ขอถามเกี่ยวกับ takamine หน่อยครับ

[newkaset]

ทำไม takamine เค้าถึงไม่ใช้ ไม่ข้าง(sides) ด้วย solid ล่ะครับ เห็นแม้กระทั้ง รุ่น สูงๆ ของ takamine ก้อลงสเปกไว้ว่าเป็นrosewood ธรรมดาปกติอ่ะครับผม

[pood]

เรื่องนี้เรื่องยาวขนาดเขียนเป็นบทความใด้เลยครับ ขอเวลาหน่อยครับ

[newkaset]

ขอบคุณน้าpood มากเลยครับผม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมสงสัยคาใจมานานแล้ว ขอบคุณน้าpood จากใจอีกครั้งน่ะครับ ^^

[SARUN]

แต่เท่าที่ เห็นๆ จับๆ มา
all soild ของ Takamine คุณภาพเสียงเปล่าค่อนข้างเชื่อถือได้ ไม่ต้องลุ้นจนตัวโก่ง "ว่าขออย่าให้เป็น เสียงTakamineแท้ๆ ทีเท๊อะ !!! "

แต่ผมไม่ค่อยเชื่อ 100 % ว่าการใช้ไม้ solid ด้านข้างของกีต้าร์นั้น จะมีผลทำให้กีต้าร์เสียงดีกว่าการใช้ไม้ laminate
น่าจะเป็นค่านิยมแต่ดั้งเดิม มากกว่า (แต่ถ้าเรื่องว่าทำให้เสียงดังกว่า ก็ไม่่แน่นะ )

ไม้ laminate ก็มีข้อดี ที่ดัดขึ้นรูปง่ายกว่าและแข็งแรงกว่า แถมเลือกลายไม้สวยๆเอามาแปะหน้าได้หลายๆชิ้นด้วย
การที่ takamine เลือกใช้เอามาทำเป็นไม้ข้าง น่าจะเป็นเรื่อง ความเหมาะสมและความสวยงาม มากกว่า

แต่เท่าที่จำได้ น้าPood เองก็มีแต่ "Takamine ปลอม" ที่เป็น all soild ทั้งนั้น

[pood]

ก่อนจะคุยเรื่องไม้ laminate ก็ต้องพูดถึงไม้ solid ที่เอามาทำกีต้าร์กันก่อนครับ การเลื่อยไม้ให้ใด้ความแข็งแรงมากสุดและ sustain ยาวสุดนั้นเขาไม่ใด้เลื่อยแบบไม้กระดาน (plain sawn) นะครับแต่เขาต้องเลื่อยตั้งฉากกับเกรนหรือที่เรียกกันว่า quartersawn ซึ่งสิ้นเปลืองไม้มากกว่าเยอะครับ



คราวนี้มาดูไม้ laminate กันบ้าง การเลื่อยไม้ลายสวยๆเพื่อเอามาปะหน้าไม้อื่นนั้นเขาจะเลื่อยแบบปอกเปลือกครับเพื่อให้ใด้ไม้มากที่สุด ตามปกติแล้วโรงเลื่อยทั่วไปเขาจะเลื่อยแบบ rotary peel หรือ flat peel แล้วแต่ลายที่ต้องการ



ตามปกติเมื่อใด้ veneer แผ่นบางเท่ากระดาษมาแล้วเขาก็เอามาปะหน้าปะหลังไม้ราคาถูก ถ้าเป็นกีต้าร์ที่ทำในเอเชียก็มักใช้ไม้พวก nato หรือ bass wood เป็นไส้กลางแต่ถ้าเป็นพวกกีต้าร์หลังกระทรวงนี้เขาใช้ไม้อัดเป็นไส้ก็ยังมีครับ

THE MARTIN STORY

.ในปี 1990 บริษัท Martin เริ่มตระหนักว่าการเอาไม้ solid wood ล้วนๆมาทำกีต้าร์นั้นในอนาคตจะมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ Martin จึงใด้ค้นคว้าหาทางเอาไม้ laminate มาทำไม้ด้านข้างเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความแข็งแรงโดยไม่มีผลต่อเสียงและก็ผลิตรุ่น D-1 ออกมาในปี 1992

D-1 ใช้ไม้หลังและไม้ข้างเป็น mahogany ที่ไม่มีเกรนมากนักเลยใช้ไม้ laminate และ solid ผสมกันใด้ ต่อมาเมื่อ Martin ต้องการออกรุ่นที่หรูกว่าคือ D-1R ที่ไม้หลังเป็น rosewood ก็เจอปัญหาใหญ่คือไม้ข้างที่เป็น plain sliced และไม้หลังที่เป็น quartersawn นั้นลายมันต่างกันมากมาย (ดูรูปด้านบน) Martin ก็เลยต้องใช้ไม้หลังเป็น laminate เพื่อให้ match กับไม้ข้างครับ

