Microtone
Member
Posts: 199
Likes Given: 0
Likes Received: 0 in 0 posts
Joined: 10 Jun 2009
Reputation:
3
|
RE: กีต้าร์ประเภท "ว้าย! แพ๊งแพง ถ้าพี่ซื้อ เราเลิกกัน"
พูดถึงเรื่อง Black Beauty 3 pickup Les Paul ตัวนี้. จะพยายามเอาให้สั้นเท่าที่ความสามารถจะอำนวย..ถ้าไม่ยังงั้นแล้วก็จะดูเป็นเรื่องโอ้อวดเกินไปประเภท "Me Me Me" (I Me Mine) = ฉัน, ดิฉัน, ข้า, ข้าพเจ้า, ผม, กระผม, กู, ตน, เค้า, หนู, อาตมา...ฯลฯ. แล้วอาจจะทำให้เด็กๆที่อยากเล่นกีต้าร์แต่ไม่มีตัง เกิดเข้าใจผิด เกิดหมั่นไส้ และตรึงเครียดขึ้นมา ทำการปฏิวัติ..."ไม่เล่นกีโต้งกีต้าแม่มันแล้ว..ไอ้พวกไฮโซนี่ กูไม่มีเงินอย่างพวกมึงโว้ย.. กูไปหายาบ้าดีกว่า มันถูกกว่าด้วย" (อะไรยังงี้) ใจเย็นๆนะหลานเอ้ย วันนึงจะเอากีต้าร์ประเภทถูกๆ, สถุนๆ แต่เสียงก็ดีอย่างแปลกๆมาให้ดู.
เอาละ! ~~~~~~~~ มาจะกล่าวบทไป.....เอิงเงย~~~~เอิงเงย~~~~
December 31, 1978 ที่อเมริกา เพื่อนฝรั่งคนนึงเดินเข้ามาทักเราหลังจากที่เขาหายหน้าไป 3 ปี เขาเคยมาแจม เล่น Bass และร้องเพลงกับวงเราบ่อยๆที่ไนท์คลับ เขาแปลกใจที่ผมเล่น Telecaster ถามว่าทำไมผมไม่เล่น Les Paul (Deluxe)แล้วล่ะ ผมบอกเขาว่าผมขาย Les Paul ตัวนั้นไปแล้ว..เบื่อ! เขาบอกว่าพี่ชายของเขา (มือเบสอาชีพ/นักแต่งเพลง) มี 3-Pickup Les Paul, และเขาอยากจะขายด้วย เราก็นึกว่าอาจจะเป็นของใหม่หรือว่าเป็นแบบ SG Les Paul ก็ถามว่าเป็นตัวสีขาวหรือสีเลือดหมู เขาตอบว่าเป็นสีดำ แถมย้ำด้วยว่าถ้าผมไม่ซื้อ เขาจะซื้อไว้เองแล้วเก็บไว้ให้ผมซื้อต่อ เขาเสียดายเพราะสียงมันดี แล้วให้เบอร์โทรศัพท์ไว้..(มันรักผม! ฮือ..มันเป็นเกย์หรือป่าวว๊ะ..พูดเล่นๆคร๊าาาบ)
วันรุ่งขึ้นเป็นวันปีใหม่ปี 1979 ก็ไม่อยากจะไปรบกวนเขา...ตกวันที่สองก็โทรไป พี่ชายเขาก็เชื้อเชิญเราไปที่บ้านเขา..เล่นเพลงใหม่ที่เขาแต่งให้ผมฟังแล้วก็เอากีตาร์มาให้ดู..ก่อนหน้านี้เขาโทรไปสอบถามราคาประเมินกับ Gruhn Guitars (Nashville) ตกลงกันแค่ $1000 ผมก็อธิบายให้เขาฟังด้วยใจจริงว่า ผมเคยซื้อและแลกเปลี่ยนกีต้าร์กับร้านนี้มาตั้งแต่ปี 1975 ผมก็รู้ลูกเล่นมันดี ผมก็ให้ข้อคิดเขาว่า ถ้า Gruhn มันไม่ซื้อหรือว่ามันโยเยขอซื้อถูกกว่า $1000 เขาเองต้องเสียค่าส่งทั้งไปกลับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามผมบอกเขาว่า ผมยินดีที่จะจ่าย $1000 (ใจจริงแล้วผมกะจะให้เขา $1200-1500 ด้วยซ้ำไป) เขาบอกว่าเขาเอาแค่ $700 เท่านั้น ดูซิ ""good old boy" สมัยก่อน! ไม่ใช่ว่าเขาเซ่อหรือไม่รู้ค่าของของ แต่เขาเข้าใจว่าผมสะสม,รักและหายใจเป็นกีต้าร์์ เขาก็อยากให้คนที่รู้ค่าของของเก็บรักษาไว้ และเขาก็เป็น artist ด้วยเหมือนกัน เขาก็รู้ดีว่าคนอย่างผมไม่มีเงินมาก
