GIBSON ACOUSTIC รุ่นโบราณสามรุ่น

[pood]

1936 GIBSON L-00


เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว กีต้าร์ Gibson นั้นครองตลาด archtop ในขณะที่ Martin นั้นครองตลาดกีต้าร์ flat top ที่มีคนซื้อมากกว่าเยอะ พอกีต้าร์โปร่งเริ่มใด้รับความนิยมในยุค 1920s Gibson ก็เลยเริ่มทำ flat top ออกมาขายบ้าง รุ่นแรกๆคือ L-0 และ L-1 นั้นเป็นกีต้าร์ตัวเล็กราคาไม่แพง (ประมาณ $30 ตอนนั้น Martin 0-18 ราคา $35) เริ่มวางตลาดในปี 1926 แต่โดยใช้ไม้หลัง maple แต่ไม่ใด้รับความนิยมเลยเปลี่ยนเป็น mahogany ในปี 1928 ต่อมาในปี 1929 ก็มีการขยายขนาดความกว้างของก้นจาก 13.5? เป็น 14.75? และเพิ่มความหนาเป็น 4.5? และใด้รับชื่อใหม่ว่า L-00 ในปี 1932

กีต้าร์ต้นแบบของ L-00 คือรุ่น Nick Lucas ซึ่งวางตลาดในปี 1928 และเป็น signature model รุ่นแรกของโลก L-00 เลิกผลิตในปี 1945 เพราะสมัยนั้นกีต้าร์ทรง dreadnought อย่าง J-45 ใด้รับความนิยมมากกว่า Gibson ออกรุ่น reissue ของ 1936 L-00 มาครั้งแรกในปี 1992-1996 ครั้งที่สองในปี 1999-2002 และออกรุ่น 1937 L-00 (list price $6880) มาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงทุกวันนี้ครับ

ตัวนี้คือ 1936 L-00 Reissue



























L-00 เป็นกีต้าร์ที่เสียงดังเกินตัวเพราะ body หนาพอๆกับกีต้าร์ dreadnought จุดเด่นของรุ่นนี้ (บางตัว) คือความหวานของเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของมันครับ

---

1964 GIBSON J-160E (กีต้าร์ในฝันของผมเมื่อตอนเด็ก)

ผมเกิดมาในยุคเฟื่องฟูของกีต้าร์ไฟฟ้า Fender และวงสตริง ในสมัยปลายยุค ?50s นั้นใด้มีการพลิกโฉมของดนตรีร้อคใหม่หมดโดยวงที่ใช้เครื่องดนตรีเพียง 4 ชิ้นคือกีต้าร์ไฟฟ้า 2 ตัวเบส 1 ตัวและกลอง 1 ชุด วงแรกๆที่ดังระเบิดคือวง The Ventures และวง The Shadows จนคนไทยสมัยนั้นเรียกวงดนตรีประเภทนี้ว่า ?วงชาโดว์? กันจนติดปากไปเลย ส่วนกีต้าร์โปร่งนั้นไม่มีเด็กไทยสนใจเลยซักคนครับ Martin ก็ไม่มีใครรู้จักเพราะอ่านยี่ห้อที่หัวมันตอนไปดูหนังไม่ออกหรอกครับ


สมัยนั้นวง The Venture ใช้ Strat และ Jazzmaster ส่วนวง The Shadows นั้นใช้ Strat และ Tele โดยทั้งสองวงใช้ Strat เป็นกีต้าร์โซโล่ส่วน (กีต้าร์ Gibson solid body นั้นมาแจ้งเกิดในยุคกลาง 60s ครับ)

มาวันหนึ่งผมไปดูหนังที่ศาลาเฉลิมไทย ก่อนหนังใหญ่จะเริ่มมีการเอาคอนเสริตสั้นๆของวงใหม่ที่กำลังฮิตในอังกฤษมาฉาย วงนี้นี่เองที่ทำให้ผมใด้รู้จักกีต้าร์โปร่งของชาวร้อคเป็นครั้งแรกครับ




สมัยนั้นวงวัยรุ่นไม่มีใครใช้กีต้าร์โปร่งเลยผมก็เลยไม่ใด้โหยหาเจ้า J-160E นัก ตอนไปเรียนที่อเมริกาผมก็คิดจะไปซื้อมาเล่นซักตัวแต่พอใด้ลองตัวจริงเสียงจริงแล้วก็ผิดหวังเพราะเสียงเปล่าๆมันเบามาก ต่อมาถึงใด้รู้ว่าเขาออกแบบมาให้ใช้เล่นบนเวทีโดยไม่มี feedback เขาเลยใช้ไม้ laminate ทั้งตัวและใช้ ladder bracing อีกด้วย
ตัวนี้เป็น 1964 reissue ซึ่งเป็นกีต้าร์ตัวที่สองของ John Lennon ตัวนี้ซื้อมาเพราะสภาพมันขลังดีโดยไม่ใด้หวังเรื่องเสียงเท่าไหร่นัก

