Martin เลยสรุปว่าการใช้ไม้ข้างเป็น laminate และไม้หลังเป็น solid นั้นทำไม่ใด้กับ tonewood ที่มีลายอย่างเช่น rosewood หรือ maple เมื่ออเมริกันทำไม่ใด้แล้วทำไมญี่ปุ่นทำใด้ผมจะเฉลยในตอนต่อไปครับ

[plankton]

ขอบคุณมากครับ น้ากฤษณ์
รอเก็บความรู้ต่อครับ

[newkaset]

โอ้วสุดยอดมากครับน้า pood อ่านแล้วสนุก มันส์จริงๆๆเลย ขอติดตามต่อไปน่ะครับ ^^
อ่านแล้วตื่นเต้นจัง ดูจากรูปแล้ว plain sliced กับ quartersawn เลื่อยคนล่ะทิศทางเลยโอกาสให้ใกล้เคียงกันทำได้ยากมาก อยากรู้จัง japan ทำได้อย่างไร

---

แต่เท่าที่ เห็นๆ จับๆ มา
all soild ของ Takamine คุณภาพเสียงเปล่าค่อนข้างเชื่อถือได้ ไม่ต้องลุ้นจนตัวโก่ง "ว่าขออย่าให้เป็น เสียงTakamineแท้ๆ ทีเท๊อะ !!! "

แต่ผมไม่ค่อยเชื่อ 100 % ว่าการใช้ไม้ solid ด้านข้างของกีต้าร์นั้น จะมีผลทำให้กีต้าร์เสียงดีกว่าการใช้ไม้ laminate
น่าจะเป็นค่านิยมแต่ดั้งเดิม มากกว่า (แต่ถ้าเรื่องว่าทำให้เสียงดังกว่า ก็ไม่่แน่นะ )

ไม้ laminate ก็มีข้อดี ที่ดัดขึ้นรูปง่ายกว่าและแข็งแรงกว่า แถมเลือกลายไม้สวยๆเอามาแปะหน้าได้หลายๆชิ้นด้วย
การที่ takamine เลือกใช้เอามาทำเป็นไม้ข้าง น่าจะเป็นเรื่อง ความเหมาะสมและความสวยงาม มากกว่า

แต่เท่าที่จำได้ น้าPood เองก็มีแต่ "Takamine ปลอม" ที่เป็น all soild ทั้งนั้น

ขอบคุณน้า sarun มากครับผม

[pood]

ตอนนี้เรารู้แล้วนะครับว่าทำไมกีต้าร์อเมริกันถึงไม่มีใครทำ solid back + laminated side เพราะถ้าทำแล้วลายมันไม่มีทางจะเหมือนกัน คราวนี้มาลองดูฝีมือช่างญี่ปุ่นเมื่อสามสิบปีที่แล้วกันครับ





Takamine ตัวนี้คนญี่ปุ่นเจ้าของเดิมเขาบอกว่าเป็นกีต้าร์คลาสสิคตัวแรกของโลกที่มีปรีแอมป์ติดมาจากโรงงาน มันเป็นกีต้าร์โชว์ที่ตา Mass Hirade ทำเองในปี 1980 เพราะตอนนั้นกีต้าร์ Hirade เพิ่งเริ่มผลิตไปขายในอเมริกาใด้เพียงสองปีเท่านั้น ส่วน Hirade ที่เป็น acoustic electric นั้นมาเริ่มผลิตในปี 1984 ครับ

ถ้าดูจากรูปข้างบนจะเห็นใด้ชัดเจนว่ากีต้าร์ตัวนี้ไม้ข้างและไม้หลังเลื่อยมาจากซุงท่อนเดียวกันแน่นอนเพราะมันเป็น old growth stump brazilian rosewood แต่ไม้ข้างเขาฝานเป็นสองแผ่นแล้วทากาวไว้ตรงกลางก่อนเอามาประกบกัน แน่นอนว่าการทำ laminate แบบนี้มันเสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้ไม้ solid แผ่นเดียวซะอีก ผมเดาว่าทางฝ่ายช่างเขากลัวว่าการเจาะไม้ด้านข้างเพื่อใส่ preamp นั้นจะทำให้ไม้แตกเมื่อใช้งานไปนานๆใด้เลยขอกันเหนียวไว้ก่อนดีกว่า




ถ้าน้าๆคิดว่าตา Mass Hirade แก "ปอดแหกไม่เข้าเรื่อง" เพราะเดี๋ยวนี้กีต้าร์ all solid ทุกยีห้อเขาก็เจาะไม้ข้างฝังปรีแอมป์กันทั้งนั้นโดยที่ไม้ไม่แตก เรื่องนี้ก็ไปว่าแกไม่ใด้หรอกครับเพราะสมัยนั้นมีกีต้าร์ยี่ห้อเดียวที่เจาะข้างฝังปรีแอมป์คือยี่ห้อ Ovation ที่ไม่ใด้ทำด้วยไม้เลยไม่มีปัญหา

