ยินดีมากๆ ครับน้า Napman กับน้าหม่าวผมเจอกันแกอยู่หลายครั้งครับ แต่ไม่นับว่าบ่อยได้สักเท่าไหร่
ดีใจครับ ที่จะได้เจอคนในบ้านฟ้า เพราะผมเองพลาดแล้วพลาดอีกกับงาน Meeting อยู่หลายรอบมากๆ
ขนาดคนที่คุยกันผ่านโทรศัพท์มากที่สุดคือน้า Grid ผมยังไม่ได้เจอตัวสักทีเลย
แต่โชคดีมากๆ เลยนะครับที่น้ามีโอกาสพักร้อนที่เชียงใหม่พอดี ผมอยู่ที่นี่มากนาน (ไม่ได้เกิดที่นี่ครับ) ผมก็ยังชอบมันเลย
ไม่อยากไปไหน ขนาดว่าปีหน้าจะลงไปหางานดนตรีที่กทม. ผมก็กะไว้ว่าจะอยู่ไม่นาน ขอไม่เกิน 3 ปี แล้วจะกลับไปเล่นที่เชียงใหม่ต่อ
ได้ดูรูปน้า Napman แล้วลองนึกภาพตาม ผมว่าน้า Napman โชคดีมากๆ เลยครับที่อยากเล่นดนตรีแล้วได้เล่น
คุณพ่อของผม แกอายุรุ่นน้องน้าสักประมาณ 10 ปี แกเคยเล่าให้ฟังว่าอยากเล่นกีตาร์เหมือนกัน เห็นเค้าเล่นกันแล้วน่าสนุก
แต่ยุคนั้นดนตรีเป็นเรื่องของคนมีตังค์จริงๆ ยุคผมมีเงินนิดๆ หน่อยๆ ยังพอจะหากีตาร์ราคาถูก ไม่ต้องสนคุณภาพเอามาเล่นได้มากมาย
บางทีแอบเห็นแกมาดีดสายเปล่าเราเล่นๆ แล้วก็เศร้า ให้สอนแกตอนนี้แกคงไม่เอาแล้ว
สำหรับคำว่า Giver ผมคงไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้นเต็มปากเต็มคำอย่างที่น้าพูดเท่าไหร่ครับ
ใน The Secret ว่าไว้ว่า คนที่ใช้ชีวิตเหมือนเกิดมาเพื่อการ Sacrifice ดูเหมือนจะเป็นคนดีมากๆ
แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชีวิตเค้าขาดมากๆ ต่างหาก เค้าเลยเลือกที่จะเป็นผู้ให้เสียเอง แทนที่จะเป็นผู้รับ
ผมก็ไม่แตกต่างอะไรจากคำพูดในนั้นเลยครับ
ไว้มาเชียงใหม่แล้ว ฝากบอกน้าหม่าวให้โทรหาผมด้วยละกันนะครับ อยากเจอเหมือนกัน ผมแอบอ่านกระทู้คุณน้าหลายครับ ชอบคนมีอายุที่ผ่านประสบการณ์มาเยอะๆ ครับ มีอะไรให้เราได้เรียนรู้เยอะดี
ป.ล.เห็นภาพพระแล้วเศร้าใจ ผมพึ่งลาสึกขาได้ไม่ถึงเดือน ไปบวชมาพักนึง อยากอยู่ต่อ...