พอใด้มาก็เริ่มค้นคว้าแบบจริงจังก็เลยรู้ว่ารุ่นนี้มีคนหลงไหลกันเยอะเพราะอะไร พวกกูรูเขาบอกว่าอย่าไปคิดว่ามันเป็นกีต้าร์โปร่งแต่ให้คิดว่ามันคือกีต้าร์ไฟฟ้าที่เล่นโดยไม่ต้องเสียบแอมป์ใด้ สมัย The Beatles นั้น John และ George ก็เสียบแอมป์กีต้าร์ไฟฟ้าเล่น (สมัยนั้นไม่มีแอมป์กีต้าร์โปร่ง) และใช้สาย flat wound เท่านั้น พอลองเปลี่ยนสายจากสาย acoustic เป็น flat wound เจ้า P-90 pickup ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันที พอเสียบกับแอมป์หลอดเข้าไปคราวนี้มันก็แสดงศักยภาพออกมา 100% แบบไม่น่าเชื่อ ลองฟังดูครับ

[folkussion]

สุดยอด...ยอดสุด เลยครับพี่

[napman]

Thanks Pood

[วันละเป๊ก]

กราบขอบพระคุณพี่กฤษที่ให้ความรู้มากมายอีกครั้งครับ เพิ่งเคยได้ฟัง L-00 ครับ เพราะมากครับ
ขอถามหน่อยครับว่าเจ้า L-00 กับรุ่น Blue King มันคือรุ่นเดียวกันป่าวครับ
ผมยังไม่มีโอกาสเอา Gibson Archtop ไปให้พี่ติชมเลยครับ

ขอบพระคุณพี่หนึ่งสำหรับเสียงเพลงเพราะๆนะครับ

[pood]

1978 Gibson J-50

J-50 นั้นผลิตออกมาในปี 1945 โดยสเป็คเหมือน J-45 ทุกอย่างนอกจากเป็นสี natural และราคาแพงกว่า $5 รุ่นแรกๆเป็น round shoulder และมาเปลี่ยนเป็น square shoulder ในปี 1969 ตัวของผมแปลกตรงที่เป็น scale 25.5? แทนที่จะเป็น 24.75? เหมือน J-45 ครับ ตัวนี้เป็นปี 1978 ครับ



















รูปรุ่นแรกที่ไหล่มนครับ




ตอนเอาตัวนี้ไปที่งานชุมนุม Gibson ทรง J หลายคนคงคิดว่ามันเป็นกีต้าร์ blues เพราะเสียงมันดุดันอย่างในคลิปข้างล่าง



ความจริงแล้วที่เสียงออกแอมป์มันดุเพราะ pickup มันเป็น Fishman Rare Earth Humbucker รุ่นโบราณที่เน้นเสียงกลางเป็นหลักครับ เสียงเปล่าๆของมันนั้นออกไปทางอ่อนหวานนุ่มนวลด้วยซ้ำอย่างในคลิปต่อไป



วันนี้แค่สามตัวก่อนนะครับ ตัวอื่นยังไม่ใด้เอามาจากบ้านครับ

---

กราบขอบพระคุณพี่กฤษที่ให้ความรู้มากมายอีกครั้งครับ เพิ่งเคยได้ฟัง L-00 ครับ เพราะมากครับ
ขอถามหน่อยครับว่าเจ้า L-00 กับรุ่น Blue King มันคือรุ่นเดียวกันป่าวครับ
ผมยังไม่มีโอกาสเอา Gibson Archtop ไปให้พี่ติชมเลยครับ

ขอบพระคุณพี่หนึ่งสำหรับเสียงเพลงเพราะๆนะครับ

L-00 กับ Blues King ถ้าดูรูปด้านหน้าจะคล้ายกันครับแต่ความจริงแล้ว Blues King นั้นเป็น design ใหม่ซึ่งผลิตอยู่สองช่วงคือระหว่างปี 1994-1996 และ 2003 ถึงปัจจุบัน

Blues King นั้นถ้าดูด้านข้างจะแตกต่างจาก L-00 อย่างชัดเจนเพราะเป็น tapered body ที่ด้านคอจะหนาน้อยกว่าด้านก้นถึง 7/8" ทำให้เสียงบางกว่าแต่พุ่งกว่า ถ้าเล่นแต่เพลง blues ก็น่าจะดีแต่ถ้าเล่นกว้างๆนี่ L-00 ดีกว่าแน่นอนครับ

Blues King นั้นคงหากล่องใส่พอดีพอดีไม่ใด้หรอกครับดังนั้นมันเลยมากับ gig bag ส่วน L-00 นั้นมากับ hard case ครับ

ลองฟังเสียง Blues King ดูครับ ผมว่าเสียงของมันออกไปทาง resonator guitar มากกว่าครับ

[pood]

?GIBSON THUMP !!!?