ผมโทรไปหาภรรยาที่ทำงานบอกเขาว่า ตกลงจะซื้อแล้ว และจะไปเบิกเงินในแบงค์ด้วย ภรรยาก็ดีใจด้วยเพราะก่อนหน้านี้เราสองคนตามล่าหาซื้อ 3-pickup Les Paul มาตั้งแต่ปี 1976 ปีเดียวกับ Peter Frampton ขึ้นระเบิดมา แต่ผมเห็น Jim Page และ Keith Richards เล่นมาก่อนนานแล้ว และเก็บรูปภาพเก่าๆ (Jim & Keith)ไว้ใต้เตียงและศึกษา (analyze) มานานแล้วด้วย (ภรรยาผมรู้ดี) ยังจำได้เลยว่าเราสองคน (ผมและภรรยา) เคยโทรไปถามร้านขายกีต้าร์เก่า เป็นต้นว่า Gruhn, McPeak. Guitar Emporium, Manny's ฯลฯ ทุกอาทิตย์เลยว่า "มี 3 pickup Les Paul ขายหรือเปล่า"
ไปที่ธนาคารและก็ยัดเยียดให้เขาไป $800 แต่ก่อนนั้นขออนุญาตเขาให้ผมถอด pickups มาตรวจก่อนว่ามันเป็น patent pending หรือ patent applied for.......เป็น PAF ทั้ง 3 อัน! ผมก็ "กรี๊ดดดดด์" เลย เพราะรู้ว่าไอ้ PAF มันมีเสียงเป็นยังไง (รู้เรื่อง PAF นี้มาก่อนนานแล้วจากประสบการณ์ ไม่ใช่เอาขี้ปากเขามาพูด)
เจ้าของเขาเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตอนที่เขาเป็นเด็กวัยรุ่นเขาเคยมี rock & roll band และเขาจำได้ว่า ตอนวงแตกเขาเป็นมือ bass แต่อยากได้กีตัาร์ตัวนี้ เขาก็ขาย motorcycle ของเขาเพื่อจะได้เอาเงินมาซื้อกีต้าร์ตัวนี้จากวง. ตอนนี้เขาย้ายไปอยู่ที่ Nashville เขากลับมาเยี่ยมบ้านนานๆครั้ง แต่ทุกครั้งที่เห็นผมเขาถามว่า " How's my son (guitar)?"
เพื่อนนักดนตรี (ฝรั่ง/มืออาชีพ) ที่ผมเคยเล่นด้วยเกือบทุกคนชอบเสียงกีต้าร์ตัวนี้ จำได้ว่าคนเล่นคีบอร์ดตัวแสบคนนึง แม่มันชอบเล่นดังเหลือเกินอย่างประเภทเซดิซท์/ซาดิซท์ เขาเล่น keyboard หลายตัว พร้อมกับ Hammond B3 กับ ลำโพง Leslie สองตัว(!!!!) ซ้ายอันนึงขวาอันนึง ผมเล่น Stratocaster หรือ Telecaster กับ (black face)Twin Reverb (with JBL) บางครั้งตอนมีคนแน่นๆ เปิด volume ถึง 10 ก็ยังไม่ได้ยินกีต้าร์ของผมเองเพราะไอ้ห่าบ้าเลือดตัวนี้มันดม coke เข้าไปแล้วหลงคิดว่าตัวมันเป็น Jon Lord (Deep Purple) ...นี่เรื่องจริงนะ บางครั้งเขาบ้าเลือดขึ้นมา ผมต้องใช้ earplugs มาอุดหู บางครั้งนักร้องก็เดินหนีออกจากเวทีไปเลย...แต่ทุกครั้งที่ผมเอาไอ้อ้วน 3-pickup Les Paul ตัวนี้เข้าไปเล่น เพื่อนที่เล่นด้วยทุกๆคนรวมทั้งไอ้เซดิซท์คนนั้นชอบมากๆ เพราะเขาได้ยินเสียงกีตาร์ชัดดี และเสียงมันไม่แสบหูด้วย.
