นกเขาไฟ

[Run]

ผมกำลังพยายามฝึกเรื่องจังหวะอยู่นะครับ เป็นคนจังหวะไม่ดีเลย
ชอบคร่อมอยู่เรื่อยเชียว เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าอีกต่างหาก

เพลงของน้าหมู พงศ์เทพ กระโดนชำนาญนี่เพราะดีนะครับ
แต่บอกตรงๆว่า เนื้อเพลงนี่บางทีก็ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจหรอก

[SARUN]

เพลงของน้าหมู พงศ์เทพ กระโดนชำนาญนี่เพราะดีนะครับ
แต่บอกตรงๆว่า เนื้อเพลงนี่บางทีก็ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจหรอก

เอกลักษณ์เพลงของน้าหมูนี่จะอยู่ที่ "ภาษาสวย" ส่วนท่วงทำนองนี่จะหยิบกลิ่นเอาเพลงพื้นบ้านมา โดยใช้ความรู้สึกนึกคิดที่เคยได้สัมผัส ออกมาเป็นท่วงทำนองที่เหมาะเจาะกับเนื้อเพลง

เพลงนี้ กลิ่นจะออกไปทาง ละล้อ ซอ ซึง แบบภาคเหนือ ครับ ทั้งๆที่น้าหมูเป้นคนโคราช สาเหตุก็เพราะ มีช่วงนึงแกหลบเข้าป่า และไปอยู่ที่ น่าน ดังนั้น เพลงนี้ จึงเป้นผลผลิตจากศิลปินที่บรรยายอารมรณ์ออกมาในขณะนั้น

ส่วนเนื้อหา นกเขาไฟ เป็นเนื้อหาที่เล่าเรื่องความสวยงามของความรัก ที่ ผู้หญิง มีให้กับผู้ชาย ในแบบคนพื้นเมืองชาวเขากลุ่มนึงใน จ.น่าน ลักษณะเนื้อเพลงจะบรรยายกรรมวิธีที่จะบรรจงทำอะไรซักอย่างเพื่อให้ฝ่ายชายทราบว่ากำลังปิ๊งอยู่ โดยใช้เวลา และธรรมชาติเป็นสิ่้งที่เอามาผสานกัน และ เจ้า 2 สิ่งนี้ น้าหมูมองเห็นเป็น ความอดทนของสตรีในการถ่ายทอดความรัก เขาจึงเอา นกเขาไฟ มาเป้นสัญลักษณ์ของสตรี อีกที (เข้าใจว่านกชนิดนี้ คงอึดน่าดู!)
ถ้าเข้าใจตามนี้ ลองพิจารณาเนื้อเพลงอีกรอบ แล้วลองร้องอีกซักเที่ยว แล้วจะนึกอะไรๆออกได้อีกเยอะ ((ถ้าเข้าใจว่าภรรยารักคุณแค่ไหน คุณก็จะตีความอารมณ์เพลงนี้ได้เท่านั้น))

แล้วด้วยเพลงน้าหมูส่วนมาก มักจะเป็นรากเงาของเพลงพื้นบ้าน และร้อยเรียงออกมาจากคลื่นอารมณ์ บทเพลง จึงไม่ค่อยเป็นไปตามหลักทฤษฎีดนตรีสากลเท่าใดนัก ดังนั้น น้า Run เล่นแบบจังหวะไม่ดีเลย ก็ดูจะตรงและลงตัวกับลักษณะเพลงนี้ได้อย่างแนบเนียน
((เข้าข้างสุดฤทธิ์ ))

จังหวะไม่คม แต่อารมณ์ต้องได้ นี่ละครับถึงจะเป็นเพลง!! เชื้อพ๊มมมม!!!

