะครับ....
ขอกลับมาเพิ่มเติมเเบบฮาๆ: ที่เรื่องความเชื่อนะครับ การทำทุกสิ่งต้องใช้ใจ ที่ศรัทธา มีความเชื่อมั่น
ไม่นานนี้ ก็เพิ่งยกตัวอย่างไป
เรื่อง matrix ภาคแรก ที่เขาเริ่มมีความเชื่อ เขาเริ่มดึงเฮลิคอปเตอร์ได้
การโหลดข้อมูลของสิ่งต่างๆ เป็นความรู้ แต่ต้องมีความเชื่อ แรงศรัทธาด้วย ไม่งั้นข้อมูล ก็เป็นแค่ข้อมูล
แล้วถ้าสังเกตุตอนแรกพระเอกเรา โดนกระสุนยิงมาเห็นแล้วเอี้ยวตัว ก้มหลบ.... ไปๆมาๆกระสุน เห็นชัดมาช้าขึ้น จนตอนหลังหยุด เห็นชัดเลยนั่นคือ ตระแกรงของเรา ละเอียดขึ้น ทุกอย่างช้าลง
ตัวโน๊ตการควบคุม สั้น ยาว หนัก เบา การจัดวางองค์ประกอบในช่วงเวลา ถ้าเรามีความละเอียด ไวกว่าสิ่งต่างๆ ที่ดูยุ่ง วิ่งไปมา
เราจับเค้าได้ .....เเม้เวลาเเค่ 1วินาทีสมองเราจะประมวลผลได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ไอน์สไตน์ยืนยันว่านอกจากเวลาจะยืดหด ยังย้อนกลับได้อีกด้วย?.จริงๆท้ายๆผมว่าเขาคงเข้าใจไปถึง ระดับของจิตแล้ว การละเอียดหยาบของจิต สมาธิ ปัญญาญาณ หลายสิ่งที่ มาจบในอ่างน้ำ ลุงหัวขาวนี้ แช่น้ำต่อวันนานมากๆ ปล่อยใจสบาย แล้วมันจะออกมาเอง เรื่องนี้ผมเชื่อว่าจริง
หลายครั้งเรา ตัดระบบความคิดไป ปล่อยให้ว่างเปล่า ตน ในตน องค์ความรู้ที่สะสมไม่ว่าจะนานเเค่ไหน อาจออกมาโดยเรา เเค่นิ่ง สงบ เป็นเครื่องรับข้อมูลที่ดี
มีโอกาส ก็ลงพิจารณาอ่านกันครับ ถ้ายังอธิบายไม่ดีเท่าที่ควร ต้องขออภัยด้วยนะครับ
... พอดีเหนื่อย เดี่ยวมาตอบอีกทีครับ