สมัยก่อน..ถ้าผมทราบก่อนว่าเราจะไปเล่นงานนอกและต้องใช้เครื่องของคนอื่นเขา แต่ไม่แน่ใจว่า amp มันจะดีหรือเปล่า ผมก็หิ้วไอ้ตัวนี้ไปเล่น การันตีได้เลยครับว่า หลังจากนั้น กลับบ้านไปดูเทปหรือข่าวโทรทัศน์ที่เราไปเล่น.....เสียงอ้วนและชัด....ไม่ขายหน้า.... ทุกครั้งเลย!!
มีเรื่องที่จะพูดกับเรื่องเสียงของกีต้าร์ตัวนี้อย่างภูมิใจ.....ทฤษฎีหรือสมมติฐานที่"ผู้เชี่ยวชาญ" ระดับโลกหลายหลายคนได้เขียนไว้เกี่ยวกับกีต้าร์ในหนังสือต่างๆ ผมไม่ค่อยอ่าน แต่ถ้าอ่านก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่ถ้าเชื่อก็ไม่เชื่อหมด ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนที่มีความสำคัญ หรือมีชื่อเสียงเกี่ยวกับกีต้าร์หรอกครับ แต่ผมมีความเห็นของตัวเองจากประสบการณ์เกี่ยวกับกีต้าร์(นิดหน่อย) ค่อยพูดกับเรื่องนี้คราวหน้าเมื่อมีเวลา....... เอายังงี้แล้วกัน ผมเคยสะสมกีต้าร์ (อย่างคนวิกลจริต?) มาตั้งแต่สมัยก่อนที่โลกเรายังไม่มีมีร้าน "Gruhn Guitars" (1970?) หรือหนังสือของ "Tom Wheeler" (1977?) อย่าลืมว่าสมัยนั้นเราไม่มี internet, ไม่มี YouTube, ไม่มี guitar magazines,ไม่มีร้านขายกีต้าร์เก่า, ไม่มี fender/gibson/martin serial # Lists, ไม่มีคำว่า "Vintage guitar", "Collectible guitar" มีแต่คำว่า "old guitar" หรือ กีต้าร์เก่าๆ เท่านั้น กีต้าร์เก่าๆเป็นของน่าอายมาก ก็มันเป็นของใช้แล้วนี่ครับ เป็นของ "ไม่ไฮโซ", เป็นของที่ซื้อได้จากที่เดียวคือ pawnshop หรือบ้านเราเรียกว่า "โรงจำนำ" ในกรุงเทพก็มีอีกแห่งนึงคือ "หลังกลาโหม" คนแก่ๆที่นี่ยังจำได้ไม๊ครับ?
อ้าว! ผมหลงรางแล้ว ขอถอยหลังกลับไปหน่อย. ตั้งใจจะบอกคุณน้องๆลูกๆหลานคนไทยทุกคนด้วยความปรารถนาดีว่า ถ้าเราได้เห็น, ได้อ่าน, ได้ฟัง, ได้กลิ่น อะไร ก็อย่าไปงมงายเชื่อมันทั้งหมด100% เกือบทุกอย่างในโลกมี "ข้อยกเว้น" แม้แต่ในกฎหมายมันก็ชนะกันตรงนี้ล่ะครับ "ข้อยกเว้น" ระวังต่อคำว่า "แต่" หรือ "but'' ในอักษรตัวเล็ก (fine print) ให้ดี.
