ตามหาอาวุธหนัก Morris W-60 และ W-80 Made in Japan เพื่อเอามาบรรจุเข้าคลังแสงครับ

[pizuuh]

ขอบคุณอากฤษณ์มากครับผมที่เข้ามาให้ความรู้อย่างแตกฉานครับผม

ว่าง ๆ อยากหาเวลาเข้าไปลองเล่นกีต้าร์ + หาความรู้ที่บ้านอากฤษณ์จังเลยครับผม ^^

[tohm refeel7]

ได้ความรู้เกี่ยวกับ Morris มากๆ เลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยมากๆ เลยนะครับ

[pood]

ขอบคุณอากฤษณ์มากครับผมที่เข้ามาให้ความรู้อย่างแตกฉานครับผม

ว่าง ๆ อยากหาเวลาเข้าไปลองเล่นกีต้าร์ + หาความรู้ที่บ้านอากฤษณ์จังเลยครับผม ^^

ตามปกติก็มีคนมาเยี่ยมเยียนทุกวันเสาร์อยู่แล้วครับ ถ้ามาผมมี Morris หน้าตาแปลกๆให้ลองด้วยนะ

[zuzaa]

ขอบคุณอากฤษณ์มากครับผมที่เข้ามาให้ความรู้อย่างแตกฉานครับผม

ว่าง ๆ อยากหาเวลาเข้าไปลองเล่นกีต้าร์ + หาความรู้ที่บ้านอากฤษณ์จังเลยครับผม ^^

ตามปกติก็มีคนมาเยี่ยมเยียนทุกวันเสาร์อยู่แล้วครับ ถ้ามาผมมี Morris หน้าตาแปลกๆให้ลองด้วยนะ

ผมขอมาเยี่ยมด้วยคนนะครับ

[tohm refeel7]

มี Morris หน้าตาแปลกๆ ด้วย รบกวนขอความรู้จาก อากฤษณ์ อีกทีนะครับ

ว่า K.Yairi กับ S.Yairi มันต่างกันที่สายพันธุ์ ยังไงเหรอครับ เคยเห็นแต่ไม่รู้เรื่องเลย

ขอบคุณครับ

[pizuuh]

ตัว sunburst นี่เป็น K.Yairi เหนอครับอากฤษณ์

สวยมากเลยครับ

[zenpj]

ว่า K.Yairi กับ S.Yairi มันต่างกันที่สายพันธุ์ ยังไงเหรอครับ เคยเห็นแต่ไม่รู้เรื่องเลย

ขอบคุณครับ

ลองไปอ่านที่พี่กฤษณตอบไว้ดูนะครับ

http://www.nimitguitar.com/mybb/showthread.php?tid=2545

ผมก็ได้ความรู้เรื่อง K. Yairi จากพี่กฤษณนี่แหละ

[pood]

มี Morris หน้าตาแปลกๆ ด้วย รบกวนขอความรู้จาก อากฤษณ์ อีกทีนะครับ

ว่า K.Yairi กับ S.Yairi มันต่างกันที่สายพันธุ์ ยังไงเหรอครับ เคยเห็นแต่ไม่รู้เรื่องเลย

ขอบคุณครับ

Sadao Yairi เกิดปี 1902 (บางเว้บบอก 1908) น่าจะเป็นลุงของ Kazou Yairi ในปี 1923 เขาใด้สมัครเป็นช่างทำ violin ที่ Suzuki Violin ในเมือง Nagoya ทำอยู่ 9 ปีก็ลาออกมาตั้งร้านทำ violin ของตัวเองในปี 1932

ในยุคนั้นคนญี่ปุ่นยังไม่รู้จักว่ากีต้าร์คืออะไรนะครับแต่กีต้าร์นั้นเริ่มใด้รับความนิยมตอนที่ Andres Segovia เริ่ม tour ในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1929 เป็นต้นมา Sadao เองก็เพิ่งใด้จับกีต้าร์สายเอ็นตัวแรกในปี 1940 และหลงไหลมันมากจนเลิกทำ violin ไปเลย ตอนนั้นโรงงานของเขามีช่างอยู่ 7 คนและผลิตกีต้าร์ใด้เดือนละร้อยตัวจนต้องปิดโรงงานไประหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