คำถามคาใจข้อต่อไปก็คือในเมื่อ Takamine ก็รู้แล้วว่าไม้ข้าง solid นั้นมันเจาะใส่ preamp ใด้โดยไม่มีปัญหาแต่ทำไม Takamine ยังดันทุรังใช้ไม้ข้างเป็น laminate อยู่อีก โปรดรออ่านตอนต่อไปครับ

[Bearclaw]

รออ่านด้วยคนครับ

[pood]

ความลับของญี่ปุ่น

โรงงานกีต้าร์ทั่วไปนั้นเขาซื้อไม้มาจากโรงเลื่อยครับ มีแต่โรงงานญี่ปุ่นเท่านั้นที่คลั่งเรื่องไม้จนต้องมีโรงเลื่อยไม้ขนาดเล็กสำหรับทำกีต้าร์เป็นของตัวเองและตระเวณซื้อไม้ไปทั่วโลกเพื่อเอามาทำกีต้าร์ ในยุค '60s นั้นตา Kazou Yairi แกนั่งเรือสินค้าตระเวณไปซื้อไม้ซุงมาเก็บไว้จนเดี๋ยวนี้เขาลือกันว่า K. Yairi มีสต้อคไม้ tone wood มากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับกีต้าร์ยี่ห้ออื่น Takamine เองก็ไม่เบาเหมือนกันเพราะเมื่อสองปีที่แล้วก็ยังเอาไม้ brazilian rosewood ที่เก็บในโกดังมากว่าสี่สิบปีมาทำกีต้าร์ขายอยู่เลย

ถ้าคุณมีโรงเลื่อยของตัวเองคุณจะเลื่อยยังไงก็ใด้แต่ถ้าสั่งไม้ veneer แผ่นบางๆจากโรงเลื่อยใหญ่เขาไม่ทำให้คุณหรอกครับ ผมคิดว่าการทำ lamination ของ Takamine คงจะคล้ายๆกับของ K. Yairi ที่เขาเล่าว่า

"As to the lamination process that Yairi uses, info I found originally was that the ?double wood? back and sides on Yairi guitars are actually superior in many ways to a solid wood guitar. The process Yairi uses to bond two solid pieces of wood is different than a laminated guitar in that they don?t use an inferior grade of wood in between the two solid pieces. The two pieces of solid wood are actually bonded together in such a way that results in a stronger back and sides than that of a solid wood guitar. The stronger back and sides actually force the top to vibrate more giving the guitar better tone quality and projection. The other benefit in building guitar back and sides with this double wood process is that they don?t crack as readily as those with solid back and sides."

ข้อความข้างบนนั้นเป็นเรื่องที่ฝรั่งเล่านะครับแต่ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ใด้หรอกเพราะการเลื่อยไม้เป็นแผ่นบางๆแล้วเอามาประกบกันสองแผ่นนั้นมันแพงกว่าการเลื่อยไม้หนาแผ่นเดียวแน่นอนแถมยังต้องมาเสียค่าแรงติดกาวอีก ผมก็เลยค้นคว้าต่อและพบว่าเขาไม่ใด้เลื่อยแต่เขาใช้วิธี "ปอก" เหมือนการทำไม้ veneer ในรูปข้างบนแหละครับ การปอกของเขานั้นเป็นการฝานตั้งฉากกับเกรนแบบที่โรงเลื่อยปกคิเขาไม่ทำกันตามรูปข้างล่างครับ



เมื่อเทียบกับการเลื่อยแบบ quarter sawn การปอกแบบ quarter sliced จะสิ้นเปลืองไม้น้อยกว่าเยอะและจะใด้ลายเหมือนกับ quarter sawn ด้วย คราวนี้ถ้าเอามาประกบกันก็ดูไม่ออกแน่นอนครับว่าเป็นไม้ solid หรือ laminate เพราะลายไม้มันตรงกันทั้งด้านนอกและด้านใน ผมคิดว่า Takamine รุ่นปัจจุบันเขาคงใช้วิธีนี้แหละครับ

ส่วนในเรืองของเสียงเมื่อเปรียบเทียบกับ all solid นี้ผมเห็นผู้ผลิตทุกเจ้าแม้แต่ Martin เองก็บอกว่าไม่มีทางฟังออกครับแต่ที่แน่ๆก็คือ laminated side แข็งแรงกว่า solid side เยอะครับ เหตุผลที่กีต้าร์ส่วนใหญ่เขาทำเป็น all solid กันก็เพราะมันเป็นความนิยมแต่ดั้งเดิมของคนซื้อมากกว่าและการทำ laminate ให้ลายเหมือน solid ก็ทำไม่ใด้ด้วยถ้าคุณไม่มีโรงเลื่อยอยู่หลังโรงงาน

ลองทายดูครับว่ากีต้าร์สองตัวนี้ตัวไหนเป็น solid back, laminated side