แฟน Gibson น่าจะเคยใด้ยินคำนี้มาบ้างนะครับ Gibson thump นั้นเป็น character ที่บรรยายเสียงของ Gibson รุ่น vintage ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยี่ห้อนี้ ผมขอยกคำอธิบายมาเป็นภาษาอังกฤษนะครับเพราะถ้าแปลเป็นไทยแล้วจะอ่านไม่รู้เรื่อง

"Martins love that harmonic cascading grand piano thing, and the volume of a good one fills up the room like a cotton candy kernel just popped.

But Gibsons? They concentrate on the Big Fundamental, and have a visceral thump that pummels you, like someone in that cotton candy room just threw a sledgehammer just at you. So nope, Gibsons won't shimmer and sheen with overtones, which Martin lovers will call "dead." But Gibson lovers rely on the more focused attack to really pound out some honkeytonk blues like Martin only wished it could do."

"Gibson Thump__"I like the notes to jump off the fretboard, do their business fairly quickly, and get out of the way for the next note".

ที่ผมระบุว่า ?Gibson Thump? นั้นเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Vintage และ Vintage reissue ก็เพราะ Gibson รุ่นใหม่นั้นเสียงจะออกมาคล้ายยี่ห้ออื่นๆมากกว่ารุ่นเก่าครับ มีคนเขาอธิบายไว้ดังนี้

"There is old school Gibson tone and there is new school Gibson tone. Pretty much if you like old school Gibson tone you have to buy an old Gibson. Because Ren apparently has pretty wide latitude in his designs, Bozeman Gibsons are more representations of older guitars than balls on accurate reproductions of something from their past catalogs - with the exception of the rather pricey Legend Series. Bracing, as example, while it may be positioned the same as on a 1930s or 1940s guitar is shaped differently. Not saying one is better than the other - just different. And Gibson Monatan can make a heck of a guitar. If anything, to my ears the newer Gibsons are brighter sounding and a bit boomier than their older kin.

If there is one complaint you hear about Bozeman-made Gibsons it is that they are incredibly inconsistent in sound and build quality (things such as sloppy cuts on the kerfing). Ya just may have to go through a bunch to find a keeper but when you do you got yourself a dose of magic. Some of the best Gibsons I have heard have come out of Gibson particularly those made in the Custom Shop. Then again, some of the worst Gibsons I have ever played also came out of Bozeman".

ย่อหน้าสุดท้ายนี่ผมเห็นด้วยอย่างแรง ผมเองก็ใด้ลอง Gibson มาแล้วเป็นร้อยตัวและใด้ครอบครองมาไม่ต่ำกว่าสามสิบตัว ตัวที่ผมชอบจริงๆนั้นคงจะอยู่กับผมไปจนตายเพราะถ้าขายไปก็หาใหม่ไม่ใด้ที่เสียงเหมือนกันแม้จะเป็นรุ่นเดียวกันก็ตาม ส่วนยี่ห้ออื่นๆนั้นใครอยากซื้อผมก็ขายเพราะผมสามารถหาตัวใหม่ใด้ที่เสียงเหมือนตัวเก่า

ลองกลับไปฟังคลิปข้างบนดูครับว่า "Gibson Thump" มันคืออะไรกันแน่หรือฟังจากคลิปนี้ก็ใด้ครับ




ส่วน "New Tone" ของ Gibson ที่เริ่มมี harmonic เหมือน Martin และ shimmer เหมือน Taylor และมีย่านเบสที่หนาขึ้นแต่กระแทกกระทั้น (Thump) น้อยลงนั้นน่าจะเริ่มจาก Custom Line series (CL) ที่ผลิตออกมาในปี 1996 ตามมาด้วย Songwriter Series ครับ มาลองฟังเสียงดู ผมว่าถ้าหลับตาฟังคงเดาไม่ถูกว่ามันคือ Gibson หรอกครับ (CL series ยังไม่ใด้อัดเสียงครับ)

[iTui]

ต้องขอขอบคุณพี่กฤษณอย่างมากที่ได้ให้ความรู้ ลึก และแท้จริง ไม่เพียงแต่พี่จะมีข้อมูลความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับกีต้าร์ Gibson แต่ละรุ่นแล้ว พี่ยังมีตัวกีต้าร์อยู่จริงๆ ทำให้ถ่ายทอดความรู้ได้อย่างดีเยี่ยม และขออนุญาตเป็นศิษย์คอยรับความรู้ดีๆ อย่างนี้อีกต่อๆ ไปด้วยนะครับพี่

