มาพูดคุยกันเรื่องเกี่ยวกับ DI Box สักนิดนะครับ....
จากประสพการณ์จำนวนหนึ่ง ทั้งเล่นสด บันทึกเสียง....สำหรับในการทำงานดนตรีเเล้วอุปกรณ์ชิ้นนี้ผมว่า...ไม่ควรมองข้าม
ต้องออกตัวว่าผมเป็นคนไม่มีความรู้ สักเเต่ว่า...รู้ว่าต้องใช้ จึงไปค้นๆหาข้อมูลมาฝาก ที่น่าเชื่อถือดันเป็นของคนในบ้านเราเองเขียนไว้ที่อื่น เป็นน้าว่อง น้ายอดจุ๊
เลยคัดลอก เเละเพิ่มเติมลงไปบ้างดังนี้ครับ
DI Box มีหลายชือ เช่น direct input, direct injection,direct interface ทำหน้าที่ matching impedance ครับ
สัญญาณ Output ของ กีตาร์ไฟฟ้า เป็น High Impedance Level ครับ ส่วน Microphone เป็น Low Impedance Level ดังนั้น เวลาเราเอากีตาร์ไฟฟ้า จะมาเสียบเข้า Input ของ Mixer จึงต้องมี DI เพื่อปรับสัญญาณ
หน้าที่อีกอย่างของ DI คือ เปลี่ยนสัญญาณ จาก Unbalance signal ให้เป็น Balance Signal ครับ โดย Balance จะมีความแรงของสํญญาณ มากกว่า และ Noise น้อยกว่าทำให้ เพิ่มระยะห่างระหว่าง กีตาร์ กับ Mixer ได้ หรือใช้สายสัญญาณยาวๆได้ โดยไม่ Drop นั่นเอง
DI ทำออกมาหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็น DI เฉยๆ DI ที่ Build-in Preamp หรือ Compresser มาด้วย เช่น Para EQ ของ LR Baggs หรือ เป็น DI with Multi Effect and Cabinet Simulator แบบ เจ้าถั่วแดง หรือ POD ครับ
สรุป...DI ทำหน้าที่สองอย่าง
1. เปลี่ยนสัญญาณ Hi impedance (ความต้านทานสูง) เป็น Low impidance (ความต้านทานต่ำ)
2. เปลี่ยนสัญญาณ Unbalance Level เป็น Balance Level
การใช้งานถ้าอ่านจากข้างบนคงพอเข้าใจเเล้ว เเต่เล่าเป็นรูปธรรมมากขึ้นอีกนิดละกันครับ
อย่างเช่นเวลาเล่นบนเวทีที่มีความไกลกับ Mixer.... ผมเคยครั้งนึงที่งานเเจ๊สหัวหินปีเเรก สายเเจ๊คยาวมากมายืนเล่นข้างล่างเวที ตามคำสั่งการเเสดงที่เขาบอกมา
ปรากฎว่า ดีดตรงนี้ทีนึง เสียงดังที่ลำโพงอีกทีนึงหลอนมาก เล่นไม่ได้ สักเเป๊บพี่ที่ดูเเลเครื่องเสียงนำไอ้กล่องที่ว่ามาต่อปรากฎหายครับเสียงดังพร้อมเวลาดีดตรงกัน
ไม่ได้มีหน่วงสัญญาณหลอนๆเเบบนั้นอีก เเละ สัญญาณเต็มขึ้น ชีวิตมีความสุขกับการเล่นดนตรีอีกครั้ง..............
เคยมีไปเล่นในโบสถ์อีกทีนึง มีเพื่อนนักดนตรีเเต่งงาน เราเตรียมไปเล่น Surprise ให้เพื่อนเราเอากีตาร์ซ่อนไว้ใต้เก้าอี้ มีสายเเจ๊คเเค่เส้นเดียว มีคนบอกว่ามีที่เสียบหลายทีเต็มโบสถ์เลย เราก็นึกว่าชีวิตจะง่าย...
เเต่ว่า...ที่พื้นเวที เเละ ทุกจุดที่จะต่อเครื่องเสียงอะไรก็ตามเป็นที่เสียบเเบบสายไมค์ Balance หมด
oh...GOD
โชคดีที่มีเพื่อนนักดนตรีอีกคนมีไอ้กล่องที่ว่านี้ เอามาช่วยไว้ทัน ก็ยิ้มเเย้มรอดตาย ทำให้มีความสุขกับเสียงดนตรีที่ดีทั้งผู้บรรเลง เเละเเขกในงาน
เป็นการเเสดงกายกรรมกีตาร์ครั้งเเรกในโบสถ์ที่มันส์มากๆ.....
ตอนหลัง เวลาไปอัดเสียงก็จะเจอไอ้กล่องที่ว่านี่อีก เวทีต่างๆหลายที่ก็จะเจอมัน บางทีไม่มีก็รู้สึกไม่อุ่นใจ จนผมต้องซื้อมาติดตัวไว้เป็นเพื่อนยามเดินทาง เเละ ในการอัดเสียงของผมด้วยเช่นกัน
DI Boxของผมเป็นปรีด้วยเพราะตอนนั้นใช้ไมค์คอนเดนเซอร์ ตัวนี้เป็นปรีหลอด เเละจ่ายไปเลี้ยงไมค์ได้ด้วย ด้วยความโลภจึงได้มันมาในครอบครอง
ของผมเป็นตัวถูกๆ เเต่มีอะไรเต็มไปหมดเลย ของพี่ผึ้ง อาร์เเชร์ เป็นกล่องดูโง่ๆดำๆของ dbx ไม่ใส่ถ่านไม่มีที่ปรับอะไรนอกจากสวิทอะไรสักตัวนึง
ตอนไปซื้อด้วยกันราคาน่าตกใจมากๆ ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรดียังไงเเตกต่างเเค่ไหน ถ้าใครมีข้อคิด ความเห็นเกี่ยวกับความเเตกต่าง การเลือกก็เชิญความเห็นด้วยนะครับ
ผมมาเขียนถึงสิ่งที่ผมไม่ค่อยมีความรู้นี้ ก็อยากเเลกเปลี่ยนประสพการณ์ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็รบกวนมาช่วยกันหน่อยนะครับ อยากรวบรวมข้อมูลอันนี้ไว้ให้เป็นที่เป็นทาง
ขอบคุณมากครับ
............. ;?? ?..............
*.:??*Parradee ...A Journey of Us - ?.:* *.:??*?;??
อย่าไปเอาอะไรกับนักเขียนนิยาย