ครั้งหนึ่งผมเคยไปเล่นงานนอกที่ State Fair เขาจัดเป็น '50's Rock & Roll สงสัยว่าจะเป็นปี 1980 เป็นงานใหญ่ มีวงดนตรีหลายวงด้วย ทุกคนต้องแต่ตัวเป็นแบบสมัย1950's ตอนนั้นผมซื้อกีต้าร์เก่าอย่างบ้าเลือด เพราะมีเงินดีนิดหน่อย ก็มีของดีแยะ custom color Pre-CBS strat(ssssss), '63 Firebird VII, '62 ES 335, '59 ES 355(stereo) ฯลฯ แต่ไม่เชื่อใจตัวไหนเลย..ผมก็หิ้วไอ้อ้วน 3-pickup ตัวนี้แหละไปเล่น....และก็มี DJ อยู่กับเราบนเวทีด้วยเพราะเขา broadcast สดๆเลย..ตอนเพลงสุดท้ายก็เป็นเพลง Whole Lotta Shakin' Goin' On (Jerry Lee) เราก็คิดว่าเป็นเพลงสุดท้ายแล้วก็น่าจะเอากันให้มันมันส์หน่อย เด็กวัยรุ่นจะได้กรี๊ดกร๊าดและเต้นรำได้สนุกกันด้วย ก็ขอยืม Jim Page's "Heartbreaker" solo (เก่าๆ) มามั่วเล่นเป็น intro อย่างหน้าด้าน แล้วตอนจบก็ล่อ outtro เสียเกือบ 3 นาที. แอมพ์ที่มันให้ใช้บนเวทีก็เป็นของไม่ค่อยมีสกุล, (Sunn) และผมไม่ใช้ effect (ไม่ใช่ว่าไม่มีใช้แต่ไม่ชอบ, มันเรื่องมาก) ตอนลงมาจากเวทีนี่ซิ! ไอ้ sound man (เราก็ไม่รู้จักมันแต่สงสัยว่ามันเล่นกีต้าร์ด้วย) มันตะโกนบอกเป็นภาษาอังกฤษว่า "มานี่ มานี่ ผมอัดเทป (cassette) ให้คุณไว้ทั้งหมดทุกเพลง ผมทำ copy ให้คุณไปฟังเสียงกีต้าร์ของคุณดูหน่อย..โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงสุดท้ายผมขนลุก(!!!!)หมดเลย วงก่อนหน้าคุณ4วง กีต้าร์มันเสียงธรรมดาๆ" ผมก็กล่าวขอบใจมัน. กลับบ้านเอาเทปไปเปิดฟัง...ก็.."โอ้โห นั่นมันไม่ใช่เรานี่หว่า..ไอ้กีต้าร์มันเล่นเรานี่" ยังมีเทปอยู่เลย
มีเรื่องจะเล่าได้กันเป็นวันๆละครับกับกีต้าร์ตัวนี้ นี่ก็พิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า Les Paul Custom เสียงสู้ Les Paul Standard ไม่ได้ เพราะไม่มี Maple top. ผมว่าไม่เป็นจริง 100% หรอกครับ นานมาแล้วผมเคยได้ลองดีด '58 & '59 original Sunburst ของเพื่อน ก็ยังงั้นแหละไม่ประทับใจเท่าไร....จำได้ว่าในปี 1974 มีโอกาศได้ซื้อ 1960 Sunburst ราคา $3600 แต่ตอนนั้นตกงานก็ไม่ได้ไปดู.
ลืมไป, อาทิตย์ที่แล้วไปขุดไอ้ Black Beauty ตัวนี้ เพื่อจะได้ถ่ายรูปให้น้องๆดูกัน..อยู่ในกล่องนานๆก็อยากจะให้เพื่อนที่ทำกีตาร์ตรวจสอบหน่อยเมื่อ 2 วันนี้ พอดีไปเจอเพื่อนเก่าที่เป็น attorney อยู่ที่ร้านด้วย เขาก็อยากจะลองเสียงไอ้ Black Beauty ตัวนี้ดู ที่ร้านมี Dumble amp 2 ตู้, เขาเสียบเข้าไปกับ Dumble Overdrive Special. ผมก็ได้ยินแต่เสียงกีต้าร์กับเสียงร้องของเพื่อนผมคนที่ดีดกีต้าร์....โอ้ย..โอ้ย...โอ้ย...โอ้ย...โอ้ย...โอ้ย อย่างปวดร้าวมาก.
เฮ่ย!! เอาแค่นี้นะคนแก่คนนี้เมื่อยมือแล้ว!
(This post was last modified: 01-08-2009, 20:17 by Microtone.)
|
|
23-06-2009, 12:24 |
|
|