พอสงครามจบลงในปี 1945 เขาก็เริ่มผลิตกีต้าร์อีกครั้งมาโด่งดังมากในช่วงปลาย 60's ที่สามารถผลิตป้อนตลาดใด้เดือนละ 500 ตัว สมัยนั้นกีต้าร์ S. Yairi นับใด้ว่าเป็นสุดยอดของกีต้าร์ญี่ปุ่นที่ขายในราคาพอๆกับกีต้าร์อเมริกัน ลองมาดูตัวอย่างในคาตาล้อคของ S. Yairi ในยุค 70's กันครับ















นี่เป็นคาตาล้อคปี 1980 ครับ






สองหน้าหลังสุดนี่หน้าตาคุ้นๆไหมครับ

[love666]

ขอบคุณอากฤษณ์มากครับผมที่เข้ามาให้ความรู้อย่างแตกฉานครับผม

ว่าง ๆ อยากหาเวลาเข้าไปลองเล่นกีต้าร์ + หาความรู้ที่บ้านอากฤษณ์จังเลยครับผม ^^

ตามปกติก็มีคนมาเยี่ยมเยียนทุกวันเสาร์อยู่แล้วครับ ถ้ามาผมมี Morris หน้าตาแปลกๆให้ลองด้วยนะ

โอ้ น่าสนใจไปลองมากๆ อิอิ ขออนุญาติไปลองด้วยนะครับ น้ากฤษณ

[pood]

จากคาตาล้อคปี 1980 นี่เห็นใด้ชัดเลยว่าที่ตา George Lowden บอกว่าแกไปจ้างให้โรงงาน S. Yairi ผลิตกีต้าร์ Lowden ให้ตั้งแต่ปี 1980 นั้นคงไม่น่าจะจริงเพราะถ้าจริงแกไม่น่าจะยอมให้เขาแปะยี่ห้อ S. Yairi ไว้บนหัวของกีต้าร์ Lowden แน่นอน ผมว่าทาง Yairi คงซื้อ design ของ Lowden ไปมากกว่าโดยแปะยี่ห้อ Lowden ตอนส่งมาขายที่ยุโรปและอเมริกาเท่านั้น

ถ้าดูในคาตาล้อคปี 1982 จะเห็นใด้ชัดเลยว่ากีต้าร์ S. Yairi ราคาแพงเท่าๆกีต้าร์ Lowden (by S. Yairi) เลยนะครับ









ผมว่าลุง Sadao Yairi แกคิดผิดมากที่ไปซื้อ design ของตา George มาผลิตขายเพราะมันขายไม่ออกครับ ยิ่งทำยิ่งขาดทุนจนถูกฟ้องล้มละลายและโรงงานโดนยึดไปในปี 1985 ในญี่ปุ่นนั้นการเป็นบุคคลล้มละลายนั้นถือเป็นการเสื่อมเสียวงศ์ตระกูลอย่างสุดๆ Sadao Yairi เลยต้องหายหน้าหายตาไปจากวงการโดยไปรับจ้างเป็นที่ปรึกษาให้กับ Samick ในเกาหลีและเสียชีวิตลงในเวลาไม่กี่ปี่ต่อมา ส่วนตา George Lowden นั้นก็หอบผ้าหอบผ่อนกลับไอร์แลนด์ไป

ส่วนกีต้าร์ S. Yairi ที่ขายอยู่ตอนนี้เป็นกีต้าร์ถูกๆทำในจีนครับ ไม่ใด้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ S. Yairi ยุคแรกเลยแต่ชื่อเดียวกันเพราะลูกชายของ Sadao แกขายชื่อไปให้คนอื่นผลิตออกมาขาย


เป็นอันว่าจบตำนานของกีต้าร์ยี่ห้อหนึ่งที่ฝรั่งเขาตั้งชื่อให้ว่าเป็น "The Stradivius of Acoustic Guitar"

ผมยังไม่เคยสัมผัสตัวจริงของ original S. Yairi guitar เลยครับ