[noomxman]

ขอบคุณครับพี่ ความรู้ดีๆทั้งนั้นเลยครับ ขอเก็บไปเพิ่มในคลังความรู้นะครับ

[pood]

ผมคิดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีทองของคนรักกีต้าร์โปร่ง Gibson นะครับเพราะตามปกติแล้วกีต้าร์ยี่ห้อนี้ในราคาหกหลักนั้นหาลองยากมากแต่กลับมีสมาชิกหลายท่านสั่งเข้ามาให้เราใด้ลองกันก่อนตัดสินใจซื้อ ผมต้องขอขอบคุณท่านสมาชิกกลุ่มนี้จริงๆครับเพราะผมเองไม่กล้าพอที่จะซื้อกีต้าร์ราคาเป็นแสนโดยไม่ใด้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงก่อน

ผู้กล้ากลุ่มนี้แหละครับที่จะเป็นผู้ให้กำเนิดตลาดสะสมกีต้าร์ในประเทศไทยที่ยังไม่เคยมีมาก่อน ผมว่าขณะนี้มีคนไทยที่มีบ้าน ที่ดินและรถยนตร์ที่ราคาเกินสิบล้านบาทเป็นแสนคนแต่คนที่มีกีต้าร์สะสมราคารวมกันเกินสิบล้านบาทไม่เกินยี่สิบคนครับ ตลาดกีต้าร์สะสมนั้นยังโตใด้อีกมหาศาลเพราะัคนไทยที่มีสตางค์ก็รวยไม่แพ้คนชาติอื่น ตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนที่แล้ว Music Concept นำเข้า Fender Custom Shop รุ่นแพงๆมายี่สิบตัวตอนเปิดงาน Fender Custom Shop "Pan Pacific Tour" ผมใด้ข่าวว่าขายหมดเรียบร้อยในวันงานครับ

เพื่อนสมาชิกที่เข้ามาดูหน้า gallery ของผมนั้นส่วนใหญ่เข้ามาหาและแลกเปลี่ยนความรู้และประสพการณ์มากกว่าที่จะมาดูกีต้าร์สวยๆโดยไม่สนใจว่าเสียงมันเป็นยังไงซึ่งก็คงเหมือนกับการซื้อหนังสือ Playboy มาอ่านจากหน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายก่อนจะเปิดดู centerfold

ตอนนี้ผมก็ยังเสาะหากีต้าร์เสียงดีราคาไม่แพงอยู่ครับทั้งๆที่ผมก็เคยซื้อมาหลายร้อยตัวแล้ว แปลกดีเหมือนกันว่าทำไมผมถึงยังไม่เบื่อ เมื่อก่อนนี้ผมเคยเที่ยวราตรีแบบหัวราน้ำแต่มาวันหนึ่งก็เกิดเบื่อขึ้นมาเฉยๆเพราะมันเป็นโลกที่ไม่มีความจริงใจให้กันแม้แต่น้อย (ถ้าผมให้คุณอ่านหนังสือเล่มเดียวกันแต่เปลี่ยนหน้าปกไปเรื่อยๆคุณจะอ่านใด้กี่หนก่อนจะเบื่อ มันก็เหมือนไปจีบสาวตอนไปเที่ยวแหละครับ หน้าตานั้นแตกต่างกันแน่นอนแต่ใส้ในเหมือนกันทุกคน)

[lekleklek]

ตอนนี้ผมก็ยังเสาะหากีต้าร์เสียงดีราคาไม่แพงอยู่ครับทั้งๆที่ผมก็เคยซื้อมาหลายร้อยตัวแล้ว แปลกดีเหมือนกันว่าทำไมผมถึงยังไม่เบื่อ เมื่อก่อนนี้ผมเคยเที่ยวราตรีแบบหัวราน้ำแต่มาวันหนึ่งก็เกิดเบื่อขึ้นมาเฉยๆเพราะมันเป็นโลกที่ไม่มีความจริงใจให้กันแม้แต่น้อย (ถ้าผมให้คุณอ่านหนังสือเล่มเดียวกันแต่เปลี่ยนหน้าปกไปเรื่อยๆคุณจะอ่านใด้กี่หนก่อนจะเบื่อ มันก็เหมือนไปจีบสาวตอนไปเที่ยวแหละครับ หน้าตานั้นแตกต่างกันแน่นอนแต่ใส้ในเหมือนกันทุกคน)

สุดยอดครับ นับถือพี่กริดมากครับ ตำราเดินได้ของผม ...