เมลล์นี้ เคยเห็นมา ซัก 4-5 ปีที่แล้วละ
อ่านครั้งนี้ น่าจะเป็น รอบที่ 5-6 เห็นจะได้
บทความ นี้เป็นของใคร ยังหาที่มาไม่ได้เลยครับ เอาว่าเป็น นาย ก. (นามสมมุติ) ก็แล้วกัน
นาย ก. ได้เขียนบทความ ในสไตล์ ใช้การ?สร้างความหวาดกลัว? ให้เกิดความคล้อยตาม
วิธีนี้จะเห็นบ่อยๆ ในทาง จิตวิทยามวลชน และ เริ่มมาแพร่หลายในวงการโฆษณา (ชวนเชื่อ)
นาย ก. ได้อ้าง งานบรรยายของ คุณ นิติภูมิ มาประกอบบทความ แต่ลองอ่านดูดีๆแล้ว มันไม่ชี้ชัดว่าประโยคไหน คุณ นิติภูมิ ได้กล่าวเอาไว้ด้วยตัวเอง ทางกลับกัน อ่านไปแล้วกลับรู้สึกว่า เป็น บทความวิเคราะห์ ของ นาย ก. เสียมากกว่า
และ อีกประเด็น ผมยังหา สิ่งที่คุณนิติภูมิได้บรรยาย ที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนะธรรมฯ ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543
โดยเฉพาะ ประเด็น ?ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ ? และประเด็น ?ปี 2553 จุดจบประเทศไทย.? ยังไม่เจอ!!!
จึงได้แต่อ่านเมล์นี้ แล้วก็ ผ่านไป?..
บทความสไตล์ นิติภูมิ ไม่ใช่การทำนายอนาคต!!!! แต่มักจะเป็นการวิเคราะห์ และ ประมวลสถานการณ์ ต่างๆทั้งในและต่างประเทศ ที่เกิดขึ้น แล้วมักจะแอบสอดแทรกในตอนจบเสมอๆว่า หาก ตัวเรา ครอบครัวเรา องค์กรเรา หรือ ประเทศชาติเรา เดินรอยตามดังบทความนี้แล้ว ก็จะได้รับผลบุญ ผลกรรม ไม่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดจิตสำนึก ซึ่งมีทั้งในแง่ควรเอาเยี่ยงอย่าง และแง่ดูเอาไว้เป็นบทเรียน
ผมมารู้จัก ชื่อคุณนิติภูมิ จริงจัง ก็เพราะ บทความ จากการ ส่งต่อเมลล์ ข้างต้นนี้ละที่เป็นจุดเริ่มต้น ว่า คุณนิติภูมิ คือใคร
ช่วงนั้น คุณนิติภูมิ มาออกรายการเจาะใจ เลยตั้งใจดูเป็นพิเศษ เขากำลังเริ่มเป็นที่รู้จัก จากรายการ TV และงานคอลัมน์ ในไทยรัฐ
เขามักพูดถึง อาร์เจนตินาอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นช่วงที่ ประเทศนี้ เศรษฐกิจของประเทศ เริ่มจะเจ๊ง แบบ ไม่เป็นท่า ในราวๆ พ.ศ. 2542 ซึ่งบ้านเราก็ฟองสบู่แตก ไปแล้ว พอดิบพอดี และอยู่ในช่วงต้องฟื้นฟู ศก. กันใหม่ ซึงมีทั้งแนวความคิด การกู้ยืมเงิน และการเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน หรือจะยอมอยู่แบบพอเพียง แล้ววิธีไหนจะดีกว่ากัน
ช่วงนั้น คุณนิติภูมิ ดูจะไม่เห็นด้วยกับการ กอบกู้ ศก. ด้วยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่สำคัญๆ ภายในประเทศ และ ไม่เห็นด้วยกับการเข้ามา ของกิจการต่างชาติ อย่างล้นหลามจะเกินความจำเป็น
ช่วงนั้นคุณนิติภูมิ จึงมักจะยก อาร์เจนตินา ที่ต้องล่มสลายทาง ศก. ก็เพราะ นโยบายการสร้างความร่ำรวยให้กับประชาชนในชาติด ของ นายเมเนม ประธานาธิบดีระหว่าง พ.ศ.2532 - 2542 รวมระยะเวลา 10ปีพอดิบพอดี (สอดคล้องกับ นาย ก. ทำนายไว้ 10 ปี เช่นกัน)
วิธีการนายเมเนม คือ
จัดการผ่อนคลายการควบคุมการลงทุน กำแพงภาษี และการค้าของต่างชาติ
ขายสาธารณูปโภค ที่มีอยู่ในประเทศ หรือเรียกเท่ห์ๆว่า แปรรูป รัฐวิสาหกิจ เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน โทรศัพท์และสื่อสาร
แก๊สธรรมชาติ ฯลฯ โดยกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งอาร์เจนตินา ญาติสนิท มิตรสหายของเมเนมและญาติรัฐมนตรีในคณะ ก็ไปกว้านซื้อเองเพื่องเก็งกำไร โดยนำไปขายต่อให้ชาวต่างชาติที่เข้ามากว้านซื้ออีกที และ สเปนเองดูจะเป็น ประเทศที่ซื้อเยอะที่สุด รองลงมาคือ อเมริกา
เดิมของรัฐวิสาหกิจของอาร์เจนตินาให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ ไม่ว่ารัฐวิสาหกิจนั้นจะมีกำไร หรือปริ่มๆ
ก็หันมาแสวงหากำไรอย่างเต็มรูปแบบ แล้วจะไปว่าผู้บริหาร หรือ พนักงานก็ไม่ได้ เพราะ ไม่งั้น ผู้ถือหุ้น ก็คงไม่จ้างงานต่อ
แล้วถามว่า ประชาชนไม่เอะใจเหรอ?
รัฐบาลของนายเมเนม ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ครับ เพราะ ราคาไฟฟ้า ราคานํ้ามัน ถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ
รัฐบาลของนายเมเนมสัญญากับพนักงานว่าจะไม่มีการปลดคนงาน แถมได้รับผลตอบแทน เป็น หุ้น อีก
แปรรูปได้ 10 ปี ประเทศก็เจ๊ง !!!! มีเพียงธนาคาร กิจการต่างชาติ และ คนกลุ่มน้อยที่รวยล้นฟ้า ทียังอยู่ได้เรื่อยๆ
บ้านเราฯ คงยากที่จะเจอ ชะตากรรมเดียวกับ อาเจนตินา ที่ มีผู้นำประเทศหาผลประโยชน์เข้าตัว โดนไม่ใสใจบ้านเมือง
เมลล์นี้ คงจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้คนไทยเอง เริ่มสนใจการเมืองกันมากขึ้น เริ่มมีความสนใจที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล จากสนใจส่วนตัว ก็เริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนใหญ่ขึ้น และดูจะมีบทบาทในสังคมมาก ซะด้วยสิ
จนปัจจุบันนี้ เริ่มพัฒนาจนมีหลายกลุ่ม หลายกก้อน จน ชักจะเยอะเกินไปไม๊เนี่ย? ??ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป..จะเจ๊ง เอานะ!!!
((ขออภัยที่ บทความนี้อาจจะยาวเกินไปจนทำให้ปวดเศียรเวียนหัวได้
))