[karn]

ผมกำลังพยายามฝึกเรื่องจังหวะอยู่นะครับ เป็นคนจังหวะไม่ดีเลย
ชอบคร่อมอยู่เรื่อยเชียว เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าอีกต่างหาก

น้า RUN ตีโจทย์เพลงนี้แตกดังโพ๊ละเลยครับ
(อ้างอิงจากเนื้อหาเพลงตามน้า SARUN ว่าไว้)

[Katayoot]

เล่นได้ดีเลยครับ เพลงนี้ผมเล่นมั่วมาก ๆ

น้าซ่าส์ บรรยายได้เยี่ยมครับ.. (และขอชมในความกล้า ที่บรรยายเพลงแนวนี้ ในเวบนี้ .. อิ ๆ )

[Run]

ขอบคุณน้าSARUNมากเลยนะครับ ที่ช่วยให้ข้อมูลลึกซึ้ง น้านี่นอกจากจะเก่งแล้วยังรอบรู้กว้างขวางจริงๆ ผมนับถือหมดใจ
ชอบประโยคสุดท้ายมากครับ
จังหวะไม่คม แต่อารมณ์ต้องได้ ฟังแล้วรู้สึกชอบจัง

ขอบคุณน้าkarn กับน้าหนุ่มด้วยครับ ที่ช่วยให้กำลังใจ ^^

[noomxman]

เพราะมากครับ

[napman]

Dear Run,

I've seen this thread of yours few days ago and thought about responding to it. So here I go and will adding some more thought to it later, but for now I'll let you enjoy this song first. It's pretty long lyric but I think the meaning is well wasted of time to listen to;

Mister Tanner was a cleaner from a town in the Midwest.
And of all the cleaning shops around he'd made his the best.
But he also was a baritone who sang while hanging clothes.
He practiced scales while pressing tails and sang at local shows.
His friends and neighbors praised the voice that poured out from his throat.
They said that he should use his gift instead of cleaning coats.

But music was his life, it was not his livelihood,
and it made him feel so happy and it made him feel so good.
And he sang from his heart and he sang from his soul.
He did not know how well he sang; It just made him whole.

His friends kept working on him to try music out full time.
A big debut and rave reviews, a great career to climb.
Finally they got to him, he would take the fling.
A concert agent in New York agreed to have him sing.
And there were plane tickets, phone calls, money spent to rent the hall.
It took most of his savings but he gladly used them all.

But music was his life, it was not his livelihood,
and it made him feel so happy and it made him feel so good.
And he sang from his heart and he sang from his soul.
He did not know how well he sang; It just made him whole.

The evening came, he took the stage, his face set in a smile.
And in the half filled hall the critics sat watching on the aisle.
But the concert was a blur to him, spatters of applause.
He did not know how well he sang, he only heard the flaws.
But the critics were concise, it only took four lines.
But no one could accuse them of being over kind.

(spoken) Mr. Martin Tanner, Baritone, of Dayton, Ohio made his
Town Hall debut last night. He came well prepared, but unfortunately
his presentation was not up to contemporary professional standards.
His voice lacks the range of tonal color necessary to make it
consistently interesting.
(sung) Full time consideration of another endeavor might be in order.

He came home to Dayton and was questioned by his friends.
Then he smiled and just said nothing and he never sang again,
excepting very late at night when the shop was dark and closed.
He sang softly to himself as he sorted through the clothes.
Music was his life, it was not his livelihood,
and it made him feel so happy and it made him feel so good.
And he sang from his heart and he sang from his soul.
He did not know how well he sang; It just made him whole. "

---

ผมกำลังพยายามฝึกเรื่องจังหวะอยู่นะครับ เป็นคนจังหวะไม่ดีเลย
ชอบคร่อมอยู่เรื่อยเชียว เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าอีกต่างหาก

You may be right but really WHO CARES??

You enjoy your performing art and you are generous enough to share your Joy of music with us. We should be grateful for that.

Let's face it. Nobody will be great or even good at everything. It takes some courage to display your weakness to the public. I for one enjoy your MUSIC no matter how the others think. Be cool and share with us some more. Don't be like Mr. Tanner OK???

[Run]

ขอบคุณน้า noonxman นะครับไม่รู้พูดจริงรึเปล่า แต้ก็แอบดีใจละนะ อิอิ

ขอบพระคุณน้าnap man ผู้ระอุอุ่นเสมอ
ผมจะไม่เอาอย่างอีตา Tanner ครับ ผมจะมีความสุขและสนุกที่ได้เล่